หนองคาย - กลุ่มลูกจ้างของเทศบาลเมืองหนองคาย 57 คน ร้องตำรวจและศูนย์ดำรงธรรม ถูกเทศบาลฯ เลิกจ้างกะทันหัน ขณะที่นายกเทศมนตรีแจงไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากส่วนกลางทำให้ไม่มีงบในการจ้าง ไม่หวั่นถูกร้อง เหตุทำตามระเบียบ กทจ. พร้อมชี้แจงได้ทุกข้อหา
เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (1 ต.ค.) นายทศพล วงศ์โสภา ประธานสภาเทศบาลเมืองหนองคาย พร้อมคณะ ส.ท. กลุ่มทรงพลพัฒนาหนองคาย 9 คนได้นำคณะลูกจ้างเทศบาลเมืองหนองคาย 57 คนเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ไตรเทพ ไตรยางค์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานหลังจากถูกคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหนองคายเลิกจ้างอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นได้เดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดหนองคาย
โดยมีนายภควัฒ ฝ่ายแสนยอ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบศูนย์ดำรงธรรม เป็นผู้รับหนังสือ พร้อมกับจะแจ้งให้นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ทราบ และแจ้งท้องถิ่นจังหวัด กับเทศบาลเมืองหนองคาย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
นายชัยเดช วะลาพุฒ อายุ 51 ปี ลูกจ้างชั่วคราวกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม หนึ่งในผู้ถูกเลิกจ้าง กล่าวว่า เมื่อเช้าได้เดินทางไปทำงานตามปกติ โดยขอลงเวลาเช่นเคย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธบอกว่าตนถูกเลิกจ้าง โดยตนไม่ทราบล่วงหน้าว่าถูกเลิกจ้าง จึงได้ปรึกษากับผู้ถูกเลิกจ้างในกองงานต่างๆ ทั้งหมดลงความเห็นว่าถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม ไม่สามารถหางานอื่นทำได้ทัน
โดยบางคนได้รับการแจ้งด้วยวาจาล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ส่วนใหญ่เพิ่งจะทราบเรื่องในวันนี้ทำให้ตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งแต่ละคนได้รับการประเมินจากเทศบาลฯ อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก แต่กลับถูกเลิกจ้าง จึงต้องร้องขอความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ด้านนายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย กล่าวว่า ตามระเบียบข้อกฎหมายที่กำหนดเกี่ยวกับการจ้างงานทั้งฝ่ายประจำและพนักงานจ้าง ต้องอยู่ในกรอบร้อยละ 40 ของงบประมาณ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เนื่องจากในปีงบประมาณที่ผ่านมาเงินอุดหนุนที่ท้องถิ่นได้รับไม่เพียงพอ ถูกตัดงบจากส่วนกลาง ประกอบกับมีมติ ครม.ให้ท้องถิ่นจ่ายค่าครองชีพพิเศษแก่พนักงานจ้าง ปริญญาตรี 15,000 บาท ส่วนลูกจ้างชั่วคราวหรือพนักงานจ้างวันละ 300 บาท ตกเดือนละ 9,000 บาท
ขณะที่ปกติท้องถิ่นจ้างอยู่ที่ 6,000 บาท ทำให้งบประมาณส่วนนี้เพิ่มขึ้นเกินกรอบที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 40 หลังจากที่ตนเข้ามารับตำแหน่งได้รับคำสั่งดำเนินการตั้งแต่ 1 ม.ค. 2555 และได้โอนเงินจากโครงการต่างๆ มาจัดสรรเป็นค่าจ้าง รวมเป็นเงินประมาณ 13 ล้านบาท โดยรัฐบาลสั่งมาแต่ไม่ให้เงินอุดหนุนมาด้วย ซึ่งมีท้องถิ่นหลายแห่งทั่วประเทศกำลังประสบปัญหานี้อยู่เช่นกัน
โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้แนวทางแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่วงเงินจะต้องจ่ายเกินกรอบที่กำหนดสามารถยุบตำแหน่งงานนั้น แล้วใช้วิธีจ้างเหมาบริการแทน ซึ่งได้ประชุมหัวหน้าส่วนการงานทั้งหมดของเทศบาลฯ เห็นว่าหากคงจำนวนลูกจ้างไว้เท่าเดิมจะทำให้กรอบงบประมาณเกินที่กำหนด จึงให้แต่ละกองงานพิจารณาว่าจะยุบตำแหน่งงานไหนได้บ้าง และได้ข้อยุติเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมาในการเลิกจ้างยุบตำแหน่ง 57 ราย
ส่วนกรณีที่ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างระบุว่าถูกเลิกจ้างกะทันหันโดยไม่แจ้งล่วงหน้านั้น นายกำภลกล่าวว่า ลูกจ้างชั่วคราวและลูกจ้างตามภารกิจมีสัญญาจ้างรายปี สิ้นสุดสัญญาจ้าง 30 ก.ย.ของแต่ละปี ซึ่งเทศบาลฯ ทำตามระเบียบของคณะกรรมการพนักงานจ้างเทศบาลจังหวัดหนองคาย หรือ กทจ.ที่สามารถเลิกจ้างเมื่อครบกำหนดสัญญาจ้างได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าได้ หากลูกจ้างไม่พอใจสามารถร้องเรียนต่อ กทจ.หนองคาย ซึ่งคณะผู้บริหารพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงในทุกข้อกล่าวหา
