สตูล - เจ้าหน้าที่ทหารเรือ กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 เข้าตรวจสอบเรือประมงต้องสงสัยสัญชาติมาเลเซีย พบแอบลักลอบขนน้ำมันดีเซล ประมาณ 10,000 ลิตร และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 4 ราย ได้ที่บริเวณด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล

เมื่อเวลา 21.20 น. วันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือ ภาคที่ 3 นำโดย ร.อ.พลากร สุนทรศารทูล รน. ผู้บังคับการเรือ ต.991 กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมกำลังหน่วยสืบสวนปราบปรามสตูล ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 สำนักสืบสวนและปราบปรามกรมศุลกากร ร่วมกันสูบน้ำมันจำนวน 10,000 ลิตร ขึ้นจากเรือ PKFA 7819 ที่เทียบท่าบริเวณด่านศุลกากรสตูล ต.ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล เพื่อนำส่งด่านศุลกากรสตูลดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดดังกล่าวเข้าจับกุมเรือ PKFA 7819 สัญชาติมาเลเซีย สีเหลือง เก๋งสีแดง ขนาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาวประมาณ 20 เมตร ภายในเรือบรรจุน้ำมันดีเซลไว้ในถังไฟเบอร์ดัดแปลง จำนวน 8 ถัง น้ำมันประมาณ 10,000 ลิตร พร้อมไต๋ก๋งเรือ และลูกเรือรวม 4 คน คือ นายโยธิน นิยมเดชา อายุ 56 ปี เป็นไต๋เรือ ชาวหมู่ 7 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล นายสุวิทย์ พยัควัลย์ อายุ 60 ปี ผู้ควบคุมเรือ ชาวหมู่ 3 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล นายสมถิน ธิปกุล อายุ 44 ปี ชาวหมู่ 5 ต.นาเจริญ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี และนายหนูเล็ก โพธิจันทึก ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง โดยสามารถควบคุมเรือ และผู้ต้องหาได้บริเวณด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล

ร.อ.พลากร สุนทรศารทูล เปิดเผยว่า เรือลำดังกล่าวเดินเรือมาจากฝั่งมาเลเซีย เข้ามาฝั่งไทย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะออกลาดตระเวนในช่วงไฮซีซัน พบเรือต้องสงสัยจึงเข้าไปตรวจสอบ พบมีการลักลอบขนน้ำมันดีเซลโดยไม่ได้เสียภาษีศุลกากร จึงควบคุมตัวกลับขึ้นฝั่งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ภายในเรือมีหัวจ่ายน้ำมันหลายจุด พร้อมมิเตอร์วัดน้ำมันภายในเรือ และจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า จะได้รับค่าจ้างในการออกเรือไปคนละ 850 บาทต่อวัน ส่วนปลาที่หามาได้นั้นให้บริหารแบ่งกันไปก่อนจะมาถูกจับได้
เมื่อเวลา 21.20 น. วันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือ ภาคที่ 3 นำโดย ร.อ.พลากร สุนทรศารทูล รน. ผู้บังคับการเรือ ต.991 กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมกำลังหน่วยสืบสวนปราบปรามสตูล ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 สำนักสืบสวนและปราบปรามกรมศุลกากร ร่วมกันสูบน้ำมันจำนวน 10,000 ลิตร ขึ้นจากเรือ PKFA 7819 ที่เทียบท่าบริเวณด่านศุลกากรสตูล ต.ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล เพื่อนำส่งด่านศุลกากรสตูลดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดดังกล่าวเข้าจับกุมเรือ PKFA 7819 สัญชาติมาเลเซีย สีเหลือง เก๋งสีแดง ขนาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาวประมาณ 20 เมตร ภายในเรือบรรจุน้ำมันดีเซลไว้ในถังไฟเบอร์ดัดแปลง จำนวน 8 ถัง น้ำมันประมาณ 10,000 ลิตร พร้อมไต๋ก๋งเรือ และลูกเรือรวม 4 คน คือ นายโยธิน นิยมเดชา อายุ 56 ปี เป็นไต๋เรือ ชาวหมู่ 7 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล นายสุวิทย์ พยัควัลย์ อายุ 60 ปี ผู้ควบคุมเรือ ชาวหมู่ 3 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล นายสมถิน ธิปกุล อายุ 44 ปี ชาวหมู่ 5 ต.นาเจริญ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี และนายหนูเล็ก โพธิจันทึก ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง โดยสามารถควบคุมเรือ และผู้ต้องหาได้บริเวณด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล
ร.อ.พลากร สุนทรศารทูล เปิดเผยว่า เรือลำดังกล่าวเดินเรือมาจากฝั่งมาเลเซีย เข้ามาฝั่งไทย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะออกลาดตระเวนในช่วงไฮซีซัน พบเรือต้องสงสัยจึงเข้าไปตรวจสอบ พบมีการลักลอบขนน้ำมันดีเซลโดยไม่ได้เสียภาษีศุลกากร จึงควบคุมตัวกลับขึ้นฝั่งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ภายในเรือมีหัวจ่ายน้ำมันหลายจุด พร้อมมิเตอร์วัดน้ำมันภายในเรือ และจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า จะได้รับค่าจ้างในการออกเรือไปคนละ 850 บาทต่อวัน ส่วนปลาที่หามาได้นั้นให้บริหารแบ่งกันไปก่อนจะมาถูกจับได้