เชียงราย- ป.ป.ส.ภาค 5 ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเข้าตรวจค้นเรือนจำกลางเชียงราย โดยคนในเรือนจำไม่ทันได้ตั้งตัว เผยพบสิ่งผิดกฎหมายเพียบ อีกทั้งยังพบโพยเล่นพนันบอลคู่ละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท
เช้ามืดวันนี้ (4 พ.ค.) นายวิชัย ไชยมงคล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ทหารจังหวัดทหารบกเชียงราย ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่เรือนจำกลาง จ.เชียงราย นำโดยนายไพโรจน์ พันธุ์แก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำ รวมประมาณ 400 นาย จู่โจมเข้าตรวจค้นภายในเรือนจำกลาง จ.เชียงราย ตั้งอยู่ ต.ดอยฮาง อ.เมือง โดยไม่ให้ผู้ต้องขังได้ทันตั้งตัวเพื่อตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมาย หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เคยเข้าตรวจค้นและพบของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ บ่อยครั้ง รวมทั้งเคยมีขบวนการค้ายาเสพติดพยายามส่งสิ่งผิดกฎหมายโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำด้วยวิธีการต่างๆ รวมไปถึงการจ้างคนขว้างหรือโยนผ่านกำแพงเข้าไปและถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้
ซึ่งผลการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้พบว่า ที่แดน 3 ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังนักโทษเด็ดขาดพบสิ่งของผิดกฎหมายหลายรายการ โดยเฉพาะภายในตู้เก็บของใช้ส่วนตัวหรือล็อกเกอร์ ใต้ที่นอน โคมไฟ ฯลฯ โดยพบเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ พร้อมซิมการ์ดพร้อมใช้งานรวมจำนวน 15 เครื่อง เมมโมรีสติ๊ก 3 อัน ซิมการ์ด 7 อัน แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ 16 ก้อน สายพ่วงโทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นเกม ยาบ้าจำนวน 3 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 1 กรัม เงินสด 3,000 บาท ฯลฯ ที่เหลือเป็นสิ่งผิดกฎหมายที่เคยพบเป็นประจำ เช่น อาวุธดัดแปลงจากของใช้ทั่วไป นอกจากนี้ ยังตรวจยึดโพยเล่นพนันฟุตบอลและมวยรวมทั้งหวยใต้ดิน โดยบางโพยระบุมีการเล่นการพนันฟุตบอลกันด้วยวงเงินคู่ล่ะนับ 100,000 บาท
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนสอบสวนจากนักโทษคนหนึ่ง ก็ได้ความว่าได้หาซื้อโทรศัพท์มือมือดังกล่าวมาจากนักโทษคนหนึ่งชื่อนายอาแค หรือหยีเดอ เบียงกากู่ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นนักโทษที่ถูกจำคุกคดีค้ายาบ้าจำนวน 98,000 เม็ด และถูกจำคุกในแดนดังกล่าวมาได้นานกว่า 14 ปีแล้ว เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมตัวนายอาแคมาสอบสวน ซึ่งนายอาแคสารภาพว่าหลังจากได้โทรศัพท์มือถือเข้ามาจากภายนอกด้วยวิธีการต่างๆ แล้ว ได้นำห่อในถุงยางอนามัยหล่อลื่นและยัดเข้าไปในรูทวารหนัก เจ้าหน้าที่จึงใช้น้ำสบู่และให้นายอาแคลุกนั่งปรากฏว่าได้โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์หูฟังในถุงยางอนามัยที่ออกมาจากทวารหนักเพิ่มขึ้นอีก 1 ชุดด้วย จึงนำตัวนายอาแคไปสอบสวนขยายผลและดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป
นายวิชัยเปิดเผยว่า ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นในเรือนจำกว่า 2 ครั้งแล้ว และครั้งนี้ก็ได้ขยายผลมาจากครั้งก่อนๆ โดยมีการแกะรอยสืบสวนในทางลับ จากนี้ก็จะนำของกลางที่ได้ไปทำการขยายผลเหมือนเดิมอีก กระนั้น เชื่อว่าขบวนการค้ายาเสพติดที่เกี่ยวข้องกับคนที่อยู่ในเรือนจำกลางอาจจะไหวตัวทัน โดยหยุดการติดต่อสื่อสารทำให้ต้องมีการติดตามหาข่าวและตรวจค้นกันในอนาคตต่อไป