ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ขนส่งภูเก็ตตั้งด่านตรวจเข้มแท็กซี่ป้ายดำผิดกฎหมาย จับกุมแล้ว 194 คัน หลังใช้มาตรการจัดระเบียบนำรถแท็กซี่ป้ายดำเข้าสู่ระบบ
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (24 ต.ค.) บริเวณที่จุดตรวจสถานีตำรวจภูธรทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายธีรยุทธ์ ประเสริฐผล ขนส่งจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จากกรมขนส่งทางบก และสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่จัดระเบียบรถแท็กซี่ป้ายดำที่ยังไม่ได้ดำเนินการติดสติกเกอร์ข้างรถตามที่ขนส่งจังหวัดภูเก็ตกำหนด ตามมาตรการจัดระเบียนรถแท็กซี่ป้ายดำเข้าสู่ระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาการร้องเรียน ซึ่งจากการตั้งด่านตรวจพบว่า รถแท็กซี่ป้ายดำที่นำออกมาให้บริการนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ทางขนส่งกำหนดไว้ แต่ก็ยังมีรถป้ายดำอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ติดสติกเกอร์ข้างรถตามที่กำหนดไว้
นายจำเริญ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดภูเก็ตได้มีการผ่อนผันในเรื่องของการจับกุมรถแท็กซี่ป้ายดำไปแล้วในบางส่วน เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ให้รถแท็กซี่ป้ายดำได้เข้ากระบวนการการขออนุญาตให้ถูกต้อง ภายใน 180 วันที่กำหนด ซึ่งจะครบกำหนดระยะเวลาในการผ่อนผันในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 แต่ในขณะนี้ รถทุกคันจะต้องมีการติดสติกเกอร์เหลืองดำบริเวณข้างตัวรถ 2 ข้างให้เป็นที่เรียบร้อย เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้
ซึ่งการแก้ปัญหานี้ ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตำรวจ และฝ่ายขนส่ง รวมทั้งผู้ขับรถแท็กซี่เองจะต้องให้ความร่วมมือเพื่อที่รถแท็กซี่ป้ายดำจะได้เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายที่ถูกต้อง ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำในพื้นที่ได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการสุ่มตรวจพบว่า ยังมีรถป้ายดำอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ติดสติกเกอร์ตามที่กำหนดไว้ ซึ่งก็ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนเพื่อให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามข้อกำหนดที่วางเอาไว้
ด้านนายธีรยุทธ์ กล่าวว่า การจัดระเบียบรถแท็กซี่ป้ายดำในขณะนี้ ได้อนุญาตให้จดทะเบียนไปแล้วจำนวน 2,882 คัน จากทั้งหมด 3,594 คัน ซึ่งถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็เท่ากับ 93% แล้ว ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 500 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถตู้ ซึ่งจะต้องไปจดทะเบียนเป็นรถป้ายเหลืองแทน แต่ที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้คือ รถแท็กซี่ป้ายดำที่ไม่สามารถมาจดทะเบียนได้เนื่องจากติดในเรื่องของไฟแนนซ์ที่จะต้องเปลี่ยนสัญญาจากรถบุคคลธรรมดามาเป็นรถรับจ้าง
ซึ่งทำได้ยากเพราะกระบวนการในการเปลี่ยนสัญญานั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณคันละ 3 หมื่นบาท ซึ่งเป็นการสร้างภาระให้แก่เจ้าของรถ แต่ขณะนี้ทางขนส่งจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการขอความร่วมมือ และขอการสนับสนุนไปยังบริษัทแม่ของไฟแนนซ์แล้ว หากได้รับความร่วมมือจากไฟแนนซ์ การจัดระเบียบรถแท็กซี่ป้ายดำนั้นก็จะง่ายขึ้น ส่วนในเรื่องของการตรวจจับรถแท็กซี่ป้ายดำผิดกฎหมายขณะนี้ได้ดำเนินการจับไปแล้ว จำนวน 194 ราย
นายธีรยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า หากทางจังหวัดภูเก็ตสามารถแก้ปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำได้ ก็จะเป็นการลดปัญหาอาชญากรรมไปได้ส่วนหนึ่ง หรือในกรณีของนักท่องเที่ยวที่ลืมของไว้ภายในรถก็สามารถติดตามได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีข้อมูลของรถที่ชัดเจน รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่จังหวัดภูเก็ตอีกด้วย
