เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุใช้อาวุธปืน .22, 11 มม. ยิงถล่มรถยนต์โตโยต้ารุ่นวีออสจนพรุนไปทั้งคันที่เคหะธนบุรีเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ขณะสองผัวเมียช่างเย็บกระเป๋าหนัง เจ้าของรถกำลังนอนหลับเพลิน เดชะบุญไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต ตร.เตรียมเรียกน้องเมียตัวแสบ ชนวนเหตุสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี!!!
วันนี้ (18 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท ผกก.สน.ท่าข้าม ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนว่า เมื่อช่วงเวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงถล่มรถยนต์ภายในบ้านเลขที่ 88/426 ม.6 เคหะธนบุรี ถนนพระราม 2 ซอย 69 แยก 3-7 แขวงแสมดำ เขตท่าข้าม กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว พบเจ้าของบ้านยืนรออยู่ด้วยอาการตกใจ ทราบชื่อนายสบู่ ออนเอี่ยม อายุ 40 ปี ส่วนภรรยาคือ นางกาญจนา ออนเอี่ยม อายุ 37 ปี โดยบริเวณที่จอดรถพบพบรถยนต์นั่งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ญฐ 7338 กทม สภาพรถถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .22 มม. และขนาด 11 มม. ตั้งแต่บริเวณกันชน กระโปรงรถ กระจกรถ และรอบรถทั้งคัน รวมกว่า 30 นัด ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไป
จากการสอบสวนนายสบู่ให้การว่า ตนและภรรยามีอาชีพเย็บกระเป๋าหนังส่งตามออเดอร์งาน โดยขณะเกิดเหตุตนกำลังนอนอยู่ในบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังสนั่นเป็นเวลากว่า 5 นาที เสียงปืนจึงสงบ เมื่อออกมาดูก็พบรถที่จอดอยู่ถูกยิงจนพรุน และไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิง ซึ่งทั้งตนและภรรยาก็ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจและเรื่องการพนัน โดยไม่ทราบว่าคนร้ายยิงผิดบ้านหรือเปล่า ทั้งนี้ เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา น้องชายของแฟนได้ยืมรถไปจังหวัดสมุทรสาคร โดยออกไปตั้งแต่เช้าก่อนจะกลับมาเวลา 04.00 น.ของอีกวัน หลังจากนั้นตอนสายน้องชายก็มีอาการลุกลี้ลุกลน ก่อนจะขอตัวกลับบ้านที่จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมทั้งขอโทษเรื่องเมื่อคืนด้วยแต่ขณะนี้ยังติดต่อน้องชายไม่ได้
พ.ต.อ.นครินทร์เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพยานทราบว่าคนร้ายได้ถอยรถเข้าไปภายในซอยเนื่องจากเป็นซอยตัน ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงกราดเข้าไปโดยนั่งอยู่ในรถ เนื่องจากไม่พบปลอกกระสุน พบแต่หัวกระสุนปืนเท่านั้น หลังจากนั้นได้หลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนคนร้ายและเส้นทางที่ใช้หลบหนี
เบื้องต้นจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางและกล้องวงจรปิดละแวกใกล้เคียงทั้งหมด และรอเรียกตัวน้องชายผู้เสียหายมาทำการสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นต่อไป
