โฆษก ปธ.สภาฯ แถลงเหตุ รบ.ทุ่มงบตั้งสำนักรัฐสภาประจำจังหวัด อ้างเปิดช่องให้ ปชช.แจ้งความเดือดร้อน ไม่ต้องมา กทม. พร้อมเผยแพร่ ปชต. ชี้ทำแทน กกต.เหตุหวั่นไม่ครอบคลุม เผยสัปดาห์หน้าลงสำรวจทำเล-ปลุก ปชช.ตื่นตัวตรวจสอบงบประมาณทองถิ่น ชี้หากพบแจ้งสภาฯ ยกเพื่อความโปร่งใส
วันนี้ (3 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงชี้แจงกรณีการตั้งสำนักรัฐสภาประจำจังหวัด 6 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงราย อุบลราชธานี ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ใช้งบประมาณ 18 ล้านบาท หลังจากที่ ส.ว.ได้มีการท้วงติงว่าเป็นการตั้งหน่วยงานทำงานซ้ำซ้อนและสิ้นเปลืองงบประมาณว่า จากการศึกษาเพื่อเปิดช่องทางให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมาร้องเรียนปัญหาต่อสำนักงานรัฐสภาได้โดยตรง จากเดิมประชาชนที่มีปัญหาต้องมาร้องเรียนถึง กทม. อีกทั้งในภารกิจอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้ง เช่น ส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย หากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมีหน้าที่หลักคือจัดการเลือกตั้งเป็นผู้ดำเนินการอาจไม่ครอบคลุม รวมถึงหน้าที่การเผยแพร่ความรู้ด้านประชาธิปไตย รัฐสภาถือเป็นองค์กรที่มีหน้าที่หลัก
นายวัฒนากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีข้อมูลพบว่าแม้จะมีหน่วยงานที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ประจำอยู่ในพื้นที่ เช่น ศูนย์ดำรงธรรม ของกระทรวงมหาดไทย แต่ประชาชนไม่ได้ให้ความไว้วางใจ อีกทั้งหวาดกลัวเพราะเจ้าหน้าที่มีการข่มขู่ ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าตนและคณะทำงานเตรียมลงพื้นที่ตามจังหวัดที่ให้มีการเปิดสำนักรัฐสภาจังหวัดนำร่อง เพื่อไปดูสถานที่ที่จะใช้เป็นที่ตั้งของสำนักงาน เบื้องต้นเป็นพื้นที่ของส่วนราชการที่มีการอนุญาตให้ใช้ เช่น ศาลากลางจังหวัด พื้นที่ของกรมธนารักษ์ และพื้นที่ของเอกชน เป็นต้น
โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎรยังเรียกร้องให้ประชาชนทุกภาคส่วนช่วยกันติดตามพร้อมทั้งตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะงบประมาณประจำปี 2556 จำนวน 2.4 ล้านล้านบาท ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา เนื่องจากเงินงบประมาณจำนวนมหาศาล ถือเป็นเงินภาษีของประชาชน อีกทั้งกลไกการตรวจสอบของรัฐอาจไม่ทั่วถึง ซึ่งประชาชนที่พบความไม่โปร่งใสในการใช้งบประมาณ เช่น กรณีงบที่ต้องนำไปขุด ลอก คู คลอง เพื่อป้องกันน้ำท่วม ที่รัฐบาลได้โอนเงินงบประมาณลงไปในทุกระดับ หากมีหน่วยงานใดละเลยก็สามารถแจ้งมาที่สภาผู้แทนราษฎร ได้ เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรถือเป็นหน่วยงานที่อนุมัติเงินงบประมาณแผ่นดิน และอยากวิงวอนให้ประชาชนตื่นตัว ร่วมตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณ พร้อมส่งข้อเสนอแนะต่างๆ เข้ามา โดยตรงนี้ถือเป็นหน้าที่ของพลเมืองที่ดีในระบอบประชาธิปไตยตามวิถีรัฐธรรมนูญ เพื่อให้รัฐบาลสามารถบริหารบ้านเมืองได้อย่างโปร่งใส เป็นที่ยอมรับ และเชื่อถือของประชาชนทั้งในและต่างประเทศต่อไป