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (24 ต.ค.) บริเวณที่จุดตรวจสถานีตำรวจภูธรทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายธีรยุทธ์ ประเสริฐผล ขนส่งจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จากกรมขนส่งทางบก และสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่จัดระเบียบรถแท็กซี่ป้ายดำที่ยังไม่ได้ดำเนินการติดสติกเกอร์ข้างรถตามที่ขนส่งจังหวัดภูเก็ตกำหนด ตามมาตรการจัดระเบียนรถแท็กซี่ป้ายดำเข้าสู่ระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาการร้องเรียน ซึ่งจากการตั้งด่านตรวจพบว่า รถแท็กซี่ป้ายดำที่นำออกมาให้บริการนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ทางขนส่งกำหนดไว้ แต่ก็ยังมีรถป้ายดำอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ติดสติกเกอร์ข้างรถตามที่กำหนดไว้
นายจำเริญ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดภูเก็ตได้มีการผ่อนผันในเรื่องของการจับกุมรถแท็กซี่ป้ายดำไปแล้วในบางส่วน เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ให้รถแท็กซี่ป้ายดำได้เข้ากระบวนการการขออนุญาตให้ถูกต้อง ภายใน 180 วันที่กำหนด ซึ่งจะครบกำหนดระยะเวลาในการผ่อนผันในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 แต่ในขณะนี้ รถทุกคันจะต้องมีการติดสติกเกอร์เหลืองดำบริเวณข้างตัวรถ 2 ข้างให้เป็นที่เรียบร้อย เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้
ซึ่งการแก้ปัญหานี้ ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตำรวจ และฝ่ายขนส่ง รวมทั้งผู้ขับรถแท็กซี่เองจะต้องให้ความร่วมมือเพื่อที่รถแท็กซี่ป้ายดำจะได้เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายที่ถูกต้อง ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำในพื้นที่ได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการสุ่มตรวจพบว่า ยังมีรถป้ายดำอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ติดสติกเกอร์ตามที่กำหนดไว้ ซึ่งก็ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนเพื่อให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามข้อกำหนดที่วางเอาไว้
ด้านนายธีรยุทธ์ กล่าวว่า การจัดระเบียบรถแท็กซี่ป้ายดำในขณะนี้ ได้อนุญาตให้จดทะเบียนไปแล้วจำนวน 2,882 คัน จากทั้งหมด 3,594 คัน ซึ่งถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็เท่ากับ 93% แล้ว ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 500 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถตู้ ซึ่งจะต้องไปจดทะเบียนเป็นรถป้ายเหลืองแทน แต่ที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้คือ รถแท็กซี่ป้ายดำที่ไม่สามารถมาจดทะเบียนได้เนื่องจากติดในเรื่องของไฟแนนซ์ที่จะต้องเปลี่ยนสัญญาจากรถบุคคลธรรมดามาเป็นรถรับจ้าง
ซึ่งทำได้ยากเพราะกระบวนการในการเปลี่ยนสัญญานั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณคันละ 3 หมื่นบาท ซึ่งเป็นการสร้างภาระให้แก่เจ้าของรถ แต่ขณะนี้ทางขนส่งจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการขอความร่วมมือ และขอการสนับสนุนไปยังบริษัทแม่ของไฟแนนซ์แล้ว หากได้รับความร่วมมือจากไฟแนนซ์ การจัดระเบียบรถแท็กซี่ป้ายดำนั้นก็จะง่ายขึ้น ส่วนในเรื่องของการตรวจจับรถแท็กซี่ป้ายดำผิดกฎหมายขณะนี้ได้ดำเนินการจับไปแล้ว จำนวน 194 ราย
นายธีรยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า หากทางจังหวัดภูเก็ตสามารถแก้ปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำได้ ก็จะเป็นการลดปัญหาอาชญากรรมไปได้ส่วนหนึ่ง หรือในกรณีของนักท่องเที่ยวที่ลืมของไว้ภายในรถก็สามารถติดตามได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีข้อมูลของรถที่ชัดเจน รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่จังหวัดภูเก็ตอีกด้วย