ชาวนาเดือดร้อนบุกร้องผู้ว่าฯ พัทลุง เหตุโรงสีปิดรับจำนำข้าว

พัทลุง - แกนนำชาวนาในพื้นที่ จ.พัทลุง บุกศาลากลางร้องผู้ว่าฯ เหตุโรงสีปิดรับจำนำข้าวตามนโยบายของรัฐบาล ส่งผลให้ชาวนาได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ผู้ว่าฯ แจงขณะนี้ได้ทำหนังสือขอขยายเวลาของการรับจำนำในปี 56 แล้ว แต่อยู่ระหว่างการรับสมัครโรงสีที่จะเข้าร่วม

วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า แกนนำเกษตรกรชาวนาในพื้นที่ ต.ลำปำ ต.พญาขัน ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง จำนวน 50 คน บุกศาลากลางจังหวัดพัทลุง ร้องขอความช่วยเหลือจากนายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด หลังโรงสีทุกโรงในพื้นที่ไม่เปิดรับจำนำข้าวจากเกษตรกร โดยโรงสีต่างๆ ระบุว่าปิดรับจำนำข้าวตามนโยบายของรัฐบาลที่มีมติสิ้นสุดการรับจำนำข้าวนาปรังเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา

นางอุทัย หมวดทอง อายุ 42 ปี เกษตรกรชาวนา ระบุว่า การปิดรับจำนำของโรงสีต่างๆ ในพื้นที่ไม่มีการแจ้งให้เกษตรกรทราบล่วงหน้า ทั้งในใบรับรองที่สำนักงานเกษตรออกให้แก่เกษตรกรระบุระยะเวลาสิ้นสุดการเก็บเกี่ยวข้าวในวันที่ 25 พ.ย.55 ทำให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวในพื้นที่ 3 ตำบล กว่า 7,000 ไร่ ได้รับความเดือดร้อน บางรายเก็บเกี่ยวข้าวแล้วไม่รู้จะนำไปไหนเกษตรกรทุกรายไม่มียุ้งฉางในการเก็บข้าว และยังมีข้าวของเกษตรกรจำนวนหลายรายที่สุกเต็มที่จำเป็นต้องเร่งเก็บเกี่ยวเนื่องจากกลัวจะได้รับความเสียหายจากสภาพฝนที่ตกลงมาตลอดในระยะนี้

นางอุทัย ยังระบุด้วยว่า ชาวนาทุกรายยังมีหนี้สิ้นที่เกิดจากการทำนา ทั้งเรื่องค่าปุ๋ย ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่ารถตัดข้าวที่รอการจ่ายคืน ทำให้ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจึงได้รวมตัวกันมาร้องขอความช่วยเหลือกับทางจังหวัด ให้ทางจังหวัดได้หาวิธีในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่กลุ่มเกษตรกร

นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ชี้แจงกับกลุ่มเกษตรกรเบื้องต้นว่า ล่าสุด ทางจังหวัดได้ทำหนังสือขอขยายระยะเวลาในการรับจำนำข้าวนาปรังไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดการขยายเวลาได้ แต่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อนุโลมที่จะให้เกษตรกรชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่จังหวัดพัทลุงนำข้าวเข้าจำนำกับโรงสีได้ในโครงการจำนำข้าวนาปี 55/56 ซึ่งเริ่มเปิดรับจำนวนในวันที่ 1 พ.ย.55 ยาวไปถึง 31 ต.ค.56 แต่ในระยะนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากอยู่ในช่องว่างของกระบวนการรับสมัครโรงสีเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวนาปี 55/56 ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง อย่างไรก็ดี ทางจังหวัดจะได้เร่งเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดเข้าประชุมด่วนเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาให้แก่เกษตรกรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว