พัทลุง - ชาวนาใน อ.เมืองพัทลุง จำต้องปล่อยให้ต้นข้าวยืนตายจากภาวะแล้งจัด และไม่สามารถหาน้ำจากแหล่งอื่นมาให้ต้นข้าวได้ ส่วนอำเภอรอบนอกