xs
xsm
sm
md
lg

รวบชาวไทย-พม่าลักลอบขนแพะหนีภาษีเข้าระนอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ระนอง - ชุดตรวจตระเวนทางน้ำ ชุดฉลาม ฉก.125 ระนอง รวบชาวไทย-พม่า ลักลอบขนแพะมีชีวิตหนีภาษีเข้าระนอง เพื่อขายให้พ่อค้าแม่ค้าไทย

วันนี้ (19 ต.ค.) จ.ส.อ.สุรศาสน์ บัวเพช็ร หัวหน้าจุดตรวจเกาะสะระนีย์ ฉก.125 กองกำลังเทพสตรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดตรวจตระเวนทางน้ำ ชุดฉลาม ฉก.125 เข้าควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 คน ซึ่งเป็นชายชาวไทยมุสลิม 3 คน คือ นายหมาด ภักดี นายหมาดอีสา บรรจบ นายมาเลก บรรจบ และนายเด็น ชาวพม่า ขณะกำลังลักลอบขนแพะขึ้นเรือประมงเข้ามาทางน่านน้ำฝั่งไทย บริเวณทิศตะวันตกของเกาะสินไห หมู่ที่ 4 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี และผ่านด่านศุลกากร

สำหรับการเข้าจับกุมครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจตระเวนทางน้ำ ชุดฉลาม ฉก.125 ได้ออกทำการลาดตระเวนซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ประจำวันตามปกติ บริเวณน่านน้ำไทย ซึ่ง จ.ส.อ.สมคะเน นาคสวัสดิ์ หัวหน้าชุดตระเวนทางน้ำ ฉก.125 กล่าวว่า ภายหลังจากนำเรือเข้าไปเทียบ และทำการขอตรวจค้นก็พบแพะที่มีชีวิต จำนวน 65 ตัว ถูกซุกซ่อนอำพรางใต้ผ้าใบอยู่เต็มลำเรือ ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับว่า ได้ลักลอบนำแพะมาจากชาวมุสลิมที่อยู่ในพื้นที่อ่าวจีน จ.เกาะสอง ประเทศพม่า เพื่อนำไปขายต่อให้แก่ผู้รับซื้อซึ่งเป็นแม่ค้าปลา และลูกค้ารายอื่นๆ ที่บ้านขจัดภัย ต.ราชกรูด อ.เมืองจ.ระนอง ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว

ด้านนายเกษตร สุวรรณเพชร ปศุสัตว์จังหวัดระนองกล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องหารือกับศุลกากรระนองเพื่อหาผู้ที่จะรับผิดชอบดูแลแพะทั้งหมด ส่วนปศุสัตว์จังหวัดระนองจะนำแพะทั้งหมดไปกักกันเป็นเวลา 30 วัน เพื่อตรวจว่ามีโรคติดต่อติดมาด้วยหรือไม่ เพราะเป็นสัตว์ที่นำเข้ามาจากประเทศอื่นโดยเฉพาะโรคแท้งติดต่อที่สามารถติดต่อมาสู่คนได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย หากหญิงตั้งครรภ์ได้รับเชื้อก็จะทำให้เกิดอาการแท้งได้ แต่ถ้าหากไม่พบโรคติดต่อก็จะทำการขายทอดตลาดต่อไป

ขณะที่หัวหน้าจุดตรวจเกาะสะระนีย์ ฉก.125 กองกำลังเทพสตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมผู้กระทำผิดในลักษณะลักลอบขนสัตว์เข้ามาทางทะเลในครั้งนี้ถือว่าจับได้ครั้งแรก และยอมรับว่า ปัจจุบันสามารถตรวจสอบ และจับกุมผู้ลักลอบขนถ่ายสินค้าหนีภาษีได้ยากขึ้น เนื่องจากได้เปลี่ยนการใช้เส้นทางเพื่อหนีการตรวจทางเรดาร์จากเกาะสนไปใช้เส้นทางเกาะสินไห เกาะช้าง และเกาะพยามแทน ประกอบกับหากมีพายุเข้ามาก็จะทำให้การตรวจสอบยากขึ้น แต่ก็จะพยายามตรวจสอบให้ครอบคลุมที่สุด

สำหรับผู้กระทำผิด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากระทำความผิดตามมาตรา 22, 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบกับมาตรา 16, 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากรฉบับที่ 9 พ.ศ.2482 ก่อนทำการอายัดของกลางทั้งหมดส่งด่านศุลการกรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น