สุราษฎร์ธานี - ม็อบชาวประมงพื้นบ้านปิดอ่าวบ้านดอนไม่สนผู้ว่าราชการจังหวัดขู่จับกุมดำเนินคดีหากไม่ยอมสลายตัว เดินหน้าปิดอ่าวเป็นวันที่ 2 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งการเดินทางทางบกและทางน้ำ เหตุเรือไม่สามารถเข้าเทียบท่าได้ทำให้ก๊าซ LPG ขาดแคลน
เช้าวันนี้ (12 พ.ค.)ม็อบชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดสุราษฎร์กว่า 100 ลำ ยังรวมตัวกันปิดร่องน้ำอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานีติดต่อเป็นวันที่ 2 หลังจากเริ่มปิดอ่าวมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพื่อเรียกร้องทางจังหวัด เร่งดำเนินการรื้อถอนแนวเขตไม้ไผ่และเสาไฟฟ้าที่กลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ได้ดำเนินการลักลอบปักทำแนวเขตในพื้นที่ทำการประมง 3000 เมตร เพื่อครอบครองลูกพันธุ์หอยแครงที่เกิดขึ้นในช่วงนี้จำนวนมาก จนทำให้กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจำนวนกว่า 6 ตำบล กว่า 3,000 ลำไม่สามารถออกทำการประมงจับสัตว์น้ำได้ และเรียกร้องให้ทำการปลดอาวุธของกลุ่มผู้มีอิทธิพล รวมทั้งอนุญาตให้ชาวประมงพื้นบ้านสามารถเข้าไปทำกินได้ตามปกติ
ซึ่งการปิดอ่าวดังกล่าวได้ส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งการเดินทางโดยทางเรือ และบนบก
โดยขณะนี้เรือทุกชนิดไม่สามารถเข้าออกได้ รวมทั้งเรือบรรทุกก๊าซ LPG ก็ไม่สามารถเข้าเทียบท่าได้ทำให้ขณะนี้ในพื้นที่เริ่มขาดแคลนก๊าซแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อยุติในการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของชาวประมงพื้นบ้าน พร้อมลงไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยทางจังหวัดจะรับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมด แต่มีข้อแม้ว่าให้ใช้เครื่องมือประมงพื้นบ้านจับลูกพันธุ์หอยแครง ส่วนเครื่องมือที่ผิดกฎหมายไม่อนุญาตให้นำเข้าทำการประมงโดยเด็ดขาด ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่พอใจกับข้อเสนอของทางจังหวัด ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมแต่งตั้งตัวแทนเข้าร่วมหารือและขอให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมเปิดร่องน้ำเพื่อให้เรือสามารถเข้าออกได้ แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ยินยอม
ซึ่งหลังจากเจรจาไม่สำเร็จทางจังหวัด ได้ออกประกาศจังหวัดห้ามทำประมงหอยแครงในพื้นที่ตำบลลีเล็ด อำเภอพุนพิน เป็นเวลา 7 วัน พร้อมสนธิกำลัง ตำรวจน้ำ ตำรวจภูธร ประมงออกทำการจับกุมผู้ฝ่าฝืน พร้อมดำเนินคดีโทษสูงสุด และสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดร่องน้ำให้การเดินเรือสัญจรได้ตามปกติหากไม่ยินยอมจะนำกำลังเข้าทำการจับดำเนินคดีตามกฎหมายในวันนี้( 12 พ.ค.)