นครศรีธรรมราช - จนท.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชผ่อนคลาย หลังนักโทษเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดถูกย้ายเรือนจำแล้วเกือบ 200 คน ส่วน ผบ.เรือนจำเผยรอรับ จนท.บรรจุใหม่ที่ผ่านการดื่มน้ำสาบานเข้ารายตัว และเตรียมฝึกให้รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมนักโทษ ขณะที่ความคืบหน้าของคดีติดตามยึดทรัพย์นั้น ยังอยู่ระหว่างรอการพิจารณาออกหมายจับจากเลขาธิการ ป.ป.ส.
วันนี้ (17 ก.ย.) ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ความคืบหน้าในการดำเนินการส่วนต่างๆ ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยบรรยากาศในวันนี้พบว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ผ่อนคลายความวิตกกังวลไปมาก หลังจากที่มีการย้ายนักโทษประเภทขาใหญ่ไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก 26 ราย ครั้งหลัง 166 ราย รวม 192 ราย กระจายไปยังเรือนจำความมั่นคงสูงต่างๆ นอกภาคใต้ ขณะที่การรักษาความปลอดภัยบริเวณรายรอบเรือนจำยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวดจากตำรวจตระเวนชายแดน กก.ตชด.42 ที่ส่งกำลังเข้ามาประจำการยังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ตลอด 24 ชั่วโมง
นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ผ่อนคลายความวิตกกังวลไปมาก แต่ยังคงทำหน้าที่ต่อไปอย่างเข้มงวด และไม่ย่อท้อ ในส่วนของเจ้าหน้าที่เรือนจำทั้ง 17 นายที่มีคำสั่งย้ายมาประจำการที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ชุดก่อนหน้านี้ ได้เดินทางมารายงานตัว และเข้าทำหน้าที่ตามมอบหมายครบทุกคนแล้ว ขณะนี้ยังรอเจ้าหน้าที่ชุดใหม่ที่เพิ่งเข้าอบรมแต่งตั้งบรรจุเข้ารับราชการเป็นเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ ที่เพิ่งผ่านการดื่มน้ำสาบานที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มารายงานตัว โดยทราบว่า กรมราชทัณฑ์จะส่งมาที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช จำนวน 20 นาย
“ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดใหม่นี้ เป็นเจ้าหน้าที่ที่สอบเข้ารับราชการได้ และเข้าบรรจุใหม่โดยผ่านการอบรมหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อ งรวมทั้งหลักในการทำงานทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่มีอายุ 20 ปีเศษ และเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่อบรมเสร็จแล้วไปดื่มน้ำสาบานที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ดำรงตนเป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริต หลังจากนั้น จะถูกส่งมาประจำการ” ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชกล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามสืบสวนจับกุมยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.บุญมี ศิริปาละกะ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช หัวหน้าชุดสอบสวนเปิดเผยว่า ในส่วนของผู้ต้องหาชุดแรกคือ นายณัฐพล ระย้า อดีตเจ้าหน้าที่เรือนจำพร้อมพวกที่จับกุมได้รวม 6 รายนั้น ได้เข้ารายงานตัวระหว่างประกันในชั้นศาลตามปกติไม่ได้หลบหนี แต่ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถส่งฟ้องได้ สืบเนื่องจากยังต้องรอการพิสูจน์ประวัติอาชญากรรมจากกองทะเบียนประวัติ ซึ่งได้ส่งแล้ว 5 คน คงขาดเพียงของนายณัฐพลเท่านั้น ส่วนเอกสารอื่นๆ ครบถ้วนเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อเอกสารชุดที่รอนี้มาถึงจะสามารถส่งฟ้องได้ทันที
รอง ผกก.สส.หัวหน้าพนักงานสอบสวนเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำยังระบุด้วยว่าในส่วนของการเสนอหมายจับชุดที่ 2 นั้น ได้สรุป และส่งสำนวนไปยังเลขาธิการ ป.ป.ส.ไปแล้วกว่า 1 สัปดาห์ ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของเลขาธิการ ป.ป.ส. ซึ่งพบว่ายังไม่มีการขอเอกสาร หรือกระบวนการใดๆ เพิ่มเติมกลับมา คาดว่าหากไม่มีปัญหาทางด้านเทคนิค หรือข้อขัดข้องนั้นคาดว่ากระบวนการออกหมายจับจะเสร็จสิ้นในอีก 1 สัปดาห์หลังจากนี้ พ.ต.ท.บุญมีกล่าวในที่สุด
