xs
xsm
sm
md
lg

รวบเรือจับปลาทูน่าไต้หวันลอบขายน้ำมันเถื่อนกลางอันดามันของกลาง 21 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร นางนันท์ฐิตา คงเมือง นายด่านศุลกากรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลหนีภาษี 2 ลำ น้ำมันดีเซลหนีภาษีจำนวน 47,000 ลิตร มูลค่า 21 ล้านบาท
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หน่วยสืบสวนปราบปราม 4 ศุลกากร (ภูเก็ต) จับกุมเรือจับปลาทูน่าสัญชาติไต้หวัน ดัดแปลงบรรทุกน้ำมันหนีภาษี 2 ลำ พร้อมน้ำมันดีเซล 47,000 ลิตร มูลค่าของกลางรวม 21 ล้านบาท บริเวณห่างจากเกาะตะเภาใหญ่ไปทางทิศเหนือประมาณ 1-2 ไมล์ทะเล ส่งศุลกากรภูเก็ตดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (23 เม.ย.) ที่บริเวณท่าเทียบเรือศุลกากรจังหวัดภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร นางนันท์ฐิตา คงเมือง นายด่านศุลกากรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลหนีภาษี 2 ลำ น้ำมันดีเซลหนีภาษีจำนวน 47,000 ลิตร มูลค่า 21 ล้านบาท ว่า
เรือจัลปลาทูน่า สัญชาติไต้หวัน ที่ดัดแปลงบรรทุกน้ำมันดีเซลหนีภาษี 47,000 ลิตร ได้ที่บริเวณใกล้กับเกาะตะเภาใหญ่ จ.ภูเก็ต
ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายในการปราบปรามสินค้าลักลอบหนีภาษี นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้นางอรอนงค์ วัชรเศรษฐกุล รองอธิบดีฝ่ายปราบปราม นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม นางนันท์ฐิตา คงเมือง นายด่านศุลกากรภูเก็ต และนายนิมิต แสงอำไพ ผู้อำนวยการส่วนปราบปราม 2 เข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามขบวนการลักลอบสินค้าที่ยังไม่ได้เสียภาษีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร ประเภทน้ำมัน และผลิตภัณฑ์น้ำมัน ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตราภาษีสูง และต้องควบคุมคุณภาพของสินค้า

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 22 เม.ย. นายนิมิตร แสงอำไพ ผู้อำนวยการสืบสวนปราบปราม 2 ได้สั่งการให้นายจีระพันธุ์ จันทรเพชร หัวหน้างานสืบสวนปราบปราม 4 นำกำลังลงเรือศุลกากร 367 แล่นสกัดจับกุมขบวนการลักลอบจำหน่ายน้ำมันดีเซล ที่ยังไม่ได้เสียภาษีศุลกากร และสามารถปฏิบัติการตรวจค้นจับกุม เรือประมงชื่อ Ching Chun Fa No.168 ขนาด 64.03 ตันกรอส สัญชาติไต้หวัน โดยมีนาย Wang YAO YU สัญชาติไต้หวัน เป็นนายเรือ และลูกเรือสัญชาติอินโดนีเซียอีกจำนวน 3 คน

เรือประมงชื่อ Ming Chi Tsai No 16 ขนาด 55.59 ตันกรอส สัญชาติไต้หวัน มีนาย Huang Chiang-Hsieh สัญชาติไต้หวัน เป็นนายเรือ ลูกเรือสัญชาติไต้หวัน จำนวน 3 คน และลูกเรือสัญชาติอินโดนีเซียอีกจำนวน 4 คน
น้ำมันดีเซลหนีภาษี ที่เรือจับปลาทูน่าดัดแปลงเก็บไว้ใต้ท้องเรือ
โดยเรือทั้ง 2 ลำ บรรทุกน้ำมันดีเซลลักลอบหนีภาษีศุลกากร รวมทั้งสิ้น 47,000 ลิตร มูลค่าประมาณ 1,400,000 บาท มูลค่าของกลางรวมทั้งเรือ และน้ำมันประมาณ 21 ล้านบาท จับกุมได้ที่บริเวณละติจูด 07 องศา 50 ลิปดา 00 ฟิลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 25 ลิปดา 10 ฟิลิปดาตะวันออก ห่างจากเกาะตะเภาใหญ่ ด้านทิศเหนือ ประมาณ 1-2 ไมล์ทะเล

เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากรฐานลักลอบน้ำสินค้าน้ำมันดีเซล หรือรับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องจำกัด หรือของที่ไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิดตามมาตรา 27, 27 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบกับมาตรา 16, 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 และได้นำของกลางเรือประมง บรรทุกน้ำมันและน้ำมันดีเซล พร้อมลูกเรือดังกล่าวส่งด่านศุลกากรภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับในรอบเดือนมีนาคม-เมษายน 2555 นี้ กรมศุลกากร สามารถจับกุมน้ำมันดีเซลลักลอบในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้น้ำมันของกลางรวม 147,000 ลิตร และเรือของกลางจำนวน 3 ลำ
เรือจับปลาทูน่า ไตัหวัน 2 ลำ ที่ถูกจับกุมได้พร้อมน้ำมันดีเซลหนีภาษี 47,000 ลิตร ใกล้เกาะตะเภาใหญ่
นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร กล่าวว่า เรือประมงที่จับได้ในครั้งนี้เป็นเรือเบ็ดราวทูน่า สัญชาติไต้หวัน ที่ได้ดัดแปลงมาบรรทุกน้ำมันดีเซลหนีภาษีโดยเฉพาะ เพื่อขายให้แก่เรือประมงในเขตน่านน้ำไทยฝั่งอันดามัน โดยกองเรือทูน่าที่เข้ามาจับปลาทูน่าที่ถูกต้องมีประมาณ 100 ลำ ซึ่งจากการตรวจสอบเรือเหล่านั้นได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง มีเพียงจำนวนน้อยที่ได้ดัดแปลงมาบรรทุกน้ำมันหนีภาษีเพื่อขายให้แก่เรือประมง และที่สามารถจับกุมได้ในครั้งนี้มีจำนวน 2 ลำ ซึ่งหากมองไกลๆ จะไม่รู้ว่าเป็นเรือลักลอบจำหน่ายน้ำมัน เพราะภายในเรือมีอุปกรณ์จับปลาทูน่าอย่างครบครัน เจ้าหน้าที่จะต้องเข้มงวดในการตรวจตราจึงทำให้ทราบว่าเป็นเรือที่ดัดแปลงเพื่อบรรทุกน้ำมันหนีภาษี โดยที่ผ่านมา เรือทั้งสองลำนี้ ได้ลักลอบจำหน่ายน้ำมันหนีภาษีมาแล้วหลายครั้ง

สำหรับสถานการณ์การลักลอบจำหน่ายน้ำมันหนีภาษีในทะเลฝั่งอันดามันนั้น ถือว่ามีไม่มากนัก จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลักลอบเข้ามาราคาแตกต่างกันเพียง 10-15 บาท จึงไม่เป็นการจูงใจให้ลักลอบมากนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น