พรีเชียส ชิพปิ้ง ไตรมาส 2 กำไรหาย 388 ล้านบาท หรือลดลง 97% จากงวดเดียวกันของปี 55 แม้รายได้จากการเดินเรือเพิ่มขึ้น สวนทางรายได้เฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือที่ลดลง เหตุอัตราค่าระวางเรือที่ยังคงตกต่ำ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือ และค่าใช้จ่ายทางการเงินเพิ่มขึ้น
นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ สิ้นสุด 31 มีนาคม 55 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 13.13 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 401.28 ล้านบาท หรือลดลง 388.15 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 96.72%
โดยงวดนี้ บริษัทมีรายได้จากการเดินเรือสุทธิ (รายได้จากการเดินเรือสุทธิจากรายจ่ายท่าเรือ และน้ำมันเชื้อเพลิง) ของไตรมาส 2 ปี2555 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2554 ร้อยละ 5 สาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจากจำนวนเรือเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ รายได้มาจากจำนวนเรือเฉลี่ยประมาณ 30 ลำ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2555 เมื่อเทียบกับจำนวนเรือเฉลี่ยประมาณ 21 ลำในช่วงเดียวกันของปี 2554 ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555 กองเรือของบริษัทฯ มีจำนวน 30 ลำ
อย่างไรก็ตาม รายได้เฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือได้ลดลงจาก 12,782 เหรียญสหรัฐในไตรมาส 2 ปี 2554 เป็น 9,130 เหรียญสหรัฐในไตรมาส 2 ของปี นี้ สืบเนื่องจากสภาพตลาดอัตราค่าระวางเรือที่ยังคงตกต่ำ ขณะที่ไตรมาสนี้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 57 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2554 สาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นตามที่กล่าวมาข้างต้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือ (รวมค่าเสื่อม/ค่าใช้จ่ายตัดบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม และสำรวจเรือแล้ว) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 4,545 เหรียญสหรัฐในไตรมาส 2 ปี 2554 เป็น 4,575 เหรียญสหรัฐในไตรมาส 2 ปี 2555
แม้ว่าไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้บันทึกกำไรจากการขายสัญญาสั่งต่อเรือเดินทะเลตามสัญญาการแปลงหนี้ใหม่ เป็นเงิน 188.49 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2554 ทั้งนี้ ไม่มีการบันทึกรายการกำไรดังกล่าวในไตรมาส 2 ปี 2555 ส่วนค่าเสื่อมราคา
สำหรับไตรมาส 2 ปี 2555 เพิ่มขึ้นจำนวน 73.76 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นโดยรวมพบว่าค่าใช้จ่ายทางการเงินสำหรับไตรมาส 2 ปี 2555 เพิ่มขึ้น 44.26 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี ที่แล้ว สาเหตุหลักเนื่องมาจากดอกเบื้ยจ่ายเพิ่มขึ้นจากการเบิกถอนเงินกู้เพื่อใช้ซื้อเรือในช่วงสามไตรมาสก่อน และการตัดจ่ายครั้งเดียวของค่าธรรมเนียมทางการเงินรอตัดจ่ายสำหรับค่าธรรมเนียมในการจัดหาวงเงินสินเชื่อ ในส่วนของวงเงินสินเชื่อจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐของหนึ่งวงเงินสินเชื่อ เนื่องจากระยะเวลาการเบิกถอนเงินกู้ของวงเงินสินเชื่อส่วนนี้ไม่ถูกต่ออายุ
นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ สิ้นสุด 31 มีนาคม 55 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 13.13 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 401.28 ล้านบาท หรือลดลง 388.15 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 96.72%
โดยงวดนี้ บริษัทมีรายได้จากการเดินเรือสุทธิ (รายได้จากการเดินเรือสุทธิจากรายจ่ายท่าเรือ และน้ำมันเชื้อเพลิง) ของไตรมาส 2 ปี2555 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2554 ร้อยละ 5 สาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจากจำนวนเรือเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ รายได้มาจากจำนวนเรือเฉลี่ยประมาณ 30 ลำ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2555 เมื่อเทียบกับจำนวนเรือเฉลี่ยประมาณ 21 ลำในช่วงเดียวกันของปี 2554 ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555 กองเรือของบริษัทฯ มีจำนวน 30 ลำ
อย่างไรก็ตาม รายได้เฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือได้ลดลงจาก 12,782 เหรียญสหรัฐในไตรมาส 2 ปี 2554 เป็น 9,130 เหรียญสหรัฐในไตรมาส 2 ของปี นี้ สืบเนื่องจากสภาพตลาดอัตราค่าระวางเรือที่ยังคงตกต่ำ ขณะที่ไตรมาสนี้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 57 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2554 สาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นตามที่กล่าวมาข้างต้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือ (รวมค่าเสื่อม/ค่าใช้จ่ายตัดบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม และสำรวจเรือแล้ว) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 4,545 เหรียญสหรัฐในไตรมาส 2 ปี 2554 เป็น 4,575 เหรียญสหรัฐในไตรมาส 2 ปี 2555
แม้ว่าไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้บันทึกกำไรจากการขายสัญญาสั่งต่อเรือเดินทะเลตามสัญญาการแปลงหนี้ใหม่ เป็นเงิน 188.49 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2554 ทั้งนี้ ไม่มีการบันทึกรายการกำไรดังกล่าวในไตรมาส 2 ปี 2555 ส่วนค่าเสื่อมราคา
สำหรับไตรมาส 2 ปี 2555 เพิ่มขึ้นจำนวน 73.76 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นโดยรวมพบว่าค่าใช้จ่ายทางการเงินสำหรับไตรมาส 2 ปี 2555 เพิ่มขึ้น 44.26 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี ที่แล้ว สาเหตุหลักเนื่องมาจากดอกเบื้ยจ่ายเพิ่มขึ้นจากการเบิกถอนเงินกู้เพื่อใช้ซื้อเรือในช่วงสามไตรมาสก่อน และการตัดจ่ายครั้งเดียวของค่าธรรมเนียมทางการเงินรอตัดจ่ายสำหรับค่าธรรมเนียมในการจัดหาวงเงินสินเชื่อ ในส่วนของวงเงินสินเชื่อจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐของหนึ่งวงเงินสินเชื่อ เนื่องจากระยะเวลาการเบิกถอนเงินกู้ของวงเงินสินเชื่อส่วนนี้ไม่ถูกต่ออายุ