ทน.ตรังเตรียมสร้างพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในสระกะพัง

ตรัง - เทศบาลนครตรัง ผุดโครงการสร้างพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทะเล และน้ำจืด ภายในสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ เตรียมทำประชาพิจารณ์ขอความเห็น หวั่นเนื้อที่ไม่พอ เสนอย้ายไปที่อื่นแทน

นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง กล่าวว่า เนื่องจากสระกะพังสุรินทร์ ถือเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกที่มีความเก่าแก่ที่สุด โดยมีลักษณะเป็นหนองน้ำตามธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 74 ไร่ และได้ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2508 อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ยังได้ทรงเสด็จทอดพระเนตรรอบบริเวณ เมื่อปี 2471 ด้วย จึงถือเป็นสวนสาธารณะที่สำคัญของจังหวัดตรัง จึงสมควรได้รับการพัฒนาให้เจริญยิ่งขึ้น

ดังนั้น หลังจากที่ตนเข้ามาเป็นนายกเทศมนตรีนครตรัง จึงได้พลิกฟื้นสวนสาธารณะแห่งนี้ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการปรับปรุงภูมิทัศน์ครั้งใหญ่ ทั้งการตัดหญ้า จัดการขยะ และซ่อมบำรุงเครื่องทำน้ำพุ ที่สำคัญก็คือ การเตรียมก่อสร้างพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทะเล และน้ำจืดจังหวัดตรัง เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านระบบนิเวศวิทยา และแหล่งศึกษาสัตว์น้ำ รวมทั้งให้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้สำหรับนักเรียน นักศึกษา ประชาชน และนักท่องเที่ยว ตลอดจนเป็นการเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง

อย่างไรก็ตาม จากการลงสำรวจพื้นที่โดยเบื้องต้นพบว่า ตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะมีขนาด 30X80 เมตร แต่หากรวมพื้นที่โดยรอบด้วยแล้ว จะต้องใช้เนื้อที่ถึง 40X100 เมตร ซึ่งหากดำเนินการภายในสระกะพังสุรินทร์ ก็จำเป็นจะต้องตัดต้นไม้ออกไปส่วนหนึ่ง ทางเทศบาลนครตรังจึงเห็นควรย้ายไปก่อสร้างยังที่อื่นแทน โดยเฉพาะบริเวณหลังอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ บนถนนพัทลุง ที่มีพื้นที่กว้างขวางประมาณ 9 ไร่ และมีคลองน้ำเจ็ดไหลผ่านกลาง ซึ่งแค่ถมดินลงไป 5-6 เมตร ก็ก่อสร้างได้ทันที

ล่าสุด ได้มีการออกแบบพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำส่งมาให้แล้ว และทางเทศบาลก็เตรียมนำเข้าสู่กระบวนการประชาพิจารณ์ เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะชาวชุมชนกะพังสุรินทร์ เจ้าของพื้นที่ ซึ่งหากยืนยันจะก่อสร้างภายในสระกะพังสุรินทร์ ก็มีอยู่ 2 จุดที่น่าจะดำเนินการได้ คือ บริเวณสนามเด็กเล่น และบริเวณขายของตลาดน้ำเดิม เพียงแต่ต้องยอมตัดต้นไม้บางส่วน หรือก่อสร้างบางส่วนลงไปในสระน้ำ หรืออาจย้ายไปยังสถานที่อื่นที่เหมาะสมกว่า ก็คงแล้วแต่เสียงส่วนใหญ่

นอกจากนั้น ทางเทศบาลยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างไปศึกษาดูงานพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่จังหวัดนครราชสีมา หนองคาย และศรีษะเกษ เนื่องจากใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 100 ล้านบาทต้นๆ ซึ่งใกล้เคียงกับที่ทางเทศบาลนครตรังได้วางโครงการไว้ แต่โดยส่วนตัวไม่อยากให้มีการย่อขนาดลงจากเดิม เพราะจะทำให้คุณภาพของพิพิธภัณฑ์ลดลงไป ทั้งนี้ หากทุกอย่างผ่านความเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ประมาณต้นปี 2556 และต้องใช้ระยะเวลาถึง 2 ปี จึงจะแล้วเสร็จ