กระบี่ - หัวขโมยจอมแสบ จนมุมตำรวจ หลังตระเวนขโมยทรัพย์ตามโรงแรมหรูบนเกาะลันตา จ.กระบี่ พร้อมตรวจยึดของกลางได้กว่า 100 รายการ เผยพฤติกรรมผู้ต้องหาจะหยิบทุกอย่างที่ขวางหน้า เพื่อความรวดเร็ว ไม่เว้นแม้กระทั่งยาแก้ปวด กบเหลาดินสอ ที่หนีบผม
นายสุริยัน ณรงค์กูล นายอำเภอเกาะลันตา พ.ต.อ.สมยศ สีหาบัว ผกก.สภ.เกาะลันตา พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัวนายนิพล สันนก อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 2 ตำบลแหลมสน อำเภอละงู จังหวัดสตูล หลังผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่เกาะลันตา และใกล้เคียงมาแล้วหลายครั้ง โดยมีของกลางจำนวนกว่า 100 รายการ เช่น เครื่องประดับ โทรศัพท์มือถือ iPod เครื่องเล่นซีดี นาฬิกาข้อมือ และแว่นตายี่ห้อต่างๆ กระเป๋าหนัง เครื่องสำอาง บัตรเอทีเอ็ม กุญแจมือ นอกจากนี้ ยังมีของกลางเล็กๆ น้อยๆ อีกจำนวนมาก เช่น ยาแก้ปวด กบเหลาดินสอ วิตามินซี ดินสอ ปากกา สมุดสะสมแสตมป์ เป็นต้น ซึ่งเป็นของกลางที่ผู้ต้องหาขโมยมาทั้งหมด
การจับกุมผู้ต้องหารายนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการโรงแรม และบังกะโลบนเกาะลันตาจำนวนหลายรายว่า ได้มีคนร้ายแอบเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในที่พักของนักท่องเที่ยว รวมทั้งพนักงานในสถานประกอบการได้รับความเดือดร้อน แต่ไม่สามรรถจับกุมตัวคนร้ายได้ เพราะอำพรางใบหน้า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนเป็นเวลานานกว่า 1 ปี จนกระทั่งสืบทราบว่า นายนิพล ผู้ต้องหา ได้เป็นคนก่อเหตุ จึงได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมตัว และทราบว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้เดินทางมาพักที่บังกะโลบ้านระเบียง ซีวิว ม.6 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมตัวพร้อมตรวจค้นพบของกลางจำนวนหลายรายการ แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายต่อสิ่งกีดกันบุคคล หรือทรัพย์ หรือรับของโจร
หลังจากจับกุมตัว มีผู้เสียหายจำนวนมากมาตรวจสอบของกลาง และรับคืนไปบางส่วน แต่ยังเหลือของกลางอีกจำนวนมากที่อยู่ระหว่างรอผู้เสียหายมารับคืน
พ.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นนี้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าของทั้งหมดไม่ได้ขโมยเพื่อนนำมาจำนำ แต่มีหลักฐานมัดแน่น และจากการสืบสวนพบว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้จะออกตระเวนลักทรัพย์ในเวลากลางคืนตามสถานประกอบการ โรงแรม บังกะโลที่เคยไปรับเหมาก่อสร้าง จึงค่อนข้างชำนาญพื้นที่และรู้จุดที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด โดยขณะลงมือก่อเหตุจะสวมชุดไอ้โม่งอำพรางใบหน้า เมื่อปลอดคนก็ใช้เครื่องมือคีมตัดเหล็กตัดกุญแจ ก่อนลงมือหยิบของกลางโดยไม่สนใจว่าจะเป็นอะไร ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็หยิบของกลางใส่ถุงที่เตรียมไว้ ก่อนหลบหนีออกจากพื้นที่ จากนั้นก็จะนำไปขายตามร้านอีกทอดหนึ่ง พอเงินหมดก็กลับมาก่อเหตุใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ผู้ที่ทรัพย์สินสูญหาย และที่เคยแจ้งความร้องทุกข์ไว้ให้มาดูของกลางได้ที่ สภ.เกาะลันตา