ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต “ตรี อัครเดชา” ฝากผู้ว่าฯ ภูเก็ตคนใหม่สานต่องานโครงสร้างพื้นฐาน-แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เผยชีวิตหลังเกษียณราชการอยากขายต้นไม้
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ และนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ร่วมส่งนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนางนลินี อัครเดชา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ในโอกาสเกษียณอายุราชการ ซึ่งได้เดินทางออกจากจวนผู้ว่าฯ เวลา 17.00 น.เพื่อไปขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานภูเก็ตกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดนครปฐม ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 218 ท่าอากาศยานภูเก็ต-สุวรรณภูมิ ออกจากท่าอากาศยานเวลา 19.00 น.
นายตรีกล่าวถึงการทำงานที่ผ่านมาและอนาคตหลังจากเกษียณอายุราชการว่า ตนปฏิบัติราชการอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา 6 ปี โดยดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต 4 ปี และเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต 2 ปี สำหรับความตั้งใจที่จะเข้ามาพัฒนาจังหวัดภูเก็ตนั้นมีหลายอย่าง ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านต่างๆ การส่งเสริมการท่องเที่ยว การรักษาสภาพแวดล้อม รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้ารางเบาที่พยายามหานักลงทุนเข้ามาดำเนินการ ซึ่งโครงการนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเนื่องจาก ครม.ได้รับเรื่องไว้แล้วและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการต่อ แต่โครงการนี้เป็นโครงการที่ต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการมหาศาล ทำให้ยังไม่บรรลุเป้าหมายเป็นรูปธรรม แต่ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
นายตรียังได้กล่าวต่อไปถึงสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญต่อจังหวัดภูเก็ตว่า จริงๆ แล้วภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก เป็นเมืองท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวอยากจะเดินทางมา และสิ่งที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างยั่งยืนคือเรื่องของการรักษาสภาพแวดล้อม การพัฒนาต้องสมดุลกับสิ่งแวดล้อมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูเก็ตในขณะนี้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะฉะนั้นคนที่มาภูเก็ตอยากมาเที่ยวภูเก็ตลักษณะแบบหลากหลาย บางคนชอบธรรมชาติ เรามีทะเลสวยงาม มีภูเขา เพราะฉะนั้นเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมหาดทรายชายทะเลให้คงความสวยงามถือเป็นเรื่องสำคัญ ในขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวบางคนก็มาเพื่อชมการแข่งขันกีฬา บางคน มาเพื่อที่จะชื่นชมในเรื่องของศิลปวัฒนธรรม ของเรามีหลากหลาย เพราะฉะนั้นการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตจะต้องพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อย่างน้อยต้องรักษาสิ่งแวดล้อมภูเก็ตไว้ด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภูเก็ตมีปัญหาเกิดขึ้นมาก และปัญหามากที่สุดคือเรื่องของการจราจร หลายๆ ฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการท่องเที่ยว พยายามจะให้มีถนนหลายสายเพื่อให้การจราจรโตขึ้น และมีหลายโครงการที่พยายามผลักดัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดภูเก็ตก็มีหลายโครงการที่มีความเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรถไฟฟ้ารางเบา ขุดอุโมงค์บริเวณสี่แยกไทนาน หรือว่าเรื่องของการขยายพื้นผิวจราจรเราก็ได้มาแล้วส่วนหนึ่ง เพียงแต่ว่าโครงการใหญ่ๆ ต้องใช้งบมหาศาล เราก็พยายามจะเชิญนักลงทุนมาร่วมลงทุน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดี และมีแนวโน้มจะสำเร็จด้วย
