พัทลุง - ผู้เลี้ยงหมูพัทลุง หนี้สะสมท่วมกว่า 100 ล้านบาท ซบเซาตลอดทั้งปี แถมต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ขณะราคาอยู่ที่ 56 บาท/กก.ต้นทุนการผลิต 60 บาท และเดือนตุลาคมนี้ “ดิ่ง” อีก “Picbord” พัทลุงล้มเหลว
นายสมยศ เพชรา ผู้จัดการสหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์จังหวัดพัทลุง จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะการตลาดสุกรไม่ได้ขยับขึ้น มีแต่ซบเซาลงขาดทุนมาตลอดตั้งแต่ต้นปี 2555 จนถึงขณะนี้ และราคาได้ดิ่งลงมาอยู่ที่ 55-56 บาท/กก. จากต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 60 บาท/กก. ภายหลังที่สุกรเคยราคาสูงสุดประมาณ 2 สัปดาห์หลังเดือนกุมภาพันธ์ราคาอยู่ที่ 65 บาท/กก.ขณะนี้เฉพาะพื้นที่พัทลุง เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรขนาดรายเล็ก รายย่อย เป็นหนี้ขาดทุนสะสมอยู่ในระบบประมาณกว่า 100 ล้านบาท
นายสมยศ ยังกล่าวอีกว่า ในขณะที่เกษตรกรรายย่อย รายเล็กกำลังประสบภาวะตกต่ำ แต่ในขณะเดียวกัน บริษัทขนาดใหญ่ก็มีการแข่งขันในการขยายลูกค้ากันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่มีมาตรการส่งเสริมวัตถุดิบ อาหาร และรับซื้อสุกร
“สุกรยังมีแนวโน้มราคาที่จะลงอีกในเดือนตุลาคมนี้ เนื่องจากใกล้จะถึงเทศกาลกินเจ และสถาบันการศึกษาปิดเทอม การบริโภคสุกรจะลดลงอีกมาก และราคาคาดว่าจะลงอีกประมาณ 2-3 บาท/กก.”
นายสมยศ ยังกล่าวอีกว่า จังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดเลี้ยงสุกรเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ เป็นอันดับ 5 ของประเทศ จะมีปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทางผู้เลี้ยงสุกรจึงได้หารือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ และได้เสนอต่ออธิบดีกรมปศุสัตว์ การแก้ไขปัญหาสุกรโดยเสนอตั้ง Picbord ระดับจังหวัด โดยจังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดนำร่องของประเทศ แต่ปรากฏว่า เรื่องกลับเพิกเฉย โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงกลับแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำขึ้นมา ในส่วนของผู้เลี้ยงสัตว์มีปศุสัตว์จังหวัดเป็นประธาน
นายสมยศกล่าวอีกว่า Picbord หรือคณะกรรมการสุกรจังหวัดพัทลุง ที่มีอยู่ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี 2547 สามารถแต่งตั้งได้โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุกรเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ ซึ่งสามารถรวบรวมประเด็นปัญหาตัวเลขมาเปิดเผยประชุมแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อป้องกันรักษาเสถียรภาพราคาสุกรได้ แต่คณะกรรมการสุกรจังหวัด กลับไม่ได้รับการจัดตั้งขึ้นมา อธิบดีกรมปศุสัตว์ เพียงรับปากแล้วก็พ้นไป หวังรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ได้แต่อย่างใด
นายสมยศ กล่าวอีกว่า สำหรับสุกรข้ามเขตนั้น โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เช่น ในจังหวัดพัทลุง มีห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่ และได้มีการทำเอ็มโอยูกับกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรด้วยว่า จะเอาสุกรชำแหละนำไปวางจำหน่ายภายในห้าง แต่กลับกัน เอาสุกรจากพื้นที่อื่นเข้าไปวางขาย
นายสมยศ เพชรา ผู้จัดการสหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์จังหวัดพัทลุง จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะการตลาดสุกรไม่ได้ขยับขึ้น มีแต่ซบเซาลงขาดทุนมาตลอดตั้งแต่ต้นปี 2555 จนถึงขณะนี้ และราคาได้ดิ่งลงมาอยู่ที่ 55-56 บาท/กก. จากต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 60 บาท/กก. ภายหลังที่สุกรเคยราคาสูงสุดประมาณ 2 สัปดาห์หลังเดือนกุมภาพันธ์ราคาอยู่ที่ 65 บาท/กก.ขณะนี้เฉพาะพื้นที่พัทลุง เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรขนาดรายเล็ก รายย่อย เป็นหนี้ขาดทุนสะสมอยู่ในระบบประมาณกว่า 100 ล้านบาท
นายสมยศ ยังกล่าวอีกว่า ในขณะที่เกษตรกรรายย่อย รายเล็กกำลังประสบภาวะตกต่ำ แต่ในขณะเดียวกัน บริษัทขนาดใหญ่ก็มีการแข่งขันในการขยายลูกค้ากันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่มีมาตรการส่งเสริมวัตถุดิบ อาหาร และรับซื้อสุกร
“สุกรยังมีแนวโน้มราคาที่จะลงอีกในเดือนตุลาคมนี้ เนื่องจากใกล้จะถึงเทศกาลกินเจ และสถาบันการศึกษาปิดเทอม การบริโภคสุกรจะลดลงอีกมาก และราคาคาดว่าจะลงอีกประมาณ 2-3 บาท/กก.”
นายสมยศ ยังกล่าวอีกว่า จังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดเลี้ยงสุกรเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ เป็นอันดับ 5 ของประเทศ จะมีปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทางผู้เลี้ยงสุกรจึงได้หารือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ และได้เสนอต่ออธิบดีกรมปศุสัตว์ การแก้ไขปัญหาสุกรโดยเสนอตั้ง Picbord ระดับจังหวัด โดยจังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดนำร่องของประเทศ แต่ปรากฏว่า เรื่องกลับเพิกเฉย โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงกลับแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำขึ้นมา ในส่วนของผู้เลี้ยงสัตว์มีปศุสัตว์จังหวัดเป็นประธาน
นายสมยศกล่าวอีกว่า Picbord หรือคณะกรรมการสุกรจังหวัดพัทลุง ที่มีอยู่ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี 2547 สามารถแต่งตั้งได้โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุกรเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ ซึ่งสามารถรวบรวมประเด็นปัญหาตัวเลขมาเปิดเผยประชุมแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อป้องกันรักษาเสถียรภาพราคาสุกรได้ แต่คณะกรรมการสุกรจังหวัด กลับไม่ได้รับการจัดตั้งขึ้นมา อธิบดีกรมปศุสัตว์ เพียงรับปากแล้วก็พ้นไป หวังรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ได้แต่อย่างใด
นายสมยศ กล่าวอีกว่า สำหรับสุกรข้ามเขตนั้น โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เช่น ในจังหวัดพัทลุง มีห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่ และได้มีการทำเอ็มโอยูกับกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรด้วยว่า จะเอาสุกรชำแหละนำไปวางจำหน่ายภายในห้าง แต่กลับกัน เอาสุกรจากพื้นที่อื่นเข้าไปวางขาย