ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แม่พาลูกสาววัย 9 ขวบ ขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต หลังถูกเพื่อนบ้านรุ่นพ่อข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมส่งญาติข่มขู่หลังขอเคลียร์ไม่สำเร็จ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (15 ต.ค.) นางนงคราญ เววา อายุ 42 ปีชาวหมู่ที่ 3 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต กรณีที่ลูกสาววัย 9 ปี ถูกเพื่อนบ้านข่มขืนกระทำชำเรา เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดคดีดังกล่าว โดยมีนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับเรื่องไว้ และรับปากจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นางนงคราญ กล่าวว่า ลูกสาวอายุประมาณ 9 ปี ได้ถูกนายวิสุทธิ์ สองรอบ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157/2 หมู่ที่ 3 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ข่มขืนกระทำเชาเรา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา โดยตนได้ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อนายวิสุทธิ์ ไว้ที่ สภ.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ตไว้แล้ววันเดียวกับที่เกิดเหตุ
นางนงคราญ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2555 เวลาประมาณ 19.00 น. มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งมาบอกว่า สงสัยนายวิสุทธิ์จะข่มขืนลูกสาว เพราะเพื่อนบ้านคนดังกล่าวว่าระบุว่าในช่วงที่ไปซื้อของชำที่ร้านของนายวิสุทธิ์ เห็นนายวิสุทธิ์เดินรูดซิปกางเกงออกมาจากห้องครัว และเห็นลูกสาวของตนกำลังใส่กางเกงอยู่เหมือนกัน ตนจึงได้คาดคั้นจากลูกสาวว่าเกิดอะไรขึ้น จนลูกสาวยอมบอกว่า ถูกนายวิสุทธิ์ข่มขืนจริง โดยได้ลากเข้าไปในห้องครัวของบ้าน และก่อนหน้านี้ได้ข่มขืนมาแล้วหลายครั้งพร้อมทั้งขู่ไม่ให้บอกใคร ลูกสาวจึงกลัวไม่กล้าที่จะบอกตน รวมทั้งลูกสาวจะบ่นว่าแสบที่บริเวณอวัยะเพศเวลาปัสสาวะ
เมื่อรู้จากลูกสาวว่าถูกนายวิสุทธิ์ข่มขืน จึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ท่าฉัตรไชย ในวันเดียวกัน พร้อมทั้งนำลูกสาวไปให้แพทย์ตรวจ ปรากฎว่า เนื้อเยื่ออวัยวะเพศฉีกขาด และมีเลือดที่ช่องคลอดด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางนายวิสุทธิ์ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่ได้ข่มขืนกระทำชำเราลูกสาวตนแต่อย่างใด เพียงแต่ดึงกางเกงลง และเอามือไปจับอวัยวะเพศเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินคดีในวันที่ 8 ต.ค. และวันที่ 9 ต.ค.นายวิสุทธิ์ก็ได้รับการปล่อยตัวมานั่งอยู่ที่บ้านของตัวเองซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับบ้านของตนเอง รวมทั้งได้ส่งญาติมาเจรจาขอชดใช้เงินให้ด้วย ซึ่งตนได้บอกว่า ไม่ต้องการเงิน ก็ถูกข่มขู่ว่าจะใช้กฎหมาย หรือจะใช้กฎหมู่ ตนกลัวมาก เพราะตนไม่ใช่คนที่นี่ แต่งงานกับสามีมาอยู่ที่นี่ และได้เลิกรากับสามีไปแล้ว อยู่ที่บ้านกับลูกๆ 3 คนเท่านั้น ในขณะที่อีกฝ่ายมีญาติจำนวนมาก จึงอยากจะขอความเป็นธรรมต่อทางจังหวัดภูเก็ตในการเร่งรัดคดีดังกล่าว และเป็นห่วงความปลอดภัยของตนและลูกๆ
นางนงคราญ กล่าวเพิ่มว่า ลูกสาวตนเป็นเด็กสมาธิสั้น จำอะไรไม่ค่อยได้ เมื่อถูกข่มขู่ก็ไม่กล้าที่จะบอกเรื่องนี้กับใคร ขณะนี้ลูกสาวเป็นเด็กที่เชื่องซึม ไม่ค่อยพูดกับใคร บางครั้งก็มีร้องไห้บ้าง ซึ่งตนสงสารลูกมากที่ถูกกระทำดังกล่าว
ด้านนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางศูนย์ดำรงธรรมฯ จะประสานไปยังตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตในการเร่งรัดคดีดังกล่าว และหากมีการข่มขู่จากอีกฝ่าย ก็จะแจ้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจได้รับทราบและเข้าไปดำเนินการเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ผู้เสียหายอยู่อย่างปลอดภัยในฐานะพลเมืองของประเทศนี้