วันนี้ (17 ก.ย.) ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ความคืบหน้าในการดำเนินการส่วนต่างๆ ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยบรรยากาศในวันนี้พบว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ผ่อนคลายความวิตกกังวลไปมาก หลังจากที่มีการย้ายนักโทษประเภทขาใหญ่ไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก 26 ราย ครั้งหลัง 166 ราย รวม 192 ราย กระจายไปยังเรือนจำความมั่นคงสูงต่างๆ นอกภาคใต้ ขณะที่การรักษาความปลอดภัยบริเวณรายรอบเรือนจำยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวดจากตำรวจตระเวนชายแดน กก.ตชด.42 ที่ส่งกำลังเข้ามาประจำการยังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ตลอด 24 ชั่วโมง
นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ผ่อนคลายความวิตกกังวลไปมาก แต่ยังคงทำหน้าที่ต่อไปอย่างเข้มงวด และไม่ย่อท้อ ในส่วนของเจ้าหน้าที่เรือนจำทั้ง 17 นายที่มีคำสั่งย้ายมาประจำการที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ชุดก่อนหน้านี้ ได้เดินทางมารายงานตัว และเข้าทำหน้าที่ตามมอบหมายครบทุกคนแล้ว ขณะนี้ยังรอเจ้าหน้าที่ชุดใหม่ที่เพิ่งเข้าอบรมแต่งตั้งบรรจุเข้ารับราชการเป็นเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ ที่เพิ่งผ่านการดื่มน้ำสาบานที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มารายงานตัว โดยทราบว่า กรมราชทัณฑ์จะส่งมาที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช จำนวน 20 นาย
“ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดใหม่นี้ เป็นเจ้าหน้าที่ที่สอบเข้ารับราชการได้ และเข้าบรรจุใหม่โดยผ่านการอบรมหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อ งรวมทั้งหลักในการทำงานทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่มีอายุ 20 ปีเศษ และเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่อบรมเสร็จแล้วไปดื่มน้ำสาบานที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ดำรงตนเป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริต หลังจากนั้น จะถูกส่งมาประจำการ” ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชกล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามสืบสวนจับกุมยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.บุญมี ศิริปาละกะ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช หัวหน้าชุดสอบสวนเปิดเผยว่า ในส่วนของผู้ต้องหาชุดแรกคือ นายณัฐพล ระย้า อดีตเจ้าหน้าที่เรือนจำพร้อมพวกที่จับกุมได้รวม 6 รายนั้น ได้เข้ารายงานตัวระหว่างประกันในชั้นศาลตามปกติไม่ได้หลบหนี แต่ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถส่งฟ้องได้ สืบเนื่องจากยังต้องรอการพิสูจน์ประวัติอาชญากรรมจากกองทะเบียนประวัติ ซึ่งได้ส่งแล้ว 5 คน คงขาดเพียงของนายณัฐพลเท่านั้น ส่วนเอกสารอื่นๆ ครบถ้วนเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อเอกสารชุดที่รอนี้มาถึงจะสามารถส่งฟ้องได้ทันที
รอง ผกก.สส.หัวหน้าพนักงานสอบสวนเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำยังระบุด้วยว่าในส่วนของการเสนอหมายจับชุดที่ 2 นั้น ได้สรุป และส่งสำนวนไปยังเลขาธิการ ป.ป.ส.ไปแล้วกว่า 1 สัปดาห์ ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของเลขาธิการ ป.ป.ส. ซึ่งพบว่ายังไม่มีการขอเอกสาร หรือกระบวนการใดๆ เพิ่มเติมกลับมา คาดว่าหากไม่มีปัญหาทางด้านเทคนิค หรือข้อขัดข้องนั้นคาดว่ากระบวนการออกหมายจับจะเสร็จสิ้นในอีก 1 สัปดาห์หลังจากนี้ พ.ต.ท.บุญมีกล่าวในที่สุด
