ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หัวหน้าพรรคยางพาราไทยชี้โครงการรักษาเสถียรภาพราคายางของรัฐบาล เอื้อให้มีกลุ่มคนเข้ามาจ้วงผลประโยชน์จากส่วนต่างราคายางจากเกษตรกรเป็นเม็ดเงินร่วม 1,600 ล้านบาท โดยยางท้องถิ่นวูบต่ำกว่า 80 บาท/กก.
นายเพิก เลิศวังศ์พง หัวหน้าพรรคยางพาราไทย (ยพท.) เปิดเผยว่า โครงการรักษาเสถียรภาพราคายางไทยของรัฐบาลที่ใช้ไปแล้ว 15,000 ล้านบาท และได้รับอีก 30,000 ล้านบาท ในโครงการรักษาเสถียรภาพที่องค์การสวนยาง (อสย.) เพื่อรับซื้อยางแผ่นดิบอยู่ที่ 100 บาท/กก. รมควัน 104 บาท/กก. โดยขณะนี้ซื้อยางไปแล้ว 1.2 แสนตัน โดยประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ไม่ทราบว่าเป็นของกลุ่มสถาบันใดเกษตรกรใด แต่อีก 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นของเกษตรกรชาวสวนยางจริง หรือประมาณ 50,000 ตัน
“ยางประมาณ 80,000 ตัน เป็นของกลุ่มใด จะต้องเรียนถามรัฐบาลว่า เรื่องยางพารามีปัญหา เพราะเป็นรายได้เข้าสู่ประเทศมหาศาลในแต่ละปี ตอนนี้เรื่องยางมีการตั้งกันเป็นกลุ่มๆ ไปทั่วประเทศ และโยงใยไปยังกลุ่มบุคลต่างๆ มากมาย เพราะประโยชน์อยู่ที่ส่วนต่างซื้อยางจากเกษตรกรกว่า 80 บาท/กก. แต่นำไปขายกับ อสย. จะได้ราคาที่ตั้งไว้ 100 บาท สำหรับยางแผ่นดิบและรมควัน 104 บาท/กก. จะเกิดส่วนต่างกันอยู่ที่ประมาณ 20 บาท/กก. เงินส่วนต่างประมาณ 1,600 ล้านบาท และยังมีรายการจากโรงงานยางอีก 1 บาท/กก. ประมาณ 80 ล้านบาท” นายเพิกกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาซื้อขายยางท้องถิ่นวันที่ 22 ตุลาคม 2555 น้ำยางสดอยู่ที่ 78 บาท/กก. สำหรับบางราย ยางแผ่นดิบ 81 บาท/กก. ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากวงการยางเปิดเผยว่า สถานการณ์ยางจะแนวโน้มมีทิศทางที่ดีขึ้น ด้วยปัจจัยทางสหรัฐอเมริกาฟื้นฟูได้ ยุโรปสภาพเศรษฐกิจคงที่แล้ว ประเทศจีนเริ่มมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และ 4.การที่ไทยงดการส่งออกยาง และเก็บไว้ในสต๊อกทำให้เข้าสู่ตลาดที่ถดถอยลง ตลอดจนถึงโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง 15,000 ล้านบาท จึงทำให้ราคากระเตื้องขึ้น โดยแนวโน้มในปลายปีนี้ราคายางแผ่นดิบจะขยับขึ้นไม่ต่ำกว่า 100 บาท/กก.
นายเพิก เลิศวังศ์พง หัวหน้าพรรคยางพาราไทย (ยพท.) เปิดเผยว่า โครงการรักษาเสถียรภาพราคายางไทยของรัฐบาลที่ใช้ไปแล้ว 15,000 ล้านบาท และได้รับอีก 30,000 ล้านบาท ในโครงการรักษาเสถียรภาพที่องค์การสวนยาง (อสย.) เพื่อรับซื้อยางแผ่นดิบอยู่ที่ 100 บาท/กก. รมควัน 104 บาท/กก. โดยขณะนี้ซื้อยางไปแล้ว 1.2 แสนตัน โดยประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ไม่ทราบว่าเป็นของกลุ่มสถาบันใดเกษตรกรใด แต่อีก 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นของเกษตรกรชาวสวนยางจริง หรือประมาณ 50,000 ตัน
“ยางประมาณ 80,000 ตัน เป็นของกลุ่มใด จะต้องเรียนถามรัฐบาลว่า เรื่องยางพารามีปัญหา เพราะเป็นรายได้เข้าสู่ประเทศมหาศาลในแต่ละปี ตอนนี้เรื่องยางมีการตั้งกันเป็นกลุ่มๆ ไปทั่วประเทศ และโยงใยไปยังกลุ่มบุคลต่างๆ มากมาย เพราะประโยชน์อยู่ที่ส่วนต่างซื้อยางจากเกษตรกรกว่า 80 บาท/กก. แต่นำไปขายกับ อสย. จะได้ราคาที่ตั้งไว้ 100 บาท สำหรับยางแผ่นดิบและรมควัน 104 บาท/กก. จะเกิดส่วนต่างกันอยู่ที่ประมาณ 20 บาท/กก. เงินส่วนต่างประมาณ 1,600 ล้านบาท และยังมีรายการจากโรงงานยางอีก 1 บาท/กก. ประมาณ 80 ล้านบาท” นายเพิกกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาซื้อขายยางท้องถิ่นวันที่ 22 ตุลาคม 2555 น้ำยางสดอยู่ที่ 78 บาท/กก. สำหรับบางราย ยางแผ่นดิบ 81 บาท/กก. ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากวงการยางเปิดเผยว่า สถานการณ์ยางจะแนวโน้มมีทิศทางที่ดีขึ้น ด้วยปัจจัยทางสหรัฐอเมริกาฟื้นฟูได้ ยุโรปสภาพเศรษฐกิจคงที่แล้ว ประเทศจีนเริ่มมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และ 4.การที่ไทยงดการส่งออกยาง และเก็บไว้ในสต๊อกทำให้เข้าสู่ตลาดที่ถดถอยลง ตลอดจนถึงโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง 15,000 ล้านบาท จึงทำให้ราคากระเตื้องขึ้น โดยแนวโน้มในปลายปีนี้ราคายางแผ่นดิบจะขยับขึ้นไม่ต่ำกว่า 100 บาท/กก.
