ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สงขลาติวเข้มเครือข่ายภาคประชาชนด้านการข่าว พัฒนาศักยภาพเครือข่ายในการแจ้งข้อมูลข่าวสาร ต่อต้านการก่อการร้ายชายแดนสงขลา 4 อำเภอ
วันนี้ (19 ก.ค.) ที่โรงแรมพาวีเลี่ยน อ.เมืองสงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดโครงการฝึกอบรมพัฒนา และขยายเครือข่ายประชาชนด้านการข่าว มีประชาชนเครือข่ายด้านการข่าวจากอำเภอต่างๆ ใน จ.สงขลา เข้าร่วมอบรมประมาณ 100 คน มีนายวิโรจน์ ทัฬหาวาสน์ นายอำเภอเมืองกล่าวรายงาน
นายวิโรจน์ กล่าวว่า จ.สงขลา มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่มีเจตนารมณ์ที่จะแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ จ.สงขลา ประกอบด้วย อ.จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และ อ.เทพา มีการก่อความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนถึงพื้นที่ในชุมชนเมืองของ จ.สงขลา ใน อ.หาดใหญ่ และ อ.เมือง เหตุการณ์เกิดขึ้นแต่ละครั้ง ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาจะต้องให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในทุกด้าน ที่สำคัญอย่างยิ่ง งานด้านการข่าว เพื่อมุ่งเน้นการปฏิบัติงานข่าวเชิงลึก เพื่อสืบสภาพ และค้นหาเป้าหมาย แกนนำองค์กร ด้วยการวิเคราะห์เชื่อมโยงข้อมูลในการกำหนดความสัมพันธ์ของเครือข่าย และโครงสร้างองค์กรของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ จึงได้จัดตั้งแหล่งข่าวภาคประชาชน และระบบการแจ้งเตือนเหตุร้าย มีการอบรมในครั้งนี้ขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพสมาชิกเครือข่ายข่าวให้สามารถแจ้งข้อมูลข่าวสารต่อทางราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (19 ก.ค.) ที่โรงแรมพาวีเลี่ยน อ.เมืองสงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดโครงการฝึกอบรมพัฒนา และขยายเครือข่ายประชาชนด้านการข่าว มีประชาชนเครือข่ายด้านการข่าวจากอำเภอต่างๆ ใน จ.สงขลา เข้าร่วมอบรมประมาณ 100 คน มีนายวิโรจน์ ทัฬหาวาสน์ นายอำเภอเมืองกล่าวรายงาน
นายวิโรจน์ กล่าวว่า จ.สงขลา มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่มีเจตนารมณ์ที่จะแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ จ.สงขลา ประกอบด้วย อ.จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และ อ.เทพา มีการก่อความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนถึงพื้นที่ในชุมชนเมืองของ จ.สงขลา ใน อ.หาดใหญ่ และ อ.เมือง เหตุการณ์เกิดขึ้นแต่ละครั้ง ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาจะต้องให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในทุกด้าน ที่สำคัญอย่างยิ่ง งานด้านการข่าว เพื่อมุ่งเน้นการปฏิบัติงานข่าวเชิงลึก เพื่อสืบสภาพ และค้นหาเป้าหมาย แกนนำองค์กร ด้วยการวิเคราะห์เชื่อมโยงข้อมูลในการกำหนดความสัมพันธ์ของเครือข่าย และโครงสร้างองค์กรของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ จึงได้จัดตั้งแหล่งข่าวภาคประชาชน และระบบการแจ้งเตือนเหตุร้าย มีการอบรมในครั้งนี้ขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพสมาชิกเครือข่ายข่าวให้สามารถแจ้งข้อมูลข่าวสารต่อทางราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