ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เพลิงเผารถบัสโดยสาร 2 คันวอดขณะจอดพักรถกลางเมืองภูเก็ต เสียหายกว่า 6 ล้านบาท ตร.คาดไฟฟ้าภายในรถลัดวงจร
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (14 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารที่บริเวณอู่จอดรถตรงข้ามสนามฟุตบอลหญ้าเทียมทีเอ็กซ์ปาร์ค ใกล้ตลาดนัดบ้านสามกอง ถ.บ้านสามกอง-ม.ราชภัฏภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.สมชาย หนูบุญ ร้อยเวร สภ.เมืองภูเก็ตพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ และรถดับเพลิง 2 คัน รุดไประงับเพลิง
ที่เกิดเหตุเป็นลานดินกว้างติดถนนสายสามกอง ซึ่งเป็นสถานที่จอดรถบัส และรถทัวร์โดยสาร ด้านในพบรถทัวร์ประจำทางสายภูเก็ต-ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา ยี่ห้อเบนซ์สีฟ้าขาว 2 ชั้น ทะเบียนป้ายเหลืองหมายเลข 10-2611 พัทลุง ถูกเพลิงลุกไหม้อย่างหนัก โดยมีรถบัสยี่ห้อฮีโน่สีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง หมายเลข 32-4579 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท พีพีทรานเอ็กซ์เพลส จำกัด จอดอยู่ใกล้ๆ กันถูกเพลิงลุกไหม้บริเวณหัวรถ และลามมายังตัวรถอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลาราว 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้
ตรวจสอบพบรถทัวร์ประจำทางทะเบียนป้ายเหลืองหมายเลข 10-2611 พัทลุง ถูกเพลิงเผาไหม้ได้รับความเสียหายทั้งคัน มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ส่วนรถบัส ทะเบียนป้ายเหลืองหมายเลข 32-4579 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายราว 60% ส่วนใหญ่เบาะภายในรถ-อุปกรณ์ส่วนควบ และตัวถังรถบริเวณด้านขวาถูกเพลิงเผาเสียหายทั้งหมด มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่บนรถ ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรืออันตราย
จากการสอบถามนายศรีวิทย์ หนูนุ่น อายุ 40 ปี เจ้าของรถโดยสารปรับอากาศ ทราบว่า โดยปกติจะนอนพักอยู่บนรถกับพนักงาน แต่ก่อนเกิดเหตุ ทั้งลูกน้อง และตนเองออกมานอนพักอยู่ด้านนอกรถ โดยทิ้งเอกสารสำคัญต่างๆ และทรัพย์สินมีค่าไว้ในรถ ทำให้ถูกเพลิงเผาไหม้หมด ซึ่งก่อนเกิดเหตุทราบจากพนักงานประจำรถว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงระเบิดจากบริเวณด้านหน้ารถ จากนั้นเพลิงลุกไหม้จากหน้ารถ และลุกลามไปยังภายในรถอย่างรวดเร็ว ทำให้เพลิงเผาไหม้วอดทั้งคัน และยังลุกลามไปยังรถบัสที่จอดอยู่ข้างๆ ได้รับความเสียหายอีก 1 คัน
โดยตนได้นำรถเข้ามาจอดเมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ (14 ต.ค.) เพื่อรอเวลาวิ่งกลับไปยังด่านนอก จ.สงขลา ในวันที่ 15 ต.ค.แต่มาถูกเพลิงไหม้เสียก่อน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเหตุเพลิงไหม้อาจเกิดจากไฟฟ้าภายในรถบริเวณคอนโซลเกิดลัดวงจร และมีประกายไฟ ทำให้เกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ต จะได้ตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (14 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารที่บริเวณอู่จอดรถตรงข้ามสนามฟุตบอลหญ้าเทียมทีเอ็กซ์ปาร์ค ใกล้ตลาดนัดบ้านสามกอง ถ.บ้านสามกอง-ม.ราชภัฏภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.สมชาย หนูบุญ ร้อยเวร สภ.เมืองภูเก็ตพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ และรถดับเพลิง 2 คัน รุดไประงับเพลิง
ที่เกิดเหตุเป็นลานดินกว้างติดถนนสายสามกอง ซึ่งเป็นสถานที่จอดรถบัส และรถทัวร์โดยสาร ด้านในพบรถทัวร์ประจำทางสายภูเก็ต-ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา ยี่ห้อเบนซ์สีฟ้าขาว 2 ชั้น ทะเบียนป้ายเหลืองหมายเลข 10-2611 พัทลุง ถูกเพลิงลุกไหม้อย่างหนัก โดยมีรถบัสยี่ห้อฮีโน่สีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง หมายเลข 32-4579 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท พีพีทรานเอ็กซ์เพลส จำกัด จอดอยู่ใกล้ๆ กันถูกเพลิงลุกไหม้บริเวณหัวรถ และลามมายังตัวรถอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลาราว 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้
ตรวจสอบพบรถทัวร์ประจำทางทะเบียนป้ายเหลืองหมายเลข 10-2611 พัทลุง ถูกเพลิงเผาไหม้ได้รับความเสียหายทั้งคัน มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ส่วนรถบัส ทะเบียนป้ายเหลืองหมายเลข 32-4579 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายราว 60% ส่วนใหญ่เบาะภายในรถ-อุปกรณ์ส่วนควบ และตัวถังรถบริเวณด้านขวาถูกเพลิงเผาเสียหายทั้งหมด มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่บนรถ ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรืออันตราย
จากการสอบถามนายศรีวิทย์ หนูนุ่น อายุ 40 ปี เจ้าของรถโดยสารปรับอากาศ ทราบว่า โดยปกติจะนอนพักอยู่บนรถกับพนักงาน แต่ก่อนเกิดเหตุ ทั้งลูกน้อง และตนเองออกมานอนพักอยู่ด้านนอกรถ โดยทิ้งเอกสารสำคัญต่างๆ และทรัพย์สินมีค่าไว้ในรถ ทำให้ถูกเพลิงเผาไหม้หมด ซึ่งก่อนเกิดเหตุทราบจากพนักงานประจำรถว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงระเบิดจากบริเวณด้านหน้ารถ จากนั้นเพลิงลุกไหม้จากหน้ารถ และลุกลามไปยังภายในรถอย่างรวดเร็ว ทำให้เพลิงเผาไหม้วอดทั้งคัน และยังลุกลามไปยังรถบัสที่จอดอยู่ข้างๆ ได้รับความเสียหายอีก 1 คัน
โดยตนได้นำรถเข้ามาจอดเมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ (14 ต.ค.) เพื่อรอเวลาวิ่งกลับไปยังด่านนอก จ.สงขลา ในวันที่ 15 ต.ค.แต่มาถูกเพลิงไหม้เสียก่อน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเหตุเพลิงไหม้อาจเกิดจากไฟฟ้าภายในรถบริเวณคอนโซลเกิดลัดวงจร และมีประกายไฟ ทำให้เกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ต จะได้ตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง
