เชียงราย - ผู้ว่าฯ เชียงรายนำคณะออกตรวจโกดังเก็บข้าวนาปรัง ก่อนลั่นกุญแจใหม่ล็อกประตู พร้อมเตรียมเปิดโกดังใหม่รับข้าวนาปี 56 ที่จะเริ่มเก็บเกี่ยวตั้งแต่พฤศจิกายนนี้ ออกหน้าการันตี “จำนำข้าวไร้ปัญหา”
วันนี้ (18 ต.ค.) คณะอนุกรรมการดูแลการรับจำนำข้าว จ.เชียงราย นำโดยนายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้นำคณะออกตรวจสอบโกดังเก็บข้าวนาปรังตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2555 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2556 ซึ่งชาวนากำลังเก็บเกี่ยว
จุดแรกได้ไปตรวจคลังสินค้ากลางของนายแยน เต็งเจริญพงศ์ธร เลขที่ 236 ม.17 ต.สันกลาง อ.พาน พบมีข้าวของเกษตรกรอยู่จำนวน 111 ราย 24,300 กระสอบ รวมน้ำหนัก 2,424,485.6 กิโลกรัม และคลังสินค้ากลางบริษัท สิริอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เลขที่ 133 ม.1 ต.ป่าแดด อ.ป่าแดด พบมีข้าวของเกษตรกรเก็บอยู่จำนวน 110,003 กระสอบ เป็นข้าวที่มีการนำไปแปรรูปเป็นข้าวสารและปลายข้าวแล้วเป็นส่วนใหญ่
หลังตรวจสอบและติดเอกสารปริมาณและชนิดของข้าวแต่ละกองแล้ว ทางคณะได้ทำพิธีปิดโกดังด้วยกุญแจใหม่อย่างเป็นทางการ
สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2556 ได้ไปตรวจที่โกดังของบริษัทข้าวทองธวัช ต.สันติสุข อ.พาน พบตั้งแต่วันที่ 5-17 ต.ค. 55 มีชาวนาทยอยนำข้าวไปเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 115 ราย รวมปริมาณข้าวใหม่ทั้งหมดจำนวน 428,705.691 กิโลกรัม และยังคงมีผู้นำข้าวและเอกสารไปเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า เชียงรายมีจุดรับจำนำข้าวนาปรังที่ผ่านมา 4 จุดพื้นที่ อ.พาน อ.ป่าแดด และ อ.แม่จัน ซึ่งจากการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการพบว่าไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ และการดำเนินการส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยปัญหาอาจจะมีบ้าง เช่น ความไม่เข้าใจในกระบวนการ ข้าวใหม่ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวมีปริมาณความชื้นที่ยังสูงเพราะใช้เครื่องจักรเกี่ยวแทนแรงงานคน มีปริมาณปนเปื้อน ฯลฯ ดังนั้นจึงได้ให้นักวิชาการเร่งทำความเข้าใจ ส่วนการปนเปื้อนรัฐบาลได้ลดลงจากเดิมกำหนดไว้ที่ 3 ส่วน ก็ให้วัดในระดับ 1 ส่วน เป็นต้น
ทั้งนี้ การตรวจสอบดังกล่าวมีขึ้นเพื่อดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเตรียมความพร้อมสู่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปีครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึงตั้งแต่เดือน พ.ย. 55 นี้เป็นต้นไป ส่วนข้าวที่ปิดโกดังไปแล้วก็จะมีการตรวจสอบเป็นประจำทุกเดือน เดือนละหลายครั้งเพื่อป้องกันปัญหาด้วย
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวอีกว่า สำหรับฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่จะมาถึง ทางจังหวัดได้เตรียมโกดังสำหรับรับข้าวจากเกษตรกรเอาไว้ทั่วแล้วจำนวน 80 จุด และมีจุดรับจำนำต่อเกษตรกรจำนวน 18 จุด คาดว่าจะเพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร เพราะบรรดาโกดังโรงสีต่างๆ ที่เข้าร่วมต่างเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว และคณะอนุกรรมการก็มีการตรวจดูแลอย่างเต็มที่เพื่อให้เกษตรกรได้รับความสะดวกที่สุดต่อไป