มหาสารคาม - ตำรวจมหาสารคามรวบหนุ่มใหญ่เอเยนต์ยาบ้าที่เพิ่งพ้นคุกมาเมื่อปี 52 พร้อมของกลางกว่า 4,000 เม็ด สารภาพรายได้ไม่พอค่าใช้จ่ายจึงต้องหวนกลับไปค้ายาบ้าอีก
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองมหาสารคาม แถลงข่าวจับกุม นายเกรียงไกร วรรณปักษิณ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ที่ 8 บ้านโคกก่อง ตำบลคันธารราษฎร์ อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 4,200 เม็ด รถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮเอซ สีเทา หมายเลขทะเบียน นข 2273 หนองคาย จำนวน 1 คัน
พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ผู้ต้องหารายดังกล่าวมีประวัติเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายมาก่อนที่จังหวัดพะเยา โดยศาลจังหวัดพะเยาตัดสินจำคุก 25 ปี และพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณปี 2552 ซึ่งยังคงมีพฤติการณ์ลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายแก่กลุ่มผู้ค้ารายย่อยในเขตพื้นที่อำเภอเมืองมหาสารคาม
จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดเฝ้าติดตามพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง จนได้รับแจ้งจากสายลับว่านายเกรียงไกรได้นัดส่งยาบ้าให้ลูกค้าที่บริเวณฝายกั้นน้ำบ้านวังยาว จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุพบรถตู้ลักษณะดังกล่าวติดข้อความใช้ในราชการเท่านั้น จอดอยู่ริมถนน จึงได้เข้าตรวจสอบและแสดงตัวขอทำการตรวจค้น
จากการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 4,200 เม็ดซุกซ่อนในกระเป๋าหนังสะพายสีดำ วางอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับ สอบถามนายเกรียงไกรรับว่ารับยาบ้ามาจาก นายยุทธ ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง อยู่ที่อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม เพื่อจะนำมาส่งลูกค้าในจังหวัดมหาสารคาม แต่ยังไม่ทันได้ส่งมอบยาบ้าให้ลูกค้าก็ถูกจับกุมเสียก่อน
พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคามสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้กว่า 10 คดี ได้ของกลางยาบ้าทั้งหมดกว่า 8,000 เม็ด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่ง พ.ต.ท.พชกร พรมอ้น พงส.สภ.เมืองมหาสารคาม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป