ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จ.สงขลา เผยคนไทยตายด้วยโรคหลอดเลือดสมองเป็นอันดับ 1 เหตุจาก 8 ปัจจัยเสี่ยง ล่าสุด ภาคกลางเป็นแชมป์ 6 วินาที ตาย 1 คน เตือนหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 8 ปัจจัย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อช่วยลดอัตราการตาย และพิการลงได้
วันนี้ (23 ต.ค.) ดร.นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จ.สงขลา เปิดเผยว่า โรคหลอดเลือดสมองในประเทศไทยปี 2552 พบการตายด้วยโรคหลอดเลือดสมองขึ้นนำมาอยู่ในลำดับ 1 ทั้งในประชากรเพศชาย และเพศหญิง และเมื่อเปรียบเทียบอัตราตายต่อประชากรแสนคนรายภาคของประเทศในปี 2553 พบภาคกลาง (ไม่รวมกรุงเทพฯ) อัตราตายสูงสุด รองลงมา ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในทุก 6 วินาที จะมีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน
ดร.นพ.สุวิช เปิดเผยว่า สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จ.สงขลา จึงเห็นความสำคัญ และเพื่อเผยแพร่ความรู้ในการดูแล และป้องกันตนเอง กระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม รวมถึงการดูแลที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยหลังเกิดอาการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่บุคลากรสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
“ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองมี 8 ปัจจัย คือ ภาวะความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ประวัติญาติสายตรงเคยเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ขาดการออกกำลังกาย ภาวะน้ำหนักเกิน สูบบุหรี่ และภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ”
ดร.นพ.สุวิช เปิดเผยอีกว่า สัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองที่สำคัญคือ มีอาการอ่อนแรงของหน้า แขน ขา อย่างทันทีทันใด จะเป็นซีกเดียวของร่างกาย สับสน ลำบากในการพูด พูดไม่รู้เรื่อง การมองเห็นลดลง อาจเป็นตาข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง มึนงง สูญเสียความสมดุลของการเดินอย่างทันทีทันใด หากมีอาการให้ไปพบแพทย์โดยด่วนภายใน 3 ชั่วโมง จะได้ช่วยรักษาชีวิต และฟื้นฟูให้มีสภาพปกติมากที่สุด
“มาตรการในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง คือ การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 8 ปัจจัย ควรทำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดการบริโภคอาหารหวาน มัน เค็ม และเพิ่มผักผลไม้ การออกกำลังกายอย่างเพียงพอโดยออกกำลังกายวันละ15-30 นาที ใน 3-5 วันต่อสัปดาห์ ควรงดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ลดความเครียด และพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้ามีปัญหาโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานให้รีบปรึกษาแพทย์ และรับการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองที่จะเกิดได้ในภายหลัง ซึ่งจะช่วยลดอัตราตาย และลดความพิการลงได้”
วันนี้ (23 ต.ค.) ดร.นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จ.สงขลา เปิดเผยว่า โรคหลอดเลือดสมองในประเทศไทยปี 2552 พบการตายด้วยโรคหลอดเลือดสมองขึ้นนำมาอยู่ในลำดับ 1 ทั้งในประชากรเพศชาย และเพศหญิง และเมื่อเปรียบเทียบอัตราตายต่อประชากรแสนคนรายภาคของประเทศในปี 2553 พบภาคกลาง (ไม่รวมกรุงเทพฯ) อัตราตายสูงสุด รองลงมา ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในทุก 6 วินาที จะมีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน
ดร.นพ.สุวิช เปิดเผยว่า สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จ.สงขลา จึงเห็นความสำคัญ และเพื่อเผยแพร่ความรู้ในการดูแล และป้องกันตนเอง กระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม รวมถึงการดูแลที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยหลังเกิดอาการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่บุคลากรสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
“ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองมี 8 ปัจจัย คือ ภาวะความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ประวัติญาติสายตรงเคยเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ขาดการออกกำลังกาย ภาวะน้ำหนักเกิน สูบบุหรี่ และภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ”
ดร.นพ.สุวิช เปิดเผยอีกว่า สัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองที่สำคัญคือ มีอาการอ่อนแรงของหน้า แขน ขา อย่างทันทีทันใด จะเป็นซีกเดียวของร่างกาย สับสน ลำบากในการพูด พูดไม่รู้เรื่อง การมองเห็นลดลง อาจเป็นตาข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง มึนงง สูญเสียความสมดุลของการเดินอย่างทันทีทันใด หากมีอาการให้ไปพบแพทย์โดยด่วนภายใน 3 ชั่วโมง จะได้ช่วยรักษาชีวิต และฟื้นฟูให้มีสภาพปกติมากที่สุด
“มาตรการในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง คือ การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 8 ปัจจัย ควรทำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดการบริโภคอาหารหวาน มัน เค็ม และเพิ่มผักผลไม้ การออกกำลังกายอย่างเพียงพอโดยออกกำลังกายวันละ15-30 นาที ใน 3-5 วันต่อสัปดาห์ ควรงดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ลดความเครียด และพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้ามีปัญหาโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานให้รีบปรึกษาแพทย์ และรับการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองที่จะเกิดได้ในภายหลัง ซึ่งจะช่วยลดอัตราตาย และลดความพิการลงได้”