“ภูเก็ตรายได้หลักๆ มาจากการท่องเที่ยว ทำอย่างไรที่จะเปิดอันซีนของภูเก็ตให้มากที่สุด ในขณะเดียวกันต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย อันนี้ต้องทำควบคู่กัน แล้วจะเป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน การท่องเที่ยวของภูเก็ตอีก 3-4 ปีจะไม่คำนึงถึงปริมาณแล้ว แต่จะคำนึงถึงคุณภาพของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาภูเก็ต เราสามารถที่จะสกรีนได้เพื่อให้ได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเข้ามา และจากการร่วมเดินทางไปทำโรดโชว์ ในหลายๆ ประเทศ พบว่าเมื่อพูดถึงภูเก็ตแล้วทุกคนอยากจะมา หรือแม้แต่การแข่งขันกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ พอพูดถึงว่าภูเก็ตเป็นเจ้าภาพเดิมที่เคยเข้าร่วมแข่งขันเพียงแค่ 14-15 ประเทศ ในอีก 2 ปีข้างหน้าเข้าใจว่าน่าจะมีประเทศต่างๆ อีกหลายประเทศที่อยากจะมาแข่ง” นายตรีกล่าว และว่า
การที่เราจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้นและเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ทุกคนที่อยู่ภูเก็ตจะต้องช่วยกันเป็นเจ้าของบ้านที่ดี รักษาเมืองภูเก็ตซึ่งเป็นเสมือนบ้านของทุกคนให้ดี ช่วยกันดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ตนเชื่อว่าถ้าทุกคนร่วมมือกันภูเก็ตยังเดินทางไปได้ไกล
นอกจากนี้ นายตรียังได้กล่าวฝากถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตคนใหม่ว่า จริๆ แล้วตนก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่คาดการณ์ไว้แล้วและคุยด้วยวาจาแล้วว่า ท่านมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตก็อยากจะให้ดูแลในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยน้ำเสียลงทะเล หรือขยะ แล้วก็โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาภูเก็ตในอนาคตจะมีความเติบโต คนจะเข้ามาภูเก็ตเพิ่มมากยิ่งขึ้น ก็ได้คุยกันแล้ว แต่ความชัดเจนต้องรอมติ ครม.ออกมาก่อน ถ้าเป็นคนที่เราคิดไว้ คุยกันแล้ว ก็คงจะขอทราบรายละเอียดกับตนในอนาคตต่อไป เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่สามารถพูดได้ว่าใครจะมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต “คิดว่าท่านผู้ว่าฯ คนใหม่คงจะสานต่อในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน สานต่อในโครงการที่มีโครงการต่อยอด เช่นปีนี้เราจะได้สะพานคลองเกาะผี ซึ่งได้งบมาส่วนหนึ่ง และจะได้งบต่อยอดมาเป็นงบ 2 ปีจะเสร็จ หรือแม้แต่เรื่องของศาลากลางจังหวัดก็เป็นงบ 2 ปีเหมือนกัน ต้องดำเนินการ”
สุดท้ายนายตรีได้กล่าวถึงการวางแผนชีวิตหลังเกษียณอายุราชการว่า ความเป็นจริง ตนเป็นคนพอเพียง ตนพูดเสมอว่าสอบเข้ามาเป็นปลัดอำเภอ และสูงสุดเป็นนายอำเภอก็พอใจแล้ว แต่ชีวิตราชการก็สามารถเดินทางมาถึงจุดสุดยอดเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ถือว่ามันเป็นความใฝ่ฝันของนักปกครองทั้งหมด จริงๆ แล้ว 30 ปีที่ผ่านมาตนก็ระเหเร่ร่อนมาตลอด ไปรับราชการทั้งภาคกลาง เหนือ อีสาน ตะวันตก ตะวันออก ภาคใต้ ก็ไปทั่วหมดแล้ว เพราะฉะนั้นก็อยากให้เป็นรางวัล แต่ชีวิตจริงๆ หลังเกษียณ อยากจะพักผ่อนลักษณะว่าใช้ชีวิตแบบพอเพียง อยู่กับลูกกับหลาน แต่สิ่งสำคัญยิ่งที่อยากจะทำคือไปขายต้นไม้ เพราะว่ามีเพื่อนขายต้นไม้อยู่แล้ว จะไปหุ้นกับเพื่อน เราไปอยู่ในสิ่งที่เรารัก ก็อาจจะไปทำสิ่งนั้น
แต่อย่างไรก็ตามขอพักผ่อนสัก 2-3 เดือนก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกทีว่า อนาคตจะตัดสินใจอย่างไร ท้ายสุดนี้ นายตรีกล่าวถึงการเล่นการเมืองด้วยว่า การเล่นการเมืองคงยาก โตมาจากราชการ แล้วก็ชีวิตสุดท้ายก็ถือว่าจบทางราชการ ได้เกษียณอายุราชการ ถือว่าเป็นความภูมิใจที่จบได้อย่างนี้ ก็ถือว่าเป็นความสุขแล้ว แต่ในอนาคตไม่แน่
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ และนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ร่วมส่งนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนางนลินี อัครเดชา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ในโอกาสเกษียณอายุราชการ ซึ่งได้เดินทางออกจากจวนผู้ว่าฯ เวลา 17.00 น.เพื่อไปขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานภูเก็ตกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดนครปฐม ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 218 ท่าอากาศยานภูเก็ต-สุวรรณภูมิ ออกจากท่าอากาศยานเวลา 19.00 น.
