(หมายเหตุ : หรินทร์ สุขวัจน์ ที่ปรึกษาพิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว รับมอบหมายจากมูลนิธิเด็ก เชื้อเชิญศิลปินไทยบริจาคผลงานให้มูลนิธิแซนโทส ประเทศอิตาลี เพื่อจัดนิทรรศการศิลปะ ณ กรุงโรม ระหว่างวันที่ 19-27 มิถุนายน 2555 เงินรายได้มอบให้แก่มูลนิธิเด็กเพื่อโครงการสร้างโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก 2 จังหวัดกาญจนบุรี)
ช่วงสิบปีที่ผ่านมา ผมเคยจัดนิทรรศการภาพศิลปะให้นักท่องเที่ยวฝรั่งตะวันตกชมที่ภูเก็ต และสมุยสิบกว่าครั้ง พบว่า นอกเหนือจินตนาการ หรือความคิดสร้างสรรค์แล้ว ภาพของจิตรกรไทยที่มักขายได้คือ ภาพวาดที่มีฝีมือ และกลิ่นอายตะวันออก มากกว่าวาดสไตล์ตะวันตก ไม่ว่าอิมเพรสชันนิสม์ เซอร์เรียลิสม์ เอกซ์เพรสชันนิสม์ ฯลฯ โดยเฉพาะแอบสแตรกท์ที่ช่างเขียนไทยชอบวาดกันนัก แต่ขายได้ยากมาก
ที่ว่าต้องมีฝีมือคือ ฝึกปรือจนพื้นฐานทางศิลปะแน่น ทั้งวาดเส้น สี แสงเงาและองค์ประกอบ ส่วนกลิ่นอายตะวันออกก็คือ เนื้อหาและวิธีการ ภาพใดวาดสวย สื่อถึงวิถีของเรา และมีรากเหง้ากลิ่นอายจากตัวตนของเราเองก็จะขายได้ง่าย
ยกเว้นภาพวาดแนวตะวันตกที่ตั้งราคาไม่สูง ถ้าสวยก็จะขายได้ แต่เขาซื้อไปเป็นคอลเลกชัน-art piece (สมบัติสะสมในฐานะงานศิลปะ) หรือเป็นของตกแต่ง-decoretive object ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ไม่นับ “ภาพลอก” (ก๊อบปี้ภาพจิตรกรดังฝรั่งในอดีต) ที่ช่างเขียนไทยทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ทั้งขายปลีก และขายส่งออกต่างประเทศระดับอุตสาหกรรม เช่น ที่พัทยา กรุงเทพฯ สมุย ภูเก็ต ปีหนึ่งเป็นร้อยล้านบาท
ภาพจิตรกรรมของศิลปินไทยที่มีชื่อเสียงภายในประเทศ ไม่มีความหมายสำหรับคอลเลกเตอร์ หรือผู้สะสมฝรั่ง เขาวัดกันที่คุณภาพเนื้องานล้วนๆ ครับ เป็นคุณภาพตามโลกทัศน์ชาวตะวันตก
นิทรรศการศิลปะ “หมู่บ้านเด็ก” จัดขึ้นที่ Sindacato Italiano Unitario Lavoratori Polizia ในอาคารที่ทำการตำรวจแรงงาน ที่สวยงามเคร่งขรึมตามแบบนิโอคลาสสิกอายุกว่าร้อยปีกลางกรุงโรม เปิดงานค่ำวันที่ 19 มิถุนายน 2555 มี นายสุรพิทย์ กีรติบุตร เอกอัครราชทูตไทยประจำอิตาลี พร้อมคณะข้าราชการสถานทูต เจ้าหน้าที่ระดับสูงเจ้าของสถานที่ ผู้ที่อยู่ในแวดวงการศึกษาทางเลือกที่สนใจงานของโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก และคอลเลกเตอร์ที่เป็นเพื่อนฝูงของ อกาติโน ประธานมูลนิธิแซนโทส มาร่วมงานรวมประมาณ 40 คน
