ผอ.ยูเนสโกพบนายกฯ ดีใจเห็นความสำคัญการศึกษา เชื่อเป็นแบบอย่างพม่า

ผอ.ยูเนสโก คาราวะนายกฯ ขอบคุณจัดงานเพื่อการศึกษา ดีใจ “ยิ่งลักษณ์” เห็นความสำคัญ ชมฟื้นฟูศูนย์เรียนรู้ชุมชนเร็ว เชื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้พม่า เจ้าตัวหวังยูเนสโกหนุนต่อ โอ่แจกแท็บเล็ตส่งเสริมการเรียนรู้

วันนี้ (10 ก.ย.) ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. นางอิรีนา โบโกวา (Irina Bokova) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก เข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยตามคำเชิญของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเข้าร่วมในพิธีเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียและแปซิฟิกด้าน ICT ในการพัฒนาการศึกษา ประจำปี 2555 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและขอบคุณผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโกที่เดินทางมาประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียและแปซิฟิกด้าน ICT ในการพัฒนาการศึกษา

ผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่จัดงานเพื่อการศึกษา และรู้สึกดีใจที่เห็นว่านายกรัฐมนตรีให้ความสนใจด้านการศึกษา พร้อมทั้งยังชื่นชมนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยที่สามารถฟื้นฟูศูนย์การเรียนชุมชนได้อย่างรวดเร็ว โดยเห็นว่ารูปแบบการดำเนินงานและแนวปฏิบัติของไทย เช่น ด้านการเรียนการสอน (Literacy) การฝึกสอนครู (Teacher training) เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศพม่า ซึ่งการศึกษาไม่เพียงเป็นเครื่องมือเพื่อพัฒนาเท่านั้น แต่ยังช่วยในด้านสาธารณสุข วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ ทั้งนี้ ยูเนสโกได้ริเริ่มโครงการศูนย์การเรียนชุมชนในปี 2541 ภายใต้กรอบงานของโครงการการศึกษาเพื่อปวงชนในเอเชียและแปซิฟิก เพื่อเป็นศูนย์กลางการจัดการศึกษาเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชนในชุมชน ปัจจุบันศูนย์การเรียนชุมชนในไทยมีกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ โดยศูนย์ฯที่อยุธยาได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว

ขณะที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องการศึกษาจะต้องใช้เวลาและได้รับการศึกษาอย่างเต็มที่ ซึ่งหวังว่าองค์การยูเนสโกจะให้การสนับสนุนไทยต่อไป ทั้งนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับการศึกษาเพื่อลดช่องว่างของประเทศ จึงได้ริเริ่มโครงการ One Tablet Per Child เพื่อแจกจ่ายแท็บเล็ตให้แก่เด็กชั้นประถมศึกษา เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในชั้นเรียน และหวังใช้เทคโนโลยีสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้แก่เยาวชน นอกจากนี้ยังเห็นว่าองค์การยูเนสโกมีประสบการณ์ ความรู้ความเชี่ยวชาญ และทรัพยากรที่สามารถช่วยพัฒนาประเทศได้ โดยไทยต้องการให้ความรู้แก่เยาวชนไทยผ่านแท็บเล็ต