นครศรีธรรมราช - ครอบครัว 4 ผู้ต้องหาส่งนมถั่วเหลืองซุกยาเสพติดเข้าเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อปลัดจังหวัด ขณะที่เจ้าหน้าที่เรือนจำชุดใหม่ที่ได้รับคำสั่งย้ายทยอยเข้ารายงานตัวปฏิบัติหน้าที่แล้ว
วันนี้ (3 ก.ย.) ความเคลื่อนไหวคืบหน้าที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ช่วงเช้า ครอบครัวของ นายวารินทร์ จูประจบ นายณรงค์ชัย ศักดิ์ดวง นายอภิชาต เทียมสานุจิตต์ และนายจักรพงศ์ ลังแท้ 4 พนักงานขนส่งนมถั่วเหลืองชื่อดังที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีขนยาเสพติดซุกกล่องนมถั่วเหลืองเข้าไปยังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยครอบครัวของทั้ง 4 ราย เกือบ 30 คน ได้เข้าพบกับนายเดชา กังสะนันท์ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช รักษาราชการรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในกรณีที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายต้องคดีโดยเชื่อว่าเป็นแพะรับบาปจากขบวนการส่ง และค้ายาเสพติดภายในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช
นางเกสร เทียมสานุจิตต์ มารดาของนายอภิชาต เปิดเผยว่า ขณะนี้ครอบครัวของทั้ง 4 ผู้ต้องหากำลังเดือดร้อนอย่างมากเนื่องจากภาระของครอบครัว ขณะที่แต่ละครอบครัวนั้นยังไม่สามารถหาหลักทรัพย์มูลค่ารายละ 2 ล้านบาท มาประกันตัวทั้ง 4 รายได้ ทั้งยังมีข้อเท็จจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าทั้ง 4 คนเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะนายอภิชาต บุตรชายนั้นเพิ่งทำงานเพียงวันแรก ชั่วโมงแรก และรถส่งของเที่ยวแรกถูกให้ไปส่งของโดยไม่รู้ว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ในลังด้วย
ขณะที่นายเดชา กังสะนันท์ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช รักษาราชการรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับปากว่า โดยทางข้อกฎหมายแล้วพนักงานสอบสวนฝ่ายปกครองสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการทำคดีด้วยการส่งพนักงานสอบสวนฝ่ายปกครองเข้าร่วมการสอบสวนผู้ต้องหาในคดีนี้ได้ ซึ่งในวันนี้จะทำหนังสือเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อพิจารณาลงนามสั่งการให้นายอำเภอพระพรหม ในฐานะเจ้าของท้องที่เกิดเหตุส่งพนักงานสอบสวนฝ่ายปกครองเข้าร่วมสอบสวนในคดีนี้ด้วยเพื่อความมั่นใจของครอบครัวผู้ต้องหา
วันเดียวกัน นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำนครศรีธรรมราชจำนวน 25 คนที่ถูกคำสั่งย้ายนั้น ได้ทยอยเดินทางไปหมดแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่จากเรือนจำอื่นได้ทยอยเข้ามารายงานตัวปฏิบัติหน้าที่ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชแล้ว จำนวน 8 ราย จาก 17 ราย โดยทั้งหมดนั้นจะถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ยังส่วนควบคุมผู้ต้องขัง ไว้ก่อน หลังจากนั้น จะพิจารณาตามความถนัดความสามารถไปยังงานที่แต่ละคนถนัด
“อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเจ้าหน้าที่ในเรือนจำนั้นยังไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ แต่ทราบว่าขณะนี้ กรมราชทัณฑ์ได้เรียกบรรจุข้าราชการใหม่จากบัญชีจำนวน 200 นาย และจะส่งมาที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช 20 นาย ดังนั้น จากการจะมีเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นมาอีก 37 นาย พอที่จะบรรเทาความตึงตัวไปได้บ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่มานั้น อยู่ในระดับไฟแรง และจะเป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชแบบถอนรากถอนโคน” ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช กล่าว
ขณะที่นายอานันท์นพ อินทมุสิก นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ ซึ่งย้ายมาจากสถานบำบัดกลาง มาปฏิบัติหน้าที่ยังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชได้เป็นวันแรกเปิดเผยว่า จากข่าวคราวที่ออกไปนั้น ญาติที่รู้ว่าย้ายมาประจำที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ต่างรู้สึกเป็นห่วงอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม การย้ายมานั้นตั้งใจที่จะมาอยู่ใกล้บ้าน พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่โดยยึดกฎระเบียบของเรือนจำและข้อกฎหมาย
