นครศรีธรรมราช - ผบ.เรือนจำนครศรีฯ ส่งภาพวงจรปิดหน้าเรือนจำให้ ตร.สอบสวนพบผู้ต้องสงสัยวนเวียนอยู่ 2 รอบ หลังจากนายออดเหยื่อขับรถออกจากเรือนแล้วได้ไล่ติดตามไปก่อเหตุทันที ขณะที่ผู้ต้องหาส่งยาเข้าเรือนจำยังให้การปฏิเสธ มารดา 1 ใน 4 เผยลูกชายสมัครเข้าทำงานได้แค่วันเดียวขับรถส่งนมเที่ยวแรกก่อนถูกจับกุม ขณะที่คดีของต้องห้ามเครือข่ายยางวดเต็มที เตรียมเสนอขอหมายจับชุดแรกกว่า 20 ราย
กรณีคนร้ายก่อเหตุสังหารนายออด แซ่ผั่ว เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่เชื่อว่า สาเหตุมาจากการที่นายออด เป็นคนตรวจยึดยาเสพติดครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ค.55 รวมทั้งการปฏิเสธรับเงินสินบนจำนวน 200,000 บาทที่มีขบวนการค้ายาเสพติดเสนอให้เพื่อแลกกับความสะดวกในการนำยาเสพติดเข้าไปในเรือนจำ
ความคืบหน้า วันนี้ (22 ส.ค.) นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มอบภาพจากกล้องวงจรปิดให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช มารับไปแล้ว โดยมีภาพความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัยที่สำคัญ คือ รถ และบุคคลที่มาวนเวียนอยู่หน้าเรือนจำ 2 รอบ เป็นรถคันเดิมในเวลา 5 นาฬิกาเศษ ส่วนกล้องได้บันทึกภาพของนายออดภาพสุดท้ายที่ขับรถจักรยานยนต์ออกจากประตูเรือนจำในเวลา 06.50 น. รถต้องสงสัยได้ขับติดตามไป โดยคนซ้อนท้ายกับผู้ขับขี่ได้สลับกันในเวลา 06.07.14 น.ทิ้งห่างกันประมาณวินาทีเศษ ก่อนที่นายออดจะไปเสียชีวิต
วันเดียวกัน พล.ต.ต.ลิขิต สินธะพินทุ ผบก.ตชด.ภาค 4 ได้เดินทางมาเยี่ยมกำลังพลเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ประจำการอยู่บริเวณรอบเรือนจำ โดยได้ให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งกำชับให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ และสั่งการให้ ผบ.ร้อย ตชด.424 ให้คงกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์ทั้งหมดในเรือนจำจะเป็นไปในทางที่ดี
ส่วนความคืบหน้าในการสอบสวนคดีที่นายออด ได้เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่นำเอายาเสพติดมาฝากให้นักโทษเมื่อวันที่ 30 ก.ค.55 จนกระทั่งนายออดมาเสียชีวิตนั้น พ.ต.ท.อธิวุฒิ ไวยกาญจน์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนี้เปิดเผยว่า ได้สอบสวนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่รู้เห็นกับการเปิดหลอดยาแล้วพบยาเสพติดโดยนายออด และเมื่อไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดเจ้าหน้าที่บอกว่าวงจรปิดในจุดที่รับฝากของนั้นเสียพอดี ไม่ทราบเช่นกันว่าเหตุใดจึงเสียช่วงตรงกับเหตุการณ์สำคัญพอดีจึงทำหนังสือไปสอบถามอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
“ส่วนการสอบสวนหญิงที่นำเอาสิ่งของนี้มาฝากนั้นยังไม่ได้เรียกสอบ เนื่องจากยังรอขั้นตอนบางอย่าง แต่ในส่วนของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีฆาตกรรมนายออดนั้น ได้เรียกผู้หญิงคนนี้มาสอบปากคำในฐานะพยานคดีฆ่า เขาให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ บัตรประชาชนที่คนร้ายนำมานั้นเป็นบัตรที่หายไป และตนได้สวมรอยนำมาใช้เข้าฝากของในเรือนจำ ซึ่งขณะนี้กำลังพิสูจน์ลายมือชื่อที่ลงนามรับรองสำเนาไว้แล้ว มีวิธีการที่สามารถตรวจสอบได้” พนักงานสอบสวนรายนี้กล่าว