ผลงานของศิลปินฝรั่ง 23 คน คนละภาพสองภาพ ของศิลปินไทย 30 คน โดย 27 คนจากไทยในปีนี้ หนึ่งคนจากนิทรรศการครั้งที่แล้วคือ สุชาติ วงษ์ทอง หนึ่งคนคือ ภรรยาอกาติโน คือ ชัญญา และอีกคนคือ สุพรรษา เทพหัสดิน ณ อยุธยา บริจาคภาพเรียลิสติกแจกันกุหลาบ “Nostalgia” รวม 76 ภาพ จัดแสดงในห้องประชุมหนึ่ง ห้องข้างๆ หนึ่ง และห้องโถงบนล่างบริเวณบันไดขึ้นชั้นสองอีกหนึ่ง
ครั้งนี้ อกาติโน จัดให้มีการประมูลในวันแรกเลย โดยคณะผู้จัดทางโรมคัดเลือกภาพของศิลปินไทยไว้ประมูลราว 20 ภาพ และเป็นผู้ตั้งราคาเริ่มต้น โดยฝ่ายไทยแจ้งราคาแต่ละภาพตามที่ศิลปินเจ้าของผลงานระบุ บางภาพก็ต่ำกว่า บางภาพก็สูงกว่า
ผมตื่นเต้น 2 อย่าง หนึ่งคือ จะได้เรียนรู้วิธีประมูลงานศิลปะ ณ ศูนย์กลางศิลปกรรมโลกเป็นครั้งแรก สองคือ ลุ้นว่าตะวันตกประเมินตะวันออกอย่างไรในงานนี้ เหมือน หรือต่างจากอคติความรู้ของผมแค่ไหน
โดย อกาติโน ทำหน้าที่ผู้ตัดสินการประมูล-guidice (judge) มี Francesca Ossani กรรมการ Xanthos สาวใหญ่นักหนังสือพิมพ์เพื่อน อกาติโน เป็นพิธีกรนิทรรศการ และ Annamaria Lombroso เลขานุการมูลนิธิฯ สาวสวยนักออกแบบเครื่องประดับ ลูกสาวของเพื่อน อกาติโน มาเป็นพิธีกรประมูล
ภาพแรกที่ประมูลคือ Buddha’s Breath ของ ชาลี จัลยานนท์ ศิลปินที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของภูเก็ต ราคา 75,000 บาท ราคาเริ่มต้นที่ 40,000 บาท (1,000 ยูโร) ประมูลไป 52,000 บาท โดยท่านทูตเป็นคนประเดิม ท่านกล่าวว่า เมื่อแรกเห็นภาพนี้นั้นถึงกับตะลึง เพราะช่างเหมือนพระกรุปางนาคปรกที่เพิ่งบูชามาจากจังหวัดนครราชสีมาไม่นานมานี้ แม้ท่านจะไม่ได้เกิดวันเสาร์ แต่ได้มอบให้ภรรยาซึ่งเกิดวันเสาร์ประจำปาง
ภาพต่อมาคือ Jazz King: H.M. The King Bhumibol Adulyadej Musical ของ ศวรรษ จัลยานนท์ ลูกชายวัยหนุ่มผู้สืบทอดอาชีพศิลปินของชาลี และยังมีสไตล์ใต้ร่มเงาของพ่ออยู่ ราคา 50,000 บาท ราคาเริ่มที่ 40,000 บาท ประมูลไป 48,000 บาท
อีกภาพคือ Boat Lagoon ของ ศวรรษ เช่นกัน ราคา 50,000 บาท ราคาเริ่มที่ 32,000 บาท มีคนแข่งกันประมูลสนุกได้ไป 60,000 บาท
ภาพต่อไป ยังคงเป็นของครอบครัวศิลปินภูเก็ตคือ ภาพ Horses Spirit ของ ชาลี ราคา 75,000 บาท ราคาเริ่มที่ 28,000 บาท ประมูลไป 32,000 บาท สาวสวยพิธีกรเชียร์ภาพนี้ว่า ร้านจำหน่ายเนื้อสัตว์น่าจะนำไปประดับร้านได้อย่างเหมาะสมสวยงาม
ภาพสุดท้ายของตระกูล จัลยานนท์ ผู้ใจบุญคือ Friend ของชาลี ผู้เคยไปทำงานหล่อหลอมฝีมืออยู่ในประเทศเบลเยียมนานปี ราคา 50,000 บาท ราคาเริ่มที่ 40,000 บาท ประมูลได้ 60,000 บาท
อ่านเรื่องประกอบ
- เรื่องชุด “จิตรกรรมไทยไปโรม ห้าห้า” ว่าด้วย...ศิลปินไทย (2) / หรินทร์ สุขวัจน์
- เรื่องชุด “จิตรกรรมไทยไปโรม ห้าห้า” ว่าด้วย...เหตุ (1) / หรินทร์ สุขวัจน์
ช่วงสิบปีที่ผ่านมา ผมเคยจัดนิทรรศการภาพศิลปะให้นักท่องเที่ยวฝรั่งตะวันตกชมที่ภูเก็ต และสมุยสิบกว่าครั้ง พบว่า นอกเหนือจินตนาการ หรือความคิดสร้างสรรค์แล้ว ภาพของจิตรกรไทยที่มักขายได้คือ ภาพวาดที่มีฝีมือ และกลิ่นอายตะวันออก มากกว่าวาดสไตล์ตะวันตก ไม่ว่าอิมเพรสชันนิสม์ เซอร์เรียลิสม์ เอกซ์เพรสชันนิสม์ ฯลฯ โดยเฉพาะแอบสแตรกท์ที่ช่างเขียนไทยชอบวาดกันนัก แต่ขายได้ยากมาก
ที่ว่าต้องมีฝีมือคือ ฝึกปรือจนพื้นฐานทางศิลปะแน่น ทั้งวาดเส้น สี แสงเงาและองค์ประกอบ ส่วนกลิ่นอายตะวันออกก็คือ เนื้อหาและวิธีการ ภาพใดวาดสวย สื่อถึงวิถีของเรา และมีรากเหง้ากลิ่นอายจากตัวตนของเราเองก็จะขายได้ง่าย
ยกเว้นภาพวาดแนวตะวันตกที่ตั้งราคาไม่สูง ถ้าสวยก็จะขายได้ แต่เขาซื้อไปเป็นคอลเลกชัน-art piece (สมบัติสะสมในฐานะงานศิลปะ) หรือเป็นของตกแต่ง-decoretive object ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ไม่นับ “ภาพลอก” (ก๊อบปี้ภาพจิตรกรดังฝรั่งในอดีต) ที่ช่างเขียนไทยทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ทั้งขายปลีก และขายส่งออกต่างประเทศระดับอุตสาหกรรม เช่น ที่พัทยา กรุงเทพฯ สมุย ภูเก็ต ปีหนึ่งเป็นร้อยล้านบาท
ภาพจิตรกรรมของศิลปินไทยที่มีชื่อเสียงภายในประเทศ ไม่มีความหมายสำหรับคอลเลกเตอร์ หรือผู้สะสมฝรั่ง เขาวัดกันที่คุณภาพเนื้องานล้วนๆ ครับ เป็นคุณภาพตามโลกทัศน์ชาวตะวันตก
นิทรรศการศิลปะ “หมู่บ้านเด็ก” จัดขึ้นที่ Sindacato Italiano Unitario Lavoratori Polizia ในอาคารที่ทำการตำรวจแรงงาน ที่สวยงามเคร่งขรึมตามแบบนิโอคลาสสิกอายุกว่าร้อยปีกลางกรุงโรม เปิดงานค่ำวันที่ 19 มิถุนายน 2555 มี นายสุรพิทย์ กีรติบุตร เอกอัครราชทูตไทยประจำอิตาลี พร้อมคณะข้าราชการสถานทูต เจ้าหน้าที่ระดับสูงเจ้าของสถานที่ ผู้ที่อยู่ในแวดวงการศึกษาทางเลือกที่สนใจงานของโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก และคอลเลกเตอร์ที่เป็นเพื่อนฝูงของ อกาติโน ประธานมูลนิธิแซนโทส มาร่วมงานรวมประมาณ 40 คน
ผลงานของศิลปินฝรั่ง 23 คน คนละภาพสองภาพ ของศิลปินไทย 30 คน โดย 27 คนจากไทยในปีนี้ หนึ่งคนจากนิทรรศการครั้งที่แล้วคือ สุชาติ วงษ์ทอง หนึ่งคนคือ ภรรยาอกาติโน คือ ชัญญา และอีกคนคือ สุพรรษา เทพหัสดิน ณ อยุธยา บริจาคภาพเรียลิสติกแจกันกุหลาบ “Nostalgia” รวม 76 ภาพ จัดแสดงในห้องประชุมหนึ่ง ห้องข้างๆ หนึ่ง และห้องโถงบนล่างบริเวณบันไดขึ้นชั้นสองอีกหนึ่ง
ครั้งนี้ อกาติโน จัดให้มีการประมูลในวันแรกเลย โดยคณะผู้จัดทางโรมคัดเลือกภาพของศิลปินไทยไว้ประมูลราว 20 ภาพ และเป็นผู้ตั้งราคาเริ่มต้น โดยฝ่ายไทยแจ้งราคาแต่ละภาพตามที่ศิลปินเจ้าของผลงานระบุ บางภาพก็ต่ำกว่า บางภาพก็สูงกว่า
ผมตื่นเต้น 2 อย่าง หนึ่งคือ จะได้เรียนรู้วิธีประมูลงานศิลปะ ณ ศูนย์กลางศิลปกรรมโลกเป็นครั้งแรก สองคือ ลุ้นว่าตะวันตกประเมินตะวันออกอย่างไรในงานนี้ เหมือน หรือต่างจากอคติความรู้ของผมแค่ไหน
โดย อกาติโน ทำหน้าที่ผู้ตัดสินการประมูล-guidice (judge) มี Francesca Ossani กรรมการ Xanthos สาวใหญ่นักหนังสือพิมพ์เพื่อน อกาติโน เป็นพิธีกรนิทรรศการ และ Annamaria Lombroso เลขานุการมูลนิธิฯ สาวสวยนักออกแบบเครื่องประดับ ลูกสาวของเพื่อน อกาติโน มาเป็นพิธีกรประมูล
ภาพแรกที่ประมูลคือ Buddha’s Breath ของ ชาลี จัลยานนท์ ศิลปินที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของภูเก็ต ราคา 75,000 บาท ราคาเริ่มต้นที่ 40,000 บาท (1,000 ยูโร) ประมูลไป 52,000 บาท โดยท่านทูตเป็นคนประเดิม ท่านกล่าวว่า เมื่อแรกเห็นภาพนี้นั้นถึงกับตะลึง เพราะช่างเหมือนพระกรุปางนาคปรกที่เพิ่งบูชามาจากจังหวัดนครราชสีมาไม่นานมานี้ แม้ท่านจะไม่ได้เกิดวันเสาร์ แต่ได้มอบให้ภรรยาซึ่งเกิดวันเสาร์ประจำปาง
ภาพต่อมาคือ Jazz King: H.M. The King Bhumibol Adulyadej Musical ของ ศวรรษ จัลยานนท์ ลูกชายวัยหนุ่มผู้สืบทอดอาชีพศิลปินของชาลี และยังมีสไตล์ใต้ร่มเงาของพ่ออยู่ ราคา 50,000 บาท ราคาเริ่มที่ 40,000 บาท ประมูลไป 48,000 บาท
อีกภาพคือ Boat Lagoon ของ ศวรรษ เช่นกัน ราคา 50,000 บาท ราคาเริ่มที่ 32,000 บาท มีคนแข่งกันประมูลสนุกได้ไป 60,000 บาท
ภาพต่อไป ยังคงเป็นของครอบครัวศิลปินภูเก็ตคือ ภาพ Horses Spirit ของ ชาลี ราคา 75,000 บาท ราคาเริ่มที่ 28,000 บาท ประมูลไป 32,000 บาท สาวสวยพิธีกรเชียร์ภาพนี้ว่า ร้านจำหน่ายเนื้อสัตว์น่าจะนำไปประดับร้านได้อย่างเหมาะสมสวยงาม
ภาพสุดท้ายของตระกูล จัลยานนท์ ผู้ใจบุญคือ Friend ของชาลี ผู้เคยไปทำงานหล่อหลอมฝีมืออยู่ในประเทศเบลเยียมนานปี ราคา 50,000 บาท ราคาเริ่มที่ 40,000 บาท ประมูลได้ 60,000 บาท
อ่านเรื่องประกอบ
- เรื่องชุด “จิตรกรรมไทยไปโรม ห้าห้า” ว่าด้วย...ศิลปินไทย (2) / หรินทร์ สุขวัจน์
- เรื่องชุด “จิตรกรรมไทยไปโรม ห้าห้า” ว่าด้วย...เหตุ (1) / หรินทร์ สุขวัจน์
