สุราษฎร์ธานี - ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 700 นาย จู่โจมบุกตรวจค้นเรือนจำ 3 แห่ง พบโทรศัพท์มือถือ ซิมการ์ด ยาเสพติด อุปกรณ์การเสพ บัญชีการโอนเงินหมุนเวียนวันละ 1-2 ล้านบาท พร้อมทั้งสิ่งของต้องห้ามเพียบ และสุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขังพบสีม่วงจำนวนมาก
วันนี้ (10 พ.ค.) เมื่อเวลา 05.30 น. นายเชิดศักดิ์ ชูศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.วิฑุร ธรรมรักษา ผบก.จังหวัดสุราษฎร์ธานี, นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.ปปส.ภาค 8, นายสุชิน ดำกระเด็น ผบ.เรือนจำกลางจังวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำกำลังฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตชด. ที่ 417 ปปส.ภาค 8 ตำรวจน้ำ อส. และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดกว่า 700 นาย บุกเข้าตรวจค้นเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรือนจำจังหวัดไชยา และเรือนจำจังหวัดเกาะสมุย
จากการตรวจค้นเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเรือนจำที่ใหญ่ที่สุดใน จ.สุราษฎร์ธานี ขณะตรวจค้นมีผู้ต้องขังรวมทั้งสิ้น 2,573 คน ได้กระจายกำลังตรวจค้นตามแดนเรือนนอนชาย แดนเรือนนอนหญิง บริเวณโรงงาน ห้องสมุด โรงสูทกรรม และบริเวณอื่นๆ ทั่วไปในเรือนจำ ผลการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง และซิมการ์ด 3 ซิม, สมุดจดหมายเลขบัญชีธนาคาร 1 เล่ม, ไพ่ประดิษฐ์ 1 สำรับ, เหล็กแหลม 5 อัน, อุปกรณ์การเสพยาเสพติด จำนวนหนึ่ง สุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขัง จำนวน 208 คน ผลเป็นบวกห รือมีสีม่วงจำนวน 32 คน
ส่วนผลการตรวจค้นที่เรือนจำจังหวัดเกาะสมุย ขณะตรวจค้นมีผู้ต้องขังจำนวน 553 คน เป็นชาย 401 คน หญิง 152 คน ไม่พบสารเสพติด สุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขังผลเป็นบวกมี 2 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องขังใหม่ที่เพิ่งไปอยู่ในเรือนจำเมื่อวันที่ 6 พ.ค.กับ 8 พ.ค.55
ขณะที่ผลการตรวจค้นที่เรือนจำจังหวัดไชยา มีผู้ต้องขัง 600 คน พบโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง เหล็กแหลม 10 อัน เข็มฉีดยา 1 อัน อุปกรณ์การเสพยาเสพติด 1 ชุด วัตถุต้องสงสัยมีลักษณะคล้ายยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง รอการตรวจสอบ
ส่วนโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง ซิมการ์ด จำนวน 3 อัน อุปกรณ์การชาร์จโทรศัพท์ และ อุปกรณ์การเสพยาไอซ์จำนวนมาก นอกจากนั้น ยังพบบัญชีหมายเลขโทรศัพท์และบัญชีการโอนเงินที่มีกระแสการเงินหมุนเวียนวันละ 1-2 ล้านบาท พร้อมสิ่งของต้องห้ามจำพวก บุหรี่ ไฟแช็ก เหล็กแหลม มีดพก คัตเตอร์ อีกจำนวนมาก
ซึ่งสิ่งของที่ค้นพบส่วนใหญ่ค้นพบภายในเรือนนอน 3 ที่เป็นเรือนนอนความมั่นคงสูง ของเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นอยู่นั้น ปรากฏว่า มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เจ้าหน้าที่หาอยู่สักพักจึงพบว่าโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวถูกซุกซ่อนอยู่ในหนังสือเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และโดยเฉพาะการตรวจปัสสาวะผู้ต้องขังผู้ต้องขังเรือนนอน 3/3 ที่มีผู้ต้องขังจำนวน 82 คน พบสีม่วงถึง 30 คน
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นเรือนนอนหญิงพบจดหมายของผู้ต้องขังหญิงที่ชื่อส้มได้เขียนจดหมายให้ผู้ปกครองนำโทรศัพท์เข้ามาให้ในวันเยี่ยมญาติที่เรือนจำจะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม พร้อมแนะนำวิธีการนำเข้าเรือนจำให้ผู้ปกครองอีกด้วย
หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำของกลางทั้งหมดมาแถลงข่าวพร้อมระบุว่า ทางจังหวัดจะดำเนินการกดดันตรวจค้นเรือนจำอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสั่งการให้ทำการสอบสวนขยายผลจากของกลางที่พบ เพื่อดำเนินการติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป พร้อมเตรียมคัดแยกผู้ต้องขังที่พบการกระทำความผิดไปฝากขังยังที่อื่น และเตรียมของบประมาณจัดสร้างเรือนจำเพิ่มในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ เพื่อแยกขังผู้ต้องขังคดียาเสพติด ประกอบกับเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ในใจกลางชุมชนเมืองยากแก่การป้องกันขบวนการค้ายาเสพติด
วันนี้ (10 พ.ค.) เมื่อเวลา 05.30 น. นายเชิดศักดิ์ ชูศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.วิฑุร ธรรมรักษา ผบก.จังหวัดสุราษฎร์ธานี, นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.ปปส.ภาค 8, นายสุชิน ดำกระเด็น ผบ.เรือนจำกลางจังวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำกำลังฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตชด. ที่ 417 ปปส.ภาค 8 ตำรวจน้ำ อส. และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดกว่า 700 นาย บุกเข้าตรวจค้นเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรือนจำจังหวัดไชยา และเรือนจำจังหวัดเกาะสมุย
จากการตรวจค้นเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเรือนจำที่ใหญ่ที่สุดใน จ.สุราษฎร์ธานี ขณะตรวจค้นมีผู้ต้องขังรวมทั้งสิ้น 2,573 คน ได้กระจายกำลังตรวจค้นตามแดนเรือนนอนชาย แดนเรือนนอนหญิง บริเวณโรงงาน ห้องสมุด โรงสูทกรรม และบริเวณอื่นๆ ทั่วไปในเรือนจำ ผลการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง และซิมการ์ด 3 ซิม, สมุดจดหมายเลขบัญชีธนาคาร 1 เล่ม, ไพ่ประดิษฐ์ 1 สำรับ, เหล็กแหลม 5 อัน, อุปกรณ์การเสพยาเสพติด จำนวนหนึ่ง สุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขัง จำนวน 208 คน ผลเป็นบวกห รือมีสีม่วงจำนวน 32 คน
ส่วนผลการตรวจค้นที่เรือนจำจังหวัดเกาะสมุย ขณะตรวจค้นมีผู้ต้องขังจำนวน 553 คน เป็นชาย 401 คน หญิง 152 คน ไม่พบสารเสพติด สุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขังผลเป็นบวกมี 2 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องขังใหม่ที่เพิ่งไปอยู่ในเรือนจำเมื่อวันที่ 6 พ.ค.กับ 8 พ.ค.55
ขณะที่ผลการตรวจค้นที่เรือนจำจังหวัดไชยา มีผู้ต้องขัง 600 คน พบโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง เหล็กแหลม 10 อัน เข็มฉีดยา 1 อัน อุปกรณ์การเสพยาเสพติด 1 ชุด วัตถุต้องสงสัยมีลักษณะคล้ายยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง รอการตรวจสอบ
ส่วนโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง ซิมการ์ด จำนวน 3 อัน อุปกรณ์การชาร์จโทรศัพท์ และ อุปกรณ์การเสพยาไอซ์จำนวนมาก นอกจากนั้น ยังพบบัญชีหมายเลขโทรศัพท์และบัญชีการโอนเงินที่มีกระแสการเงินหมุนเวียนวันละ 1-2 ล้านบาท พร้อมสิ่งของต้องห้ามจำพวก บุหรี่ ไฟแช็ก เหล็กแหลม มีดพก คัตเตอร์ อีกจำนวนมาก
ซึ่งสิ่งของที่ค้นพบส่วนใหญ่ค้นพบภายในเรือนนอน 3 ที่เป็นเรือนนอนความมั่นคงสูง ของเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นอยู่นั้น ปรากฏว่า มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เจ้าหน้าที่หาอยู่สักพักจึงพบว่าโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวถูกซุกซ่อนอยู่ในหนังสือเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และโดยเฉพาะการตรวจปัสสาวะผู้ต้องขังผู้ต้องขังเรือนนอน 3/3 ที่มีผู้ต้องขังจำนวน 82 คน พบสีม่วงถึง 30 คน
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นเรือนนอนหญิงพบจดหมายของผู้ต้องขังหญิงที่ชื่อส้มได้เขียนจดหมายให้ผู้ปกครองนำโทรศัพท์เข้ามาให้ในวันเยี่ยมญาติที่เรือนจำจะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม พร้อมแนะนำวิธีการนำเข้าเรือนจำให้ผู้ปกครองอีกด้วย
หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำของกลางทั้งหมดมาแถลงข่าวพร้อมระบุว่า ทางจังหวัดจะดำเนินการกดดันตรวจค้นเรือนจำอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสั่งการให้ทำการสอบสวนขยายผลจากของกลางที่พบ เพื่อดำเนินการติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป พร้อมเตรียมคัดแยกผู้ต้องขังที่พบการกระทำความผิดไปฝากขังยังที่อื่น และเตรียมของบประมาณจัดสร้างเรือนจำเพิ่มในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ เพื่อแยกขังผู้ต้องขังคดียาเสพติด ประกอบกับเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ในใจกลางชุมชนเมืองยากแก่การป้องกันขบวนการค้ายาเสพติด