นายตรีกล่าวถึงการทำงานที่ผ่านมาและอนาคตหลังจากเกษียณอายุราชการว่า ตนปฏิบัติราชการอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา 6 ปี โดยดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต 4 ปี และเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต 2 ปี สำหรับความตั้งใจที่จะเข้ามาพัฒนาจังหวัดภูเก็ตนั้นมีหลายอย่าง ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านต่างๆ การส่งเสริมการท่องเที่ยว การรักษาสภาพแวดล้อม รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้ารางเบาที่พยายามหานักลงทุนเข้ามาดำเนินการ ซึ่งโครงการนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเนื่องจาก ครม.ได้รับเรื่องไว้แล้วและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการต่อ แต่โครงการนี้เป็นโครงการที่ต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการมหาศาล ทำให้ยังไม่บรรลุเป้าหมายเป็นรูปธรรม แต่ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
นายตรียังได้กล่าวต่อไปถึงสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญต่อจังหวัดภูเก็ตว่า จริงๆ แล้วภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก เป็นเมืองท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวอยากจะเดินทางมา และสิ่งที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างยั่งยืนคือเรื่องของการรักษาสภาพแวดล้อม การพัฒนาต้องสมดุลกับสิ่งแวดล้อมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูเก็ตในขณะนี้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะฉะนั้นคนที่มาภูเก็ตอยากมาเที่ยวภูเก็ตลักษณะแบบหลากหลาย บางคนชอบธรรมชาติ เรามีทะเลสวยงาม มีภูเขา เพราะฉะนั้นเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมหาดทรายชายทะเลให้คงความสวยงามถือเป็นเรื่องสำคัญ ในขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวบางคนก็มาเพื่อชมการแข่งขันกีฬา บางคน มาเพื่อที่จะชื่นชมในเรื่องของศิลปวัฒนธรรม ของเรามีหลากหลาย เพราะฉะนั้นการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตจะต้องพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อย่างน้อยต้องรักษาสิ่งแวดล้อมภูเก็ตไว้ด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภูเก็ตมีปัญหาเกิดขึ้นมาก และปัญหามากที่สุดคือเรื่องของการจราจร หลายๆ ฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการท่องเที่ยว พยายามจะให้มีถนนหลายสายเพื่อให้การจราจรโตขึ้น และมีหลายโครงการที่พยายามผลักดัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดภูเก็ตก็มีหลายโครงการที่มีความเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรถไฟฟ้ารางเบา ขุดอุโมงค์บริเวณสี่แยกไทนาน หรือว่าเรื่องของการขยายพื้นผิวจราจรเราก็ได้มาแล้วส่วนหนึ่ง เพียงแต่ว่าโครงการใหญ่ๆ ต้องใช้งบมหาศาล เราก็พยายามจะเชิญนักลงทุนมาร่วมลงทุน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดี และมีแนวโน้มจะสำเร็จด้วย
