ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สงขลา ชี้เกิดเหตุ 100 จุดพร้อมกัน เป็นความล้มเหลวของการข่าว กรรมาธิการขู่ติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณการข่าวทุกหน่วย การมีหน่วยงานซ้ำซ้อนขาดเอกภาพ
วันนี้ (2 ก.ย.) นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการเผาธงชาติไทย และปักธงชาติมาเลเซีย เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยกลุ่มก่อความไม่สงบปฏิบัติการพร้อมกับ 102 จุด สะท้อนให้เห็นว่า มีการวางแผนกันมายาวนาน เพื่อต้องการให้ไทยและเพื่อนบ้านระแวงกัน เป็นการต่อสู้อีกรูปแบบหนึ่งที่ส่งสัญญาณยังรัฐบาล และแนวโน้มสถานการณ์จะขยายออกกว้างกว่าเดิมแน่นอน รัฐบาลต้องเปิดใจให้กว้างกว่าที่เป็นอยู่ รับฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่าย หากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลพูดแล้ว โฆษกรัฐบาลกลับกล่าวหาจ้องล้มทำลายรัฐบาล
นายนิพนธ์ เปิดเผยว่า หากพิจารณากันให้ครบถ้วนของเหตุการณ์ ตนจะพูดว่าเป็นความล้มเหลวของการข่าวทุกหน่วยที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ทั้งที่ทุกหน่วยได้ของบประมาณเพื่อทำงานด้านการข่าวทุกหน่วย แต่กลับการข่าวไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ฝ่ายตรงข้ามปฏิบัติการพร้อมกัน 100 จุด สะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนที่ไม่คุ้มทุน กรรมาธิการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณสภาผู้แทนราษฏร จะต้องเข้าไปตรวจสอบการใช้งบประมาณการข่าวทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
“ผมทำงานในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้มายาวนานพอสมควร ผมวิเคราะห์ได้ว่า ต่อไปนี้การทำงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ยากขึ้น เมื่อรัฐบาลตั้งหน่วยงานในพื้นที่ซ้ำซ้อน ขาดเอกภาพ ไม่มีรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นตัวหลัก โอกาสที่กลุ่มก่อความไม่สงบเติบโต มีกำลังเพิ่ม การไปสู่การแบ่งแยกดินแดนง่ายขึ้น”
วันนี้ (2 ก.ย.) นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการเผาธงชาติไทย และปักธงชาติมาเลเซีย เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยกลุ่มก่อความไม่สงบปฏิบัติการพร้อมกับ 102 จุด สะท้อนให้เห็นว่า มีการวางแผนกันมายาวนาน เพื่อต้องการให้ไทยและเพื่อนบ้านระแวงกัน เป็นการต่อสู้อีกรูปแบบหนึ่งที่ส่งสัญญาณยังรัฐบาล และแนวโน้มสถานการณ์จะขยายออกกว้างกว่าเดิมแน่นอน รัฐบาลต้องเปิดใจให้กว้างกว่าที่เป็นอยู่ รับฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่าย หากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลพูดแล้ว โฆษกรัฐบาลกลับกล่าวหาจ้องล้มทำลายรัฐบาล
นายนิพนธ์ เปิดเผยว่า หากพิจารณากันให้ครบถ้วนของเหตุการณ์ ตนจะพูดว่าเป็นความล้มเหลวของการข่าวทุกหน่วยที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ทั้งที่ทุกหน่วยได้ของบประมาณเพื่อทำงานด้านการข่าวทุกหน่วย แต่กลับการข่าวไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ฝ่ายตรงข้ามปฏิบัติการพร้อมกัน 100 จุด สะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนที่ไม่คุ้มทุน กรรมาธิการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณสภาผู้แทนราษฏร จะต้องเข้าไปตรวจสอบการใช้งบประมาณการข่าวทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
“ผมทำงานในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้มายาวนานพอสมควร ผมวิเคราะห์ได้ว่า ต่อไปนี้การทำงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ยากขึ้น เมื่อรัฐบาลตั้งหน่วยงานในพื้นที่ซ้ำซ้อน ขาดเอกภาพ ไม่มีรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นตัวหลัก โอกาสที่กลุ่มก่อความไม่สงบเติบโต มีกำลังเพิ่ม การไปสู่การแบ่งแยกดินแดนง่ายขึ้น”
