นครศรีธรรมราช - แก๊งค้ายาในคุกนครศรีฯ ยังซ่าไม่เลิก สั่งสมุนค้ายาต่อเนื่อง ตำรวจตามรวบได้อีก 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้าเกือบ 3 พันเม็ด ยาไอซ์ 108.7 กรัม ยึดทรัพย์ซ้ำทองคำ รถยนต์มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
วันนี้ (15 พ.ค.) พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุทน ช้างรบ สว.สส., ร.ต.ท.เหนือโชค คงสงศ์ รอง สว.สส., ร.ต.ต.อุดม ธานีรัตน์ รอง สวป.และกำลังตำรวจในปกครองจำนวนหนึ่ง ได้เข้าร่วมจับกุมตัว นายสมบัติ บุญวิก อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 7 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับ นางแอด หอมประกอบ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 8 ต.ไทรขึง อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี โดยจับกุมได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 2/9 หมู่ 7 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 2,800 เม็ด และยาไอซ์อีก 6 ถุงเล็ก น้ำหนักชั่งได้ 108.7 กรัม ทั้งหมดถูกซุกซ่อนอยู่ที่ใต้ฐานพัดลม 2 ตัว นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนเถื่อนขนาด 9 มม.1 กระบอก และกระสุนปืนอีก 5 นัด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนได้ติดตามพฤติกรรมของบุคคลทั้ง 2 มาเป็นเวลานับเดือนจากพฤติกรรมไม่มีอาชีพชัดเจนใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย มีรถยนต์ราคาแพงใช้ จนกระทั่งพบข้อมูลจากการสืบสวนตรงกัน ว่า ทั้ง 2 รายลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ โดยมีพื้นที่จำหน่ายใน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ขยายไปจนถึง อ.ลำทับ จ.กระบี่ โดยเจ้าหน้าที่ได้อาศัยอำนาจเจ้าพนักงาน ปปส. เข้าจู่โจมตรวจค้นหลังจากที่สายสืบได้ยืนยันข้อมูลว่า นายสมบัติ เพิ่งรับยาล๊อตใหม่โดยการสั่งการจากนายเอก ไม่ทราบชื่อจริง ที่เป็นนักโทษคดีค้ายาเสพติดซึ่งอยู่ระหว่างถูกจองจำในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เป็นผู้สั่งการ
จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ ยึดของกลางยาบ้าที่บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้าได้ 14 ถุง บรรจุยาบ้า 2,800 เม็ด และยาไอซ์ อีก 6 ถุงเล็ก น้ำหนักชั่งได้ 108.7 กรัม มูลค่ากว่า 300,000 บาท ทั้งหมดถูกซุกซ่อนอยู่ที่ใต้ฐานพัดลม 2 ตัว นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนเถื่อนขนาด 9 มม. 1 กระบอก และกระสุนปืนอีก 5 นัด วางอยู่ใต้ที่นอนในห้องนอน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบเงินสดอีกกว่า 100,000 บาท อยู่ในกระเป๋าหนังแบบคาดเอว โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง สร้อยข้อมือหนัก 1 บาท 2 เส้น สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น แหวนทองหนัก 1 สลึง 1 วง และรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน ที่หน้าบ้านยังมีรถยนต์กระบะโตโยต้า ตอนครึ่งสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บษ 9347 นครศรีธรรมราช รถเก๋ง ยี้ห้อเชฟโรเลต สีดำ ทะเบียน กธ 8709 สุราษฎร์ธานี จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนพร้อมกับสั่งอายัดทรัพย์สินทั้งหมดไว้ตรวจสอบ ซึ่งมีมูลค่าร่วม 3 ล้านบาท
นายสมบัติ ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่า ตนเองเคยถูกจับมาแล้วเมื่อปี 49 ที่ผ่านมา ในคดีมียาบ้าจำนวนพันกว่าเม็ด ถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี แต่รับสารภาพศาลจึงลดโทษให้เหลือ 3 ปี 6 เดือน ปรับเป็นเงินอีก 2 แสนบาท และพ้นโทษออกมาเมื่อปี 54 ในระหว่างอยู่ในเรือนจำที่นครศรีธรรมราช ได้รู้จักกับนายเอก ฉายาว่า “เอกเขาขาว” หลังพ้นโทษก็ได้ติดต่อกับนายเอกเรื่อยมา กระทั่งนายเอกได้โทรศัพท์ให้มารับยาบ้า และยาไอซ์ไปจำหน่าย โดยจะมีลูกน้องของนายเอกเป็นคนเอายามาวางไว้ให้ในจุดต่างๆ
จากนั้นก็ให้ตนไปรับ ส่วนเงินที่ขายยาได้ก็จะโอนเข้าบัญชีของลูกน้องนายเอกอีกคนหนึ่ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา นายเอก ได้โทรศัพท์ให้ตนไปรับยาที่มีลูกน้องของนายเอกอีกที่หนึ่งเป็นคนเอายามาวางไว้ให้ที่ข้างสะพามข้ามคลอง ในเขตพื้นที่ อ.ทุ่งสง หลังตนไปรับยามาแล้วก็จะเอามาพักไว้ที่บ้านเช่าโดยซุกไว้ใต้ฐานพัดลมเพื่อรอการจำหน่าย
“ในการโทรศัพท์สั่งยาแต่ละครั้งจะใช้นามแฝง ว่า “งานนคร” ซึ่งคำว่างาน คือ คุก ส่วนนคร หมายถึง เรือนจำนครศรีธรรมราช แปลรวมกันแล้วว่า งานที่สั่งจากคุกนครศรีธรรมราช ในการนำยาออกไปจำหน่ายแต่ละครั้ง ผมจะเปลี่ยนสถานที่ในการเช่าบ้านไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมาก็มีบ้านพรุดินนา อ.ลำทับ หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 3 ต.กุแหระ และบ้านควนประชาสรรค์ ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่” นายสมบัติ สารภาพ
พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก.เผยว่า การเข้าจับกุมผัวเมียในครั้งนี้ ถือว่า ได้ของกลางจำนวนมาก ซึ่งผู้ต้องหาให้การซัดทอดถึงเครือข่ายที่อยู่ในเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช แสดงให้เห็นว่าแก๊งเครือข่ายยานรกยังไม่หมดไปจากคุกนครศรีธรรมราช ทั้งที่ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ได้ระดมกวาดล้างอบายมุขทุกอย่างในคุกนครศรีธรรมราช อย่างจริงจังที่เป็นข่าวใหญ่เพิ่งจะผ่านไปไม่นานมานี้
และเมื่อ 2 วันที่ผ่านมานี้ ซึ่งผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า เพิ่งจะได้รับโทรศัพท์ให้ไปเอายา โดยสั่งการออกมาจากเรือนจำนครศรีธรรมราช เมื่อผู้ต้องหาให้การซัดทอดอย่างนี้แล้ว ก็จะได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปดำเนินการจัดการอย่างเด็ดขาดต่อไป
วันนี้ (15 พ.ค.) พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุทน ช้างรบ สว.สส., ร.ต.ท.เหนือโชค คงสงศ์ รอง สว.สส., ร.ต.ต.อุดม ธานีรัตน์ รอง สวป.และกำลังตำรวจในปกครองจำนวนหนึ่ง ได้เข้าร่วมจับกุมตัว นายสมบัติ บุญวิก อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 7 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับ นางแอด หอมประกอบ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 8 ต.ไทรขึง อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี โดยจับกุมได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 2/9 หมู่ 7 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 2,800 เม็ด และยาไอซ์อีก 6 ถุงเล็ก น้ำหนักชั่งได้ 108.7 กรัม ทั้งหมดถูกซุกซ่อนอยู่ที่ใต้ฐานพัดลม 2 ตัว นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนเถื่อนขนาด 9 มม.1 กระบอก และกระสุนปืนอีก 5 นัด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนได้ติดตามพฤติกรรมของบุคคลทั้ง 2 มาเป็นเวลานับเดือนจากพฤติกรรมไม่มีอาชีพชัดเจนใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย มีรถยนต์ราคาแพงใช้ จนกระทั่งพบข้อมูลจากการสืบสวนตรงกัน ว่า ทั้ง 2 รายลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ โดยมีพื้นที่จำหน่ายใน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ขยายไปจนถึง อ.ลำทับ จ.กระบี่ โดยเจ้าหน้าที่ได้อาศัยอำนาจเจ้าพนักงาน ปปส. เข้าจู่โจมตรวจค้นหลังจากที่สายสืบได้ยืนยันข้อมูลว่า นายสมบัติ เพิ่งรับยาล๊อตใหม่โดยการสั่งการจากนายเอก ไม่ทราบชื่อจริง ที่เป็นนักโทษคดีค้ายาเสพติดซึ่งอยู่ระหว่างถูกจองจำในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เป็นผู้สั่งการ
จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ ยึดของกลางยาบ้าที่บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้าได้ 14 ถุง บรรจุยาบ้า 2,800 เม็ด และยาไอซ์ อีก 6 ถุงเล็ก น้ำหนักชั่งได้ 108.7 กรัม มูลค่ากว่า 300,000 บาท ทั้งหมดถูกซุกซ่อนอยู่ที่ใต้ฐานพัดลม 2 ตัว นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนเถื่อนขนาด 9 มม. 1 กระบอก และกระสุนปืนอีก 5 นัด วางอยู่ใต้ที่นอนในห้องนอน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบเงินสดอีกกว่า 100,000 บาท อยู่ในกระเป๋าหนังแบบคาดเอว โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง สร้อยข้อมือหนัก 1 บาท 2 เส้น สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น แหวนทองหนัก 1 สลึง 1 วง และรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน ที่หน้าบ้านยังมีรถยนต์กระบะโตโยต้า ตอนครึ่งสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บษ 9347 นครศรีธรรมราช รถเก๋ง ยี้ห้อเชฟโรเลต สีดำ ทะเบียน กธ 8709 สุราษฎร์ธานี จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนพร้อมกับสั่งอายัดทรัพย์สินทั้งหมดไว้ตรวจสอบ ซึ่งมีมูลค่าร่วม 3 ล้านบาท
นายสมบัติ ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่า ตนเองเคยถูกจับมาแล้วเมื่อปี 49 ที่ผ่านมา ในคดีมียาบ้าจำนวนพันกว่าเม็ด ถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี แต่รับสารภาพศาลจึงลดโทษให้เหลือ 3 ปี 6 เดือน ปรับเป็นเงินอีก 2 แสนบาท และพ้นโทษออกมาเมื่อปี 54 ในระหว่างอยู่ในเรือนจำที่นครศรีธรรมราช ได้รู้จักกับนายเอก ฉายาว่า “เอกเขาขาว” หลังพ้นโทษก็ได้ติดต่อกับนายเอกเรื่อยมา กระทั่งนายเอกได้โทรศัพท์ให้มารับยาบ้า และยาไอซ์ไปจำหน่าย โดยจะมีลูกน้องของนายเอกเป็นคนเอายามาวางไว้ให้ในจุดต่างๆ
จากนั้นก็ให้ตนไปรับ ส่วนเงินที่ขายยาได้ก็จะโอนเข้าบัญชีของลูกน้องนายเอกอีกคนหนึ่ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา นายเอก ได้โทรศัพท์ให้ตนไปรับยาที่มีลูกน้องของนายเอกอีกที่หนึ่งเป็นคนเอายามาวางไว้ให้ที่ข้างสะพามข้ามคลอง ในเขตพื้นที่ อ.ทุ่งสง หลังตนไปรับยามาแล้วก็จะเอามาพักไว้ที่บ้านเช่าโดยซุกไว้ใต้ฐานพัดลมเพื่อรอการจำหน่าย
“ในการโทรศัพท์สั่งยาแต่ละครั้งจะใช้นามแฝง ว่า “งานนคร” ซึ่งคำว่างาน คือ คุก ส่วนนคร หมายถึง เรือนจำนครศรีธรรมราช แปลรวมกันแล้วว่า งานที่สั่งจากคุกนครศรีธรรมราช ในการนำยาออกไปจำหน่ายแต่ละครั้ง ผมจะเปลี่ยนสถานที่ในการเช่าบ้านไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมาก็มีบ้านพรุดินนา อ.ลำทับ หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 3 ต.กุแหระ และบ้านควนประชาสรรค์ ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่” นายสมบัติ สารภาพ
พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก.เผยว่า การเข้าจับกุมผัวเมียในครั้งนี้ ถือว่า ได้ของกลางจำนวนมาก ซึ่งผู้ต้องหาให้การซัดทอดถึงเครือข่ายที่อยู่ในเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช แสดงให้เห็นว่าแก๊งเครือข่ายยานรกยังไม่หมดไปจากคุกนครศรีธรรมราช ทั้งที่ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ได้ระดมกวาดล้างอบายมุขทุกอย่างในคุกนครศรีธรรมราช อย่างจริงจังที่เป็นข่าวใหญ่เพิ่งจะผ่านไปไม่นานมานี้
และเมื่อ 2 วันที่ผ่านมานี้ ซึ่งผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า เพิ่งจะได้รับโทรศัพท์ให้ไปเอายา โดยสั่งการออกมาจากเรือนจำนครศรีธรรมราช เมื่อผู้ต้องหาให้การซัดทอดอย่างนี้แล้ว ก็จะได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปดำเนินการจัดการอย่างเด็ดขาดต่อไป