“ภูเก็ตรายได้หลักๆ มาจากการท่องเที่ยว ทำอย่างไรที่จะเปิดอันซีนของภูเก็ตให้มากที่สุด ในขณะเดียวกันต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย อันนี้ต้องทำควบคู่กัน แล้วจะเป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน การท่องเที่ยวของภูเก็ตอีก 3-4 ปีจะไม่คำนึงถึงปริมาณแล้ว แต่จะคำนึงถึงคุณภาพของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาภูเก็ต เราสามารถที่จะสกรีนได้เพื่อให้ได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเข้ามา และจากการร่วมเดินทางไปทำโรดโชว์ ในหลายๆ ประเทศ พบว่าเมื่อพูดถึงภูเก็ตแล้วทุกคนอยากจะมา หรือแม้แต่การแข่งขันกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ พอพูดถึงว่าภูเก็ตเป็นเจ้าภาพเดิมที่เคยเข้าร่วมแข่งขันเพียงแค่ 14-15 ประเทศ ในอีก 2 ปีข้างหน้าเข้าใจว่าน่าจะมีประเทศต่างๆ อีกหลายประเทศที่อยากจะมาแข่ง” นายตรีกล่าว และว่า
การที่เราจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้นและเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ทุกคนที่อยู่ภูเก็ตจะต้องช่วยกันเป็นเจ้าของบ้านที่ดี รักษาเมืองภูเก็ตซึ่งเป็นเสมือนบ้านของทุกคนให้ดี ช่วยกันดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ตนเชื่อว่าถ้าทุกคนร่วมมือกันภูเก็ตยังเดินทางไปได้ไกล
นอกจากนี้ นายตรียังได้กล่าวฝากถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตคนใหม่ว่า จริๆ แล้วตนก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่คาดการณ์ไว้แล้วและคุยด้วยวาจาแล้วว่า ท่านมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตก็อยากจะให้ดูแลในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยน้ำเสียลงทะเล หรือขยะ แล้วก็โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาภูเก็ตในอนาคตจะมีความเติบโต คนจะเข้ามาภูเก็ตเพิ่มมากยิ่งขึ้น ก็ได้คุยกันแล้ว แต่ความชัดเจนต้องรอมติ ครม.ออกมาก่อน ถ้าเป็นคนที่เราคิดไว้ คุยกันแล้ว ก็คงจะขอทราบรายละเอียดกับตนในอนาคตต่อไป เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่สามารถพูดได้ว่าใครจะมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต “คิดว่าท่านผู้ว่าฯ คนใหม่คงจะสานต่อในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน สานต่อในโครงการที่มีโครงการต่อยอด เช่นปีนี้เราจะได้สะพานคลองเกาะผี ซึ่งได้งบมาส่วนหนึ่ง และจะได้งบต่อยอดมาเป็นงบ 2 ปีจะเสร็จ หรือแม้แต่เรื่องของศาลากลางจังหวัดก็เป็นงบ 2 ปีเหมือนกัน ต้องดำเนินการ”
สุดท้ายนายตรีได้กล่าวถึงการวางแผนชีวิตหลังเกษียณอายุราชการว่า ความเป็นจริง ตนเป็นคนพอเพียง ตนพูดเสมอว่าสอบเข้ามาเป็นปลัดอำเภอ และสูงสุดเป็นนายอำเภอก็พอใจแล้ว แต่ชีวิตราชการก็สามารถเดินทางมาถึงจุดสุดยอดเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ถือว่ามันเป็นความใฝ่ฝันของนักปกครองทั้งหมด จริงๆ แล้ว 30 ปีที่ผ่านมาตนก็ระเหเร่ร่อนมาตลอด ไปรับราชการทั้งภาคกลาง เหนือ อีสาน ตะวันตก ตะวันออก ภาคใต้ ก็ไปทั่วหมดแล้ว เพราะฉะนั้นก็อยากให้เป็นรางวัล แต่ชีวิตจริงๆ หลังเกษียณ อยากจะพักผ่อนลักษณะว่าใช้ชีวิตแบบพอเพียง อยู่กับลูกกับหลาน แต่สิ่งสำคัญยิ่งที่อยากจะทำคือไปขายต้นไม้ เพราะว่ามีเพื่อนขายต้นไม้อยู่แล้ว จะไปหุ้นกับเพื่อน เราไปอยู่ในสิ่งที่เรารัก ก็อาจจะไปทำสิ่งนั้น
แต่อย่างไรก็ตามขอพักผ่อนสัก 2-3 เดือนก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกทีว่า อนาคตจะตัดสินใจอย่างไร ท้ายสุดนี้ นายตรีกล่าวถึงการเล่นการเมืองด้วยว่า การเล่นการเมืองคงยาก โตมาจากราชการ แล้วก็ชีวิตสุดท้ายก็ถือว่าจบทางราชการ ได้เกษียณอายุราชการ ถือว่าเป็นความภูมิใจที่จบได้อย่างนี้ ก็ถือว่าเป็นความสุขแล้ว แต่ในอนาคตไม่แน่