ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ เข้าจอดเทียบท่า พร้อมลูกเรือกว่า 5 พันคน ยกพลขึ้นบกท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ของ จ.ภูเก็ต 7-11 ต.ค.นี้ คาดเงินสะพัด 150 ล้านบาท
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (7 ต.ค.) นาวาเอก Ronal Reis ผู้บังคับการเรือ USS John C.Stennis (CVN 74) พร้อมด้วย พันจ่าเอก Stanley L.Jewett พันจ่าหัวหน้าฝ่ายปกครองประจำเรือ และคณะ ร่วมต้อนรับคณะสื่อมวลชนจังหวัดภูเก็ต ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมเรือ USS John C.Stennis (CVN 74) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น NIMITZ ที่สามารถเดินทางรอบโลกได้โดยไม่ต้องพักเติมเชื้อเพลิง โดยได้เข้าเทียบท่าที่บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต วันนี้ (7 ต.ค.) เป็นวันแรก พร้อมลูกเรือ 5,000 คน ในจำนวนนี้ เป็นลูกเรือผู้หญิงประมาณ 16-17% และจะเดินทางออกจากท่าเทียบเรือน้ำลึก ในวันที่ 11 ต.ค.ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ ระหว่างเรือจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ต ในส่วนของลูกเรือจะมีการเดินทางขึ้นบก เพื่อไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต โดยจะหมุนเวียนกันขึ้นบกวันละประมาณ 1,000-2,000 คน คาดว่าจะมีรายได้สะพัดในช่วงดังกล่าว ประมาณ 150 ล้านบาท และนอกจากการเดินทางขึ้นไปพักผ่อนบนบกแล้ว ลูกเรือส่วนหนึ่งจะมีการร่วมทำกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์กับประชาชนในชุมชนต่างๆ ด้วย
สำหรับเรือ USS John C.Stennis (CVN 74) มีขนาดดาดฟ้าบิน ยาว 1,092 ฟุต กว้าง 257 ฟุต ความสูงวัดจากยอดเสากระโดงเรือถึงกระดูกงู 244 ฟุต หรือเท่าตึกสูง 24 ชั้น ขณะที่ในส่วนของพื้นที่ดาดฟ้าบินมีขนาด 4.5 เอเคอร์ สามารถบรรทุกอากาศยาน ซึ่งเป็นเครื่องบินขนส่งทางยุทธวิธี กว่า 70 ลำ และมีน้ำหนัก 97,000 ตัน ระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เครื่อง มีความเร็วสูงสุดกว่า 300 นอต
ภารกิจของเรือ USS John C.Stennis และกองบินประจำเรือ คือ การปฏิบัติการรบทางอากาศอย่างต่อเนื่องในขณะออกปฏิบัติการในพื้นที่ทั่วโลก กองบินเรือประกอบด้วย 8-9 ฝูงบิน โดยมีอากาศยานต่างๆ เช่น F/A-18 Hornet, F/A-18E/F Super Hornet, EA-6B Prowler, E-2C Hawkeye และ MH-60S Seahawk กองบินนี้สามารถทำลายอากาศยาน เรือ เรือดำน้ำ และเป้าหมายทางบกขนาดใหญ่ของฝ่ายศัตรูได้ รวมทั้งวางระเบิดบนพื้นที่ที่ห่างจากจุดที่เรือจอดหลายร้อยไมล์
อากาศยานประจำเรือ USS John C.Stennis มีภารกิจในการปฏิบัติการโจมตี สนับสนุนการยุทธภาคพื้น คุ้มครองกองเรือโจมตี หรือเรือพันธมิตรอื่นๆ ตลอดจนทำหน้าที่เป็นด่านสกัดกั้น ทั้งทางทะเล และทางอากาศ โดยปกติเรือ USS John C.Stennis จะทำหน้าที่เป็นเรือหลักของกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีโดยมีผู้บัญชาการชั้นยศนายพลบัญชาการจากเรือ USS John C.Stennis และกองเรือจะมีเรือลำอื่นๆ อีกประมาณ 4-6 ลำ
นอกจากมีสมรรถนะสูงในการเดินเรือแล้ว เรือ USS John C.Stennis ยังมีสมรรถภาพในการซ่อมบำรุง โดยมีแผน Aircraft Intermediate Maintenance ที่มีอุปกรณ์ครบครัน พร้อมด้วยห้องซ่อมเรือจำนวนมาก สำหรับสมรรถนะในการป้องกันตนเอง นอกเหนือจากกองบิน และเรือติดตามแล้ว เรือ USS John C.Stennis ยังมีจรวดนำวิถีระยะสั้น NATO Sea Sparrow จรวดนำวิถี Rolling Airframe (RAM) ระบบอาวุธ Phalanx Close-in Weapons System และระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ SLQ-32