สำหรับคดีนี้ ได้เป็นที่สนใจของกระทรวงยุติธรรม และทุกหน่วยงาน เนื่องจากนายออด ได้ชื่อว่าเป็นข้าราชการที่อยู่ในความซื่อสัตย์จนเป็นที่ยอมรับ โดยล่าสุดนั้น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีกำหนดเดินทางมาเยี่ยมงานบำเพ็ญกุศลของนายออด แซ่ผั่ว เจ้าหน้าที่เรือนจำนครศรีธรรมราชในวันนี้ พร้อมทั้งนำการช่วยเหลือในด้านสวัสดิการต่างๆ มามอบให้ ขณะเดียวกัน ยังมีอีกหลายหน่วยงานประสานเข้ามายัง ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เพื่อให้ความช่วยเหลือครอบครัวนายออด ที่สูญเสียเสาหลักที่สำคัญไป ซึ่งทาง ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้แนะนำให้ประสานกับครอบครัวโดยตรงเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของครอบครัวผู้สูญเสีย
ขณะเดียวกัน ในคดีส่งยาเสพติดเข้าเรือนจำด้วยรถส่งนมถั่วเหลืองของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาเสพติดชนิดยาบ้าได้รวมกว่า 4 พันเม็ด ยาไอซ์จำนวน 250 กรัม อุปกรณ์ต่อพ่วงโทรศัพท์มือถือ ซิมการ์ดอีกเป็นจำนวนมาก รวมมูลค่าซื้อขายในเรือนคิดเป็นเงินหลายล้านบาท ร.ต.ท.มนตรี ปานอ่อน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย นายอภิชาต เทียมสานุจิตร นายวาริน จูประจบ นายรณชัย ศักดิ์ดวง และนายจักรพงษ์ จังแต เพื่อขออำนาจศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ฝากขังผัดแรกเป็นกำหนดระยะเวลา 12 วัน เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 22 ส.ค.55 และในการยื่นขออำนาจศาลฝากขังนั้น ได้มีครอบครัวของผู้ต้องหาได้มาขอยื่นประกันตัวในชั้นศาลพร้อมด้วยหลักทรัพย์ของแต่ละราย และได้มี นางเกสร เทียมสานุจิตร อายุ 51 ปี มารดาของนายอภิชาต เทียมสานุจิตร มาร้องขอความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่
นางเกสร เทียมสานุจิตร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายอภิชาต บุตรชาย ได้มาสมัครงานที่บริษัทนมถั่วเหลืองดังกล่าว และได้ถูกเรียกตัวมาทำงานเป็นวันแรกโดยที่ไม่ได้รู้เรื่องว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร เมื่อมาถึงวันแรกนั้นหัวหน้างานได้สั่งให้ขับรถยนต์บรรทุกคันนี้ส่งของที่เรือนจำเป็นเที่ยวเรียก และหลังจากส่งของเสร็จได้ถูกจับกุมด้วยข้อหายาเสพติด
“ครอบครัวเป็นครอบครัวที่ยากจนต้องเช่าหลักทรัพย์เขามาประกันตัว ทราบว่าต้องใช้ถึงประมาณ 800,000 บาทเป็นอย่างน้อย เครือญาติที่ จ.พังงา ได้ส่งเงินมาช่วยเหลือ 5 หมื่นบาทเพื่อให้เช่าหลักทรัพย์ไปประกัน จึงขอความเป็นธรรมด้วย หลังจากนี้จะไม่ให้เขาทำงานประเภทส่งของอีกแล้ว เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงมากโดยเฉพาะการส่งเข้าในเรือนจำโดยไม่รู้ตัวว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร”
ด้านคดีสิ่งของต้องห้ามในเรือนจำที่มีการตรวจค้นครั้งใหญ่ที่กำลังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ขณะนี้เตรียมส่งสำนวนขออนุมัติหมายจับกุมจากเลขาธิการ ป.ป.ส.ซึ่งมีอยู่ด้วยกันกว่า 20 ราย อยู่ในเครือข่ายกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดทั้งหมด แต่ยังขอไม่ระบุว่าเป็นกลุ่มใดบ้างซึ่งจะมีการจู่โจมจับกุมครั้งใหญ่ในเร็วๆ นี้