นครศรีธรรมราช - คลังน้ำมันปากพนัง ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ต้องปิดตัวเองหลังประสบปัญหาเรือขนส่งน้ำมันไม่สามารถเดินเรือเข้าส่งน้ำมันได้ เนื่องจากร่องน้ำตื้นเขิน และติดปัญหาการทำประมงแบบโพงพางของชาวบ้านในร่องน้ำปากพนัง
วันนี้ (8 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลังน้ำมันเชื้อเพลิงปากพนังของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นคลังน้ำมันมีความจุหลายล้านลิตร สำหรับสถานีบริการ และผู้ซื้อรายใหญ่ ต้องปิดตัวเองลงกว่า 1 เดือนแล้ว เนื่องจากไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายให้แก่ตัวแทนสถานีบริการต่างๆ และลูกค้า เนื่องจากเรือบรรทุกน้ำมันไม่สามารถเดินเรือเข้ามาในร่องน้ำปากพนังได้ จากภาวะตื้นเขินของปากร่องน้ำ และอุปสรรคจากสิ่งกีดขวาง โดยเฉพาะเสาไม้ และสายสมอการทำประมงแบบผิดกฎหมายของชาวประมงหลายรูปแบบ ทำให้เรือขนส่งน้ำมันของบริษัท ปตท.เกรงจะเกิดผลกระทบ และเป็นอันตรายกับการขนส่งจึงต้องหยุดดำเนินกิจการในคลังน้ำมันแห่งนี้จนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง
นายกมลศักดิ์ เลิศไพบูลย์ เลขาธิการสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการที่เรือน้ำมันไม่สามารถเข้ามาได้ จีพีพีของจังหวัดหายไปหมด พยายามที่จะประสานกับ ปตท.เพื่อให้บรรจุแผนเปิดการใช้คลังน้ำมันแห่งนี้ใหม่ ส่วนหนึ่งคือ การขุดลอกร่องน้ำด้วยงบประมาณ 78 ล้านบาท ต้องลอกร่องน้ำรวมกว่า 1.27 ล้านคิวนั้นน่าจะประสบความสำเร็จ รวมถึงการจัดการกับการประมงที่ผิดกฎหมาย เมื่อไม่มีเรือน้ำมันเข้ามา จ.นครศรีธรรมราช ต้องไปรับน้ำมันมาจากสุราษฎร์ธานี ซึ่งทำให้น้ำมันแพงขึ้นไปอีก ดังนั้น ต้องเร่งผลักดันให้มีการเปิดคลังน้ำมันแห่งนี้อีกครั้ง
ขณะที่ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยอมรับว่า ปัญหาที่ส่งผลกระทบทำให้เรือน้ำมันไม่สามารถเข้ามาได้ คือ เรื่องของร่องน้ำ และการทำประมงแบบโพงพาง โดยต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะประมงโพงพาง ส่วนของการแก้ปัญหาเรื่องร่องน้ำกำลังจัดการเรื่องขุดลอกขยายร่องน้ำให้กว้างมากยิ่งขึ้น และจะได้ประสานกับ ปตท.เพื่อให้ดำเนินการเปิดการเดินเรือส่งน้ำมันเข้ามายังคลังแห่งนี้อีกครั้ง คืนสภาพทางเศรษฐกิจของปากพนังให้เร็วที่สุด
วันนี้ (8 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลังน้ำมันเชื้อเพลิงปากพนังของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นคลังน้ำมันมีความจุหลายล้านลิตร สำหรับสถานีบริการ และผู้ซื้อรายใหญ่ ต้องปิดตัวเองลงกว่า 1 เดือนแล้ว เนื่องจากไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายให้แก่ตัวแทนสถานีบริการต่างๆ และลูกค้า เนื่องจากเรือบรรทุกน้ำมันไม่สามารถเดินเรือเข้ามาในร่องน้ำปากพนังได้ จากภาวะตื้นเขินของปากร่องน้ำ และอุปสรรคจากสิ่งกีดขวาง โดยเฉพาะเสาไม้ และสายสมอการทำประมงแบบผิดกฎหมายของชาวประมงหลายรูปแบบ ทำให้เรือขนส่งน้ำมันของบริษัท ปตท.เกรงจะเกิดผลกระทบ และเป็นอันตรายกับการขนส่งจึงต้องหยุดดำเนินกิจการในคลังน้ำมันแห่งนี้จนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง
นายกมลศักดิ์ เลิศไพบูลย์ เลขาธิการสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการที่เรือน้ำมันไม่สามารถเข้ามาได้ จีพีพีของจังหวัดหายไปหมด พยายามที่จะประสานกับ ปตท.เพื่อให้บรรจุแผนเปิดการใช้คลังน้ำมันแห่งนี้ใหม่ ส่วนหนึ่งคือ การขุดลอกร่องน้ำด้วยงบประมาณ 78 ล้านบาท ต้องลอกร่องน้ำรวมกว่า 1.27 ล้านคิวนั้นน่าจะประสบความสำเร็จ รวมถึงการจัดการกับการประมงที่ผิดกฎหมาย เมื่อไม่มีเรือน้ำมันเข้ามา จ.นครศรีธรรมราช ต้องไปรับน้ำมันมาจากสุราษฎร์ธานี ซึ่งทำให้น้ำมันแพงขึ้นไปอีก ดังนั้น ต้องเร่งผลักดันให้มีการเปิดคลังน้ำมันแห่งนี้อีกครั้ง
ขณะที่ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยอมรับว่า ปัญหาที่ส่งผลกระทบทำให้เรือน้ำมันไม่สามารถเข้ามาได้ คือ เรื่องของร่องน้ำ และการทำประมงแบบโพงพาง โดยต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะประมงโพงพาง ส่วนของการแก้ปัญหาเรื่องร่องน้ำกำลังจัดการเรื่องขุดลอกขยายร่องน้ำให้กว้างมากยิ่งขึ้น และจะได้ประสานกับ ปตท.เพื่อให้ดำเนินการเปิดการเดินเรือส่งน้ำมันเข้ามายังคลังแห่งนี้อีกครั้ง คืนสภาพทางเศรษฐกิจของปากพนังให้เร็วที่สุด