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (7 ต.ค.) นาวาเอก Ronal Reis ผู้บังคับการเรือ USS John C.Stennis (CVN 74) พร้อมด้วย พันจ่าเอก Stanley L.Jewett พันจ่าหัวหน้าฝ่ายปกครองประจำเรือ และคณะ ร่วมต้อนรับคณะสื่อมวลชนจังหวัดภูเก็ต ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมเรือ USS John C.Stennis (CVN 74) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น NIMITZ ที่สามารถเดินทางรอบโลกได้โดยไม่ต้องพักเติมเชื้อเพลิง โดยได้เข้าเทียบท่าที่บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต วันนี้ (7 ต.ค.) เป็นวันแรก พร้อมลูกเรือ 5,000 คน ในจำนวนนี้ เป็นลูกเรือผู้หญิงประมาณ 16-17% และจะเดินทางออกจากท่าเทียบเรือน้ำลึก ในวันที่ 11 ต.ค.ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ ระหว่างเรือจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ต ในส่วนของลูกเรือจะมีการเดินทางขึ้นบก เพื่อไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต โดยจะหมุนเวียนกันขึ้นบกวันละประมาณ 1,000-2,000 คน คาดว่าจะมีรายได้สะพัดในช่วงดังกล่าว ประมาณ 150 ล้านบาท และนอกจากการเดินทางขึ้นไปพักผ่อนบนบกแล้ว ลูกเรือส่วนหนึ่งจะมีการร่วมทำกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์กับประชาชนในชุมชนต่างๆ ด้วย
สำหรับเรือ USS John C.Stennis (CVN 74) มีขนาดดาดฟ้าบิน ยาว 1,092 ฟุต กว้าง 257 ฟุต ความสูงวัดจากยอดเสากระโดงเรือถึงกระดูกงู 244 ฟุต หรือเท่าตึกสูง 24 ชั้น ขณะที่ในส่วนของพื้นที่ดาดฟ้าบินมีขนาด 4.5 เอเคอร์ สามารถบรรทุกอากาศยาน ซึ่งเป็นเครื่องบินขนส่งทางยุทธวิธี กว่า 70 ลำ และมีน้ำหนัก 97,000 ตัน ระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เครื่อง มีความเร็วสูงสุดกว่า 300 นอต
ภารกิจของเรือ USS John C.Stennis และกองบินประจำเรือ คือ การปฏิบัติการรบทางอากาศอย่างต่อเนื่องในขณะออกปฏิบัติการในพื้นที่ทั่วโลก กองบินเรือประกอบด้วย 8-9 ฝูงบิน โดยมีอากาศยานต่างๆ เช่น F/A-18 Hornet, F/A-18E/F Super Hornet, EA-6B Prowler, E-2C Hawkeye และ MH-60S Seahawk กองบินนี้สามารถทำลายอากาศยาน เรือ เรือดำน้ำ และเป้าหมายทางบกขนาดใหญ่ของฝ่ายศัตรูได้ รวมทั้งวางระเบิดบนพื้นที่ที่ห่างจากจุดที่เรือจอดหลายร้อยไมล์
อากาศยานประจำเรือ USS John C.Stennis มีภารกิจในการปฏิบัติการโจมตี สนับสนุนการยุทธภาคพื้น คุ้มครองกองเรือโจมตี หรือเรือพันธมิตรอื่นๆ ตลอดจนทำหน้าที่เป็นด่านสกัดกั้น ทั้งทางทะเล และทางอากาศ โดยปกติเรือ USS John C.Stennis จะทำหน้าที่เป็นเรือหลักของกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีโดยมีผู้บัญชาการชั้นยศนายพลบัญชาการจากเรือ USS John C.Stennis และกองเรือจะมีเรือลำอื่นๆ อีกประมาณ 4-6 ลำ
นอกจากมีสมรรถนะสูงในการเดินเรือแล้ว เรือ USS John C.Stennis ยังมีสมรรถภาพในการซ่อมบำรุง โดยมีแผน Aircraft Intermediate Maintenance ที่มีอุปกรณ์ครบครัน พร้อมด้วยห้องซ่อมเรือจำนวนมาก สำหรับสมรรถนะในการป้องกันตนเอง นอกเหนือจากกองบิน และเรือติดตามแล้ว เรือ USS John C.Stennis ยังมีจรวดนำวิถีระยะสั้น NATO Sea Sparrow จรวดนำวิถี Rolling Airframe (RAM) ระบบอาวุธ Phalanx Close-in Weapons System และระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ SLQ-32