ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นักท่องเที่ยวช่วยเต่าหญ้าขนาดใหญ่ขึ้นมาเกยตื้นหาดป่าตอง พบขาขวาถูกอวนบาดจนขาด เผยยังมีเต่าทะเลถูกคลื่นซัดเกยตื้นต่อเนื่อง ระบุนอกจากเต่าหญ้าเพศเมียแล้ว ยังพบซากเต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ที่เกาะพระทอง จ.พังงาด้วย
นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การขึ้นมาเกยตื้นของเต่าทะเลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และพังงา ว่า ขณะนี้ ทางกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต ยังได้รับแจ้งจากประชาชน และหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่องให้รับเต่าทะเลที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นมารักษา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายากได้รับแจ้งว่ามีเต่าทะเลขนาดใหญ่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่บริเวณชายหาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หน้าโรงแรมภูเก็ตเกรซแลนด์ รีสอร์ท แอนด์สปา หาดป่าตอง โดยมีเจ้าหน้าที่บีชการ์ด และนักท่องเที่ยวให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น หลังรับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายากได้เดินทางไปรับเต่าตัวดังกล่าวกลับมาดูแลรักษา
ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เต่าทะเลตัวดังกล่าวเป็นเต่าหญ้าเพศเมีย วัดลำตัวกว้าง 50 ซม. เป็นตัวขนาดโตเต็มวัย คาดว่าน่าจะว่ายน้ำเข้ามาเพื่อผสมพันธุ์ ตรวจสอบพบบริเวณขาหน้าด้านขวาขาด เนื่องจากถูกอวนบาด และจากบาดแผลคาดว่าน่าจะได้รับบาดเจ็บมาแล้วประมาณ 1 เดือน นอกจากนี้ พบว่าบริเวณกระดองของเต่าตัวดังกล่าวมีตะไคร่น้ำเกาะ เนื่องจากเคลื่อนไหวร่างกายได้น้อยลง ตะไคร่น้ำเลยเกาะ และมีอาการป่วย ร่างกายผอม เนื่องจากการไม่ได้กินอาหารมาเป็นเวลานาน โดยเบื้องต้นหลังรับมาดูแลรักษาได้ให้ยาปฏิชีวนะ ยาบำรุงเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย
นายก้องเกียรติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้มีเต่ามาเกยตื้นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเต่าหญ้าเพศเมีย และส่วนใหญ่จะได้บาดเจ็บจากการถูกอวนบาด ตอนนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา มีเต่าหญ้าขึ้นมาเกยตื้นแล้วกว่า 24 ตัว แต่เชื่อว่าในฝั่งอันดามันน่าจะมีเต่าถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นมากกว่านี้ เพราะที่ทางกลุ่มสัตว์ทะเลหายากได้รับแจ้งมาเป็นส่วนใหญ่จะมีเฉพาะพื้นที่จังหวัดพังงา และภูเก็ตเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเกาะพระทอง อ.คุระ จ.พังงา ว่า มีซากเต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ ลอยเข้ามาเกยตื้นที่ชายหาดเกาะพระทอง จำนวน 1 ตัวด้วย แต่ตายมาก่อนแล้ว ชาวบ้านจึงนำไปฝังที่บริเวณชายหาด
นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การขึ้นมาเกยตื้นของเต่าทะเลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และพังงา ว่า ขณะนี้ ทางกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต ยังได้รับแจ้งจากประชาชน และหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่องให้รับเต่าทะเลที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นมารักษา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายากได้รับแจ้งว่ามีเต่าทะเลขนาดใหญ่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่บริเวณชายหาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หน้าโรงแรมภูเก็ตเกรซแลนด์ รีสอร์ท แอนด์สปา หาดป่าตอง โดยมีเจ้าหน้าที่บีชการ์ด และนักท่องเที่ยวให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น หลังรับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายากได้เดินทางไปรับเต่าตัวดังกล่าวกลับมาดูแลรักษา
ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เต่าทะเลตัวดังกล่าวเป็นเต่าหญ้าเพศเมีย วัดลำตัวกว้าง 50 ซม. เป็นตัวขนาดโตเต็มวัย คาดว่าน่าจะว่ายน้ำเข้ามาเพื่อผสมพันธุ์ ตรวจสอบพบบริเวณขาหน้าด้านขวาขาด เนื่องจากถูกอวนบาด และจากบาดแผลคาดว่าน่าจะได้รับบาดเจ็บมาแล้วประมาณ 1 เดือน นอกจากนี้ พบว่าบริเวณกระดองของเต่าตัวดังกล่าวมีตะไคร่น้ำเกาะ เนื่องจากเคลื่อนไหวร่างกายได้น้อยลง ตะไคร่น้ำเลยเกาะ และมีอาการป่วย ร่างกายผอม เนื่องจากการไม่ได้กินอาหารมาเป็นเวลานาน โดยเบื้องต้นหลังรับมาดูแลรักษาได้ให้ยาปฏิชีวนะ ยาบำรุงเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย
นายก้องเกียรติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้มีเต่ามาเกยตื้นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเต่าหญ้าเพศเมีย และส่วนใหญ่จะได้บาดเจ็บจากการถูกอวนบาด ตอนนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา มีเต่าหญ้าขึ้นมาเกยตื้นแล้วกว่า 24 ตัว แต่เชื่อว่าในฝั่งอันดามันน่าจะมีเต่าถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นมากกว่านี้ เพราะที่ทางกลุ่มสัตว์ทะเลหายากได้รับแจ้งมาเป็นส่วนใหญ่จะมีเฉพาะพื้นที่จังหวัดพังงา และภูเก็ตเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเกาะพระทอง อ.คุระ จ.พังงา ว่า มีซากเต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ ลอยเข้ามาเกยตื้นที่ชายหาดเกาะพระทอง จำนวน 1 ตัวด้วย แต่ตายมาก่อนแล้ว ชาวบ้านจึงนำไปฝังที่บริเวณชายหาด