xs
xsm
sm
md
lg

รวมสุดยอดหนังสือ “อันทรงคุณค่า” แห่งปี 2554

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ในรอบปี 2554 ที่ผ่านมา ค่ายหนังสือทั้งเล็กและใหญ่รวมถึงหน่วยงานราชการและเอกชน ต่างจัดทำหนังสือเพื่อประกาศเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษาในปีนี้ คอลัมน์หนังสือในตู้ จึงขอรวบรวมหนังสือที่เป็นที่สุดของหนังสืออันทรงคุณค่า ที่คุณผู้อ่านต้องมีสะสมเอาไว้
เริ่มที่ สนพ.นานาชาติ เอดิซิยองส์ ดิดิเยร์ มิลเยต์ ผู้จัดพิมพ์หนังสือที่ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายเล่ม เกี่ยวกับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย ได้จัดพิมพ์หนังสือ King Bhumibol Adulyadej: A Life’s Work ซึ่งพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ นำเสนอเรื่องราวพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างละเอียดและอ่านง่าย พร้อมข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าและน่าสนใจ ในประเด็นที่ไม่ค่อยมีการกล่าวถึงในสื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ การสืบราชสันตติวงศ์ คณะองคมนตรี และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
หนังสือ King Bhumibol Adulyadej: A Life’s Work เปิดเล่มด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับระบอบกษัตริย์ของไทยและมิติที่เป็นเอกลักษณ์ ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหา ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจและภาพรวมเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งกฎหมาย แบบแผนและจารีตประเพณีที่เชิดชูและเกี่ยวข้องกับสถาบัน

ขณะที่ บมจ.ปตท ได้จัดทำหนังสือ “84 พรรษา มหาราชในดวงใจ” หนังสือพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญครั้งนี้ โดยร่วมมือกับ บมจ.มาสเตอน์ แอด และ นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย เนื้อหาในหนังสือที่เปรียบเสมือนบันทึกความทรงจำล้ำค่า 7 รอบพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ที่บางภาพยังไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน จะเป็นหนังสือที่แนบมาคู่กับนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย ที่จะออกวางแผงในวันที่ 4 ม.ค. 2555 ที่จะถึงนี้

ส่วน สนพ.อมรินทร์คอมมิกส์ ได้จัดทำหนังสือพระราชประวัติฉบับการ์ตูนที่สมบูรณ์ที่สุดในชื่อ “การ์ตูนเทิดไท้องค์ราชัน รัชกาลที่ 9” นำเสนอเนื้อหาตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชย์ และพระราชกรณียกิจต่างๆ ในรูปแบบของการ์ตูนสี่สีสวยงาม ที่ง่ายต่อการอ่านและความเข้าใจของนักอ่านวัยเยาว์ ซึ่งนอกจากเป็นการแสดงความจงรักภักดีแล้ว หนังสือชุดนี้ยังแสดงให้ประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะ เยาวชน ได้ตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยอีกด้วย
จุดเด่นของหนังสือชุดนี้ เป็นการรวบรวมเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ในความทรงจำของประชาชนชาวไทย ด้วยภาพการ์ตูนสลับภาพจริงในบางช่วงบางตอน โดยเรียบเรียงข้อมูลจากอดีตถึงปัจจุบันเริ่มจากเล่มที่ 1 ตอน พระคือพลังแห่งแผ่นดิน พ.ศ. 2489-2513 เล่มที่ 2 ตอน เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม พ.ศ. 2514-2535 และ เล่มที่ 3 ตอน มหาราชกลางใจชน พ.ศ. 2536-2550


อีกหนึ่งเล่มที่ไม่มีไม่ได้คือ “มองผ่านเลนส์พ่อ” จัดทำขึ้นโดย ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เป็นหนังสือภาพที่รวบรวมภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงงานทั่วทุกภูมิภาคอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่เว้นแม้แต่ในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งภาพทุกภาพที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้ เป็นภาพที่ผ่านมุมมองและความมีศิลปะส่วนพระองค์ รวมถึงมิติภาพ สถานที่และผู้คนในมุมมองแปลกตา อีกทั้งยังเป็นบันทึกข้อมูลประวัติศาสตร์ด้านการพัฒนาประเทศ ในฐานะกษัตริย์นักพัฒนา และองค์อัครศิลปินผู้ทรงประสานศาสตร์และศิลป์ ในการนำพาประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ให้ก้าวไปสู่วิถีแห่งความสุขและความเจริญอย่างยั่งยืน
หนังสือมหามงคล “มองผ่านเลนส์พ่อ” แบ่งเนื้อหาเป็น 3 บท ได้แก่ บทที่ 1 ทรงครองดวงใจไทยทั้งหล้า บอกเล่าเรื่องราวพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ทรงพระเยาว์จนขึ้นครองสิริราชสมบัติ บทที่ 2 มองผ่านเลนส์พ่อ เป็นการประมวลภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ จำนวน 48 ภาพ ที่ร้อยเรียงเรื่องราวพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงงานตลอด 65 ปีที่ครองราชย์ และ บทที่ 3 พระปรีชาสามารถด้านการถ่ายภาพ นำเสนอพระปรีชาสามารถด้านการถ่ายภาพและเรื่องราวเกี่ยวกับกล้องส่วนพระองค์

ด้าน พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี) ร่วมกับ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี ทำหนังสือ “ที่สุดแห่งความดี” เชิญชวนคนไทยร่วมเทิดพระเกียรติในปีมหามงคลนี้ด้วย “ความกตัญญู” ซึ่งในพระพุทธศาสนามีหลักการวัดคนดีเอาไว้อย่างชัดเจนผ่านพุทธภาษิตว่า “ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี” โดยกล่าวถึง เรื่องราวของมหาบุรุษยอดกตัญญูในสมัยพุทธกาล คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสารีบุตร ผสานความรักระหว่างแม่กับลูก ของท่านพุทธทาสและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำมาซึ่งความงดงามของลูกกตัญญู และการเป็นต้นแบบของ “แรงบันดาลใจแห่งความดี” เชื่อมร้อยปลุกพลังให้คนไทยลุกขึ้นมา “ทำดี” เพื่อประโยชน์สุขของตนและสังคมไทย

ปิดท้ายกันที่หนังสือ “ธรรมดีที่พ่อทำ” เป็นผลงานเขียนที่สะท้อนความรู้สึกของ ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ในฐานะคนไทยผู้รู้สึกและสำนึกเสมอว่า ตนเองโชคดีมีบุญได้เกิดมาอยู่ในแผ่นดินของพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนับเป็นผลงานลำดับที่ 4 ต่อจากหนังสือ พระราชประวัติภาษาอังกฤษชุด King Bhumibol Adulyadej of Thailand ประกอบด้วย 3 เล่ม ได้แก่ From Prince to King, Strength of the Land และ By the Light of Your Wisdom (โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต) หนังสือในหลวงในรอยธรรม (โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต) และหนังสือตามรอยพระยุคลบาท รัชกาลที่ 9 (รางวัลพระราชทานหนังสือดีเด่นประจำปีพุทธศักราช 2551 จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี)
 
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น