กระบี่ - ชาวบ้านคลองทรายดินแดงน้อย จ.กระบี่ รวมตัวบุกศาลากลาง ค้านอุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ประกาศเข้าไปตัดต้นยาง ยืนยันชาวบ้านเข้าไปทำประโยชน์ก่อนประกาศเขตอุทยานฯ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (4 ก.ย.) ชาวบ้านคลองทรายดินแดงน้อย ม.6 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ กว่า 100 คน นำโดยนายเจริญฤทธิ์ หมีนคลาน และนายวุฒินันท์ ดินแดง แกนนำกลุ่มพิทักษ์สิทธิที่ดินทำกินบ้านคลองทรายดินแดงน้อย เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม จากนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เข้าไปติดป้ายเพื่อเตรียมเข้าไปทำลายต้นยางพาราในพื้นที่ของชาวบ้าน
นายเจริญฤทธิ์กล่าวว่า ชาวบ้านคลองทรายดินแดงน้อย ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐรังแกมาตลอด ตั้งแต่หลังมีการประกาศเป็นพื้นที่เขตอุทยาน เมื่อปี พ.ศ.2526 จนถึงปัจจุบัน โดยมีชาวบ้านที่ทำกินอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานฯ ถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว จำนวน 13 แปลง ทั้งที่ความจริงชาวบ้านได้ทำกินอยู่ก่อนการประกาศเขตของอุทยานฯ และที่ชาวบ้านเป็นห่วงและกังวลมาก จนต้องรวมตัวกันมาชุมนุมที่หน้าศาลากลาง ก็เนื่องมาจากเจ้าหน้าที่อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้เข้าไปปักป้ายเพื่อเตรียมตัดทำลายต้นยางที่ชาวบ้านปลูกไว้ เหมือนอย่างที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ทำมาแล้วในพื้นที่จังหวัดพัทลุง นครศรีธรรมราช และจังหวัดตรัง
นายเจริญฤทธิ์ กล่าวอีกว่า พื้นที่ทุกแปลงที่อุทยานฯ เข้าไปปักป้ายเพื่อเตรียมเข้าไปทำลายต้นยางนั้น ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของชาวบ้านที่ได้มีการลงชื่อสำรวจไว้แล้วกับอุทยานฯ ว่าเป็นพื้นที่ของชาวบ้านที่ได้มีการทำกินมาก่อนการประกาศ รวมทั้งสิ้น 1,094 ราย จึงไม่เข้าใจว่าทำไมอุทยานฯ จึงได้เข้าไปปักป้ายเพื่อเตรียมเข้าไปทำลายผลอาสินอีก
ต่อมา นายวีระ จันทรทิพรักษ์ ปลัดจังหวัดกระบี่ ออกมารับเรื่อง พร้อมเชิญแกนนำ เข้าประชุมหารือกันที่ห้องประชุมศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ โดยเชิญนายพินิจ เอ่งฉ้วน ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมชี้แจงทำความเข้าใจกับแกนนำ โดยนายพินิจกล่าวยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมาย เมื่อตรวจพบว่ามีการบุกรุกที่ของอุทยานฯ เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการจับกุมยึดพื้นที่ หากไม่ทำก็ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ชาวบ้านที่มีรายชื่ออยู่ในการสำรวจของอุทยานฯ เมื่อปี 41 ก็สามารถยื่นอุทธรณ์กับอุทยานฯได้ภายใน 15 วัน
นายวีระ จันทรทิพรักษ์ ปลัดจังหวัดกระบี่ กล่าวภายหลังจากการประชุมร่วมกับแกนนำชาวบ้านนานร่วม 3 ชั่วโมง ว่า สำหรับพื้นที่บ้านคลองทรายดินแดงน้อย ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ยังไม่เข้าไปดำเนินการตัดทำลายผลอาสิน เพียงประกาศเท่านั้น ซึ่งการประชุมได้ข้อสรุป 3 ข้อ คือ 1.พื้นที่ที่ชาวบ้านทำกินอยู่ และมีการเตรียมดำเนินคดีทำลายผลอาสิน แต่เจ้าของที่ดินได้มีการสำรวจไว้แล้วเมื่อปี 2541 ทางอุทยานฯ จะไม่จับกุมดำเนินคดี และทำลายผลอาสิน โดยให้เจ้าของที่ดินไปแจ้งอุทธรณ์กับอุทยานฯ 2.ให้มีการทบทวนรายชื่อผู้ที่ยังไม่ได้สำรวจ 3.และให้มีการประสานงานกับองค์กรชุมชนบ้านดินแดงน้อยทุกครั้งที่มีการเข้าไปดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนขึ้น