นครศรีธรรมราช - จ.นครศรีธรรมราชทุกภาคส่วน ช่วยกันรณรงค์เตรียมความพร้อมรับอีโคโมส หรือคณะกรรมการที่ปรึกษาของยูเนสโก ตรวจพื้นที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร สู่การเป็นมรดกโลก
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม รองผู้ว่านครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ช่วยกันรณรงค์จัดเตรียมความพร้อมของพื้นที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และพื้นที่รายรอบที่เกี่ยวข้องกับผังเบื้องต้นในการรับการพิจารณาวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ซึ่งหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาอนุมัติให้นำเสนอัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารนครศรีธรรมราช เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ยังคงมีชีวิตอยู่ผ่านรุ่นต่อรุ่นจากบรรพบุรุษอดีตกาลที่ยาวนานจนมาถึงปัจจุบัน ที่มีวิถีอย่างไร ยังคงเป็นไปอย่างนั้น ผ่านพิธีกรรมต่างๆ ด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยหลังจากที่ชุดเอกสารต่างๆ ไปถึงองค์การยูเนสโกแล้วนั้น จะมีการส่งคณะกรรมการที่ปรึกษาหรือ “อีโคโมส” ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของยูเนสโกอย่างเป็นทางการเดินทางมาตรวจหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า ในส่วนของนครศรีธรรมราชได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการนำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก เพื่อเตรียมรับการเดินทางมาตรวจพื้นที่ของคณะอีโคโมส ที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการของยูเนสโก ซึ่งการลงพื้นที่จะมีขึ้นภายในระยะเวลา 4 เดือน หลังจากทางยูเนสโกได้รับเรื่องการขอขึ้นเป็นมรดกโลกของประเทศไทย หรือประมาณเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
“สำหรับภารกิจสำคัญในระดับพื้นที่เพื่อให้คณะกรรมการเร่งดำเนินการ ใน 3 ประเด็น คือ การจัดภูมิทัศน์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขขององค์การยูเนสโก การจัดกิจกรรมขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ตลอดปี และการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาพลักษณ์จังหวัดสู่นานาชาติ”
ส่วนความคืบหน้าการเตรียมการถึงขณะนี้ นายทรงพล กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชแบ่งเขตพื้นที่มรดกโลกออกเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่หลัก หรือ Core zone ที่มีพื้นที่จำนวน 20.10 ไร่ และพื้นที่กันชนเพื่อการอนุรักษ์ หรือ Buffer zone เนื้อที่ 233.15 ไร่ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อปรับปรุงพื้นที่ทั้ง 2 ส่วนดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของยูเนสโก พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ได้เร่งดำเนินการเพื่อสร้างความเข้าใจ และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้รับทราบถึงความเคลื่อนไหว และติดตามความก้าวหน้าการทำงานของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ อย่างใกล้ชิด รอง ผวจ.นครศรีธรรมราชกล่าว
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม รองผู้ว่านครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ช่วยกันรณรงค์จัดเตรียมความพร้อมของพื้นที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และพื้นที่รายรอบที่เกี่ยวข้องกับผังเบื้องต้นในการรับการพิจารณาวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ซึ่งหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาอนุมัติให้นำเสนอัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารนครศรีธรรมราช เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ยังคงมีชีวิตอยู่ผ่านรุ่นต่อรุ่นจากบรรพบุรุษอดีตกาลที่ยาวนานจนมาถึงปัจจุบัน ที่มีวิถีอย่างไร ยังคงเป็นไปอย่างนั้น ผ่านพิธีกรรมต่างๆ ด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยหลังจากที่ชุดเอกสารต่างๆ ไปถึงองค์การยูเนสโกแล้วนั้น จะมีการส่งคณะกรรมการที่ปรึกษาหรือ “อีโคโมส” ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของยูเนสโกอย่างเป็นทางการเดินทางมาตรวจหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า ในส่วนของนครศรีธรรมราชได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการนำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก เพื่อเตรียมรับการเดินทางมาตรวจพื้นที่ของคณะอีโคโมส ที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการของยูเนสโก ซึ่งการลงพื้นที่จะมีขึ้นภายในระยะเวลา 4 เดือน หลังจากทางยูเนสโกได้รับเรื่องการขอขึ้นเป็นมรดกโลกของประเทศไทย หรือประมาณเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
“สำหรับภารกิจสำคัญในระดับพื้นที่เพื่อให้คณะกรรมการเร่งดำเนินการ ใน 3 ประเด็น คือ การจัดภูมิทัศน์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขขององค์การยูเนสโก การจัดกิจกรรมขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ตลอดปี และการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาพลักษณ์จังหวัดสู่นานาชาติ”
ส่วนความคืบหน้าการเตรียมการถึงขณะนี้ นายทรงพล กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชแบ่งเขตพื้นที่มรดกโลกออกเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่หลัก หรือ Core zone ที่มีพื้นที่จำนวน 20.10 ไร่ และพื้นที่กันชนเพื่อการอนุรักษ์ หรือ Buffer zone เนื้อที่ 233.15 ไร่ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อปรับปรุงพื้นที่ทั้ง 2 ส่วนดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของยูเนสโก พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ได้เร่งดำเนินการเพื่อสร้างความเข้าใจ และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้รับทราบถึงความเคลื่อนไหว และติดตามความก้าวหน้าการทำงานของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ อย่างใกล้ชิด รอง ผวจ.นครศรีธรรมราชกล่าว