สุรินทร์ - เมืองช้างเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2555/65 ได้แล้วหลังช้ามาร่วมเดือน แต่ไร้ซึ่งความพร้อมในทุกด้าน ชาวนาโวยยังไม่ได้รับหนังสือรับรองขึ้นทะเบียนเกษตรกร ทำให้ยังนำข้าวจำนำไม่ได้ บางรายจำใจขายข้าวราคาต่ำ ส่วนหน่วยงานรัฐที่จะเข้าร่วมตรวจสอบจำนำข้าวยังหายหัวไม่ใครโผล่มา เกษตรกรวอนรัฐบาลจ่ายเงินให้เร็วกว่าปีที่ผ่านมาที่โคตรช้า 4-5 เดือนถึงได้รับเงิน
วันนี้ (24 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.สุรินทร์ ได้มีการเปิดรับจำนำข้าวโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2555/2556 เป็นวันแรกไปเมื่อวานนี้ (23 ต.ค.) หลังล่าช้ามานานร่วมเดือน โดยมีโรงสีข้าวที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวกับทางรัฐบาล โดยองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กำกับดูแล ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ทั้งสิ้น จำนวน 33 โรงสี และเปิดจุดรับจำนำนอกโรงสีอีกจำนวน 60 จุด
โดยขณะนี้มีโรงสีข้าวทำการเปิดรับจำนำข้าวแล้วจำนวน 6 แห่ง แบ่งเป็นโรงสีข้าวในเขตอำเภอเมืองสุรินทร์ จำนวน 5 แห่ง และ อ.ชุมพลบุรี จำนวน 1 แห่ง ซึ่งข้าวเปลือกที่ชาวนาสุรินทร์ นำมาจำนำหรือมาขาย ในช่วงนี้ เป็นข้าวเปลือกหอมมะลิพันธุ์ กข.15 ที่เก็บเกี่ยวได้ก่อนข้าวหอมมะลิ พันธุ์ กข.105
สำหรับราคารับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ ณ โรงสีข้าวในปัจจุบัน อยู่ที่ตันละ 14,429-15,275 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชื้นของข้าวเปลือกเป็นหลัก ซึ่งพบว่าชาวนาส่วนใหญ่ เก็บเกี่ยวข้าวแล้วจะนำมาขาย หรือนำมาเข้าร่วมโครงการจำนำที่โรงสีข้าวทันที ไม่มีการตากให้แห้งเพราะไม่มีสถานที่ตากข้าว ความชื้นจึงสูง อยู่ที่ 27-30% จึงขายได้ราคาต่ำ ทำให้ชาวนาบางรายไม่ยอมขายข้าวในช่วงนี้
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์การรับจำนำข้าวที่โรงสีข้าว กิจเจริญพรชัย ชมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ของรัฐบาล พบว่า เกษตรกรได้ทยอยนำข้าวเปลือกหอมมะลิ พันธุ์ กข.15 มาเข้าร่วมโครงการจำนำข้าวในราคาตันละ 15,000 บาท แต่ชาวนาส่วนใหญ่ยังไม่มีความพร้อม ในการนำข้าวเข้าร่วมโครงการฯ เพราะยังไม่ได้รับหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในฤดูการผลิต ปี 2555/2556
เกษตรกรบอกว่า ไม่ทราบสาเหตุใดจึงยังไม่ได้รับหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในฤดูกาลผลิต ปี 2555/2556 ทำให้ยังเข้าร่วมโครงการจำนำข้าวไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขายข้าวในราคาต่ำกว่าราคารับจำนำ บางรายต้องขนข้าวเปลือกกลับบ้านไปก่อนเพื่อรอให้ได้รับหนังสือการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในฤดูกาลผลิตปี 2555/2556 และต้องตากข้าวให้แห้ง ขณะที่ชาวนาหลายรายได้ขนข้าวไปขายที่โรงสีแห่งอื่น เผื่อจะได้ราคาสูงขึ้น
ขณะที่ความพร้อมของทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในโครงการรับจำข้าว รวมทั้งตัวแทนเกษตรกร เจ้าหน้าที่ตำรวจและตัวแทนส่วนราชการต่างๆ ที่จะเข้าร่วมตรวจสอบการรับจำนำข้าวโดยประจำจุดต่างๆ ตามโรงสีที่ร่วมโครงการฯ นั้นก็ยังไม่มีความพร้อมและยังไม่มีใครเดินทางมาร่วมตรวจสอบการรับจำนำข้าวตามที่ประกาศไว้แต่อย่างใด
ทางด้านชาวนาบางคนบอกว่าพึงพอใจกับราคาจำนำข้าวในปีนี้ที่ตันละ 15,000 บาท แต่ต้องการให้รัฐบาลจ่ายเงินให้เร็วกว่าปีที่ผ่านมา เพราะจำนำข้าวไปแล้วต้องรอนานถึง 4-5 เดือน ถึงจะได้รับเงิน