ยะลา - สำนักงานที่ดินจังหวัดยะลา ยันตัวเลขซื้อขายที่ดินใน จ.ยะลา พุ่งสูงขึ้น พร้อมระบุเกิดจากนโยบายรัฐกระตุ้นการซื้อขาย ในขณะที่ชาวบ้านปลื้มโครงการรับจำนำที่ดินของรัฐ หวังให้ช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนจริงๆ ไม่ใช่เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มนายทุน
จากกรณีที่มีข่าวว่า รัฐบาลเตรียมจัดสรรงบประมาณ 1,200 ล้านบาทในการรับขายฝาก หรือจำนองดอกเบี้ยต่ำจากประชาชนที่ต้องการขายที่ดินที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อป้องกันไม่ให้ที่ดินดังกล่าวตกไปอยู่ในมือผู้ไม่หวังดี หรือผู้มีอิทธิพล และเจ้าของที่เดิมยังสามารถกลับมาไถ่ถอนคืนได้เมื่อสถานการณ์สงบลงในอนาคต ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (10 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดยะลา น.ส.พนิดา พันธ์ยูโซ๊ะ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2554 พบว่า ในพื้นที่ จ.ยะลา มีการซื้อขายที่ดินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเข้าใจว่าคนในพื้นที่ยะลาไม่ได้กลัวเหตุการณ์ความไม่สงบ ผู้ประกอบการที่เคยย้ายหนีออกไปก็พบว่ากลับเข้ามา เข้าใจว่าน่าจะเกิดจากนโยบายของรัฐในเรื่องของดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่ยังลดต่ำอยู่ รวมทั้งคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะคนยะลาไม่กลัวเหตุไม่สงบแล้ว กล้าที่จะซื้อบ้านซื้อที่ดินอยู่ในพื้นที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของการซื้อขายตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมา สถิติเฉลี่ยเดือนละ 300 กว่าราย ถือว่าเป็นตัวเลขปกติ หลังจากช่วงเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ ในปี 2547 ปรากฏว่า ยอดซื้อขายที่ดินลดต่ำลง ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าคนขายที่ดินเพื่อหนีออกนอกพื้นที่เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบนั้น ตนเองก็ไม่กล้ายืนยันว่ามีจริงหรือไม่ อาจจะมีบ้างในช่วงเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ สำหรับตัวเลขของนายทุนที่เข้ามากว้านซื้อที่ดินจำนวนมากในพื้นที่นั้นพบว่า มีเพียงแปลงเดียวที่ ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา ที่จะมีโครงการสร้างศูนย์ดะวะห์ ซึ่งเป็นแปลงใหญ่แปลงเดียวที่จะมีการซื้อขายกัน
ด้านนางศิริพร ทรงณีย์ศิริ อายุ 60 ปี ชาว จ.ยะลา ที่เดินทางมาติดต่อโอนย้ายที่ดิน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ก็พบว่ามีคนจีน และคนไทยพุทธที่ตนเองรู้จักขายบ้านขายที่ดินแล้วย้ายออกนอกพื้นที่หลายคน ล่าสุด เมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อนของตนก็เพิ่งขายที่ดิน 20 กว่าไร่ ที่ ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา แล้วก็ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ เนื่องจากลูกเรียนหนังสือจบแล้วไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงขายที่แล้วย้ายไปอยู่กับลูกที่กรุงเทพฯ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญ ส่วนเหตุการณ์ความไม่สงบนั้นก็คงจะเป็นส่วนหนึ่ง แต่ตนเองเชื่อว่า คนในพื้นที่ขณะนี้ที่อยู่กันมานานก็จะมีความเคยชินในพื้นที่ เมื่อย้ายไปที่อื่นก็ไปทำมาหากินไม่ได้ ค้าขายไม่ได้ สุดท้ายก็ย้ายกลับเข้ามาในพื้นที่กันเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ส่วนตนเองนั้นก็คงจะไม่ไปอยู่ที่อื่น อยากอยู่ที่ จ.ยะลา มากกว่า อากาศดี อาหารดี มีความสุข แต่บางครั้งก็มีความเครียดบ้างถ้ามีเหตุการณ์ความไม่สงบ ที่ผ่านมาเพื่อนๆ ที่ย้ายออกนอกพื้นที่ก็กลับมากันหลายคน ทุกคนก็จะคุยกันให้กำลังใจกัน ให้ทุกคนอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตเรียบง่ายก็อยู่ได้สบาย ยะลาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดกัน
เกี่ยวกับโครงการที่รัฐบาลจะให้ชาวบ้านได้จำนำที่ดินไม่มีดอกเบี้ยนั้น นางศิริพร ทรงณีย์ศิริ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี ชาวบ้านดีใจ แต่หลายคนก็มีคำถามว่าโครงการนี้จะเข้าถึงประชาชนรากหญ้าหรือเปล่า ประชาชนที่เดือดร้อนจริงๆ จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้จริงหรือเปล่า ประโยชน์ที่ชาวบ้านจะได้รับก็คือ เมื่อไม่สามารถทำมาหากินได้ตามปกติ ยางราคาตก พืชผลขายออกไม่ได้ คนไม่กล้ามาซื้อพืชผล ทุกคนมีต้นทุน บางรายใช้เงินกู้ธนาคารต้องผ่อนจ่ายธนาคาร บางรายอาจจะใช้โครงการนี้เพื่อที่จะสามารถดำเนินกิจการต่อในพื้นที่ได้ ไม่ต้องกู้เงินนอกระบบ โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี ดีใจที่สมเด็จพระราชินีท่านทรงเป็นห่วงพวกเรา แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้โครงการนี้ถึงชาวบ้านที่เดือดร้อนจริงๆ ไม่ใช่เอื้อประโยชน์แก่พวกนายทุนที่ไม่ได้เดือดร้อนอะไร
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลการซื้อขายกรรมสิทธิ์ในที่ดินจากสำนักงานที่ดินจังหวัดยะลา สรุปรวมได้ดังนี้
ปี 2551 จำนวน 1,236 ราย
ปี 2552 จำนวน 1,996 ราย
ปี 2553 จำนวน 1,115 ราย
ปี 2554 จำนวน 2,457 ราย
และข้อมูลการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2554 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2555 ประเภทชาวไทยพุทธขายให้ไทยมุสลิม 347 ราย ชาวไทยมุสลิมขายให้ชาวไทยพุทธ 145 ราย ชาวไทยพุทธขายให้ไทยพุทธ 1,171 ราย และชาวไทยมุสลิมขายให้ไทยมุสลิม 702 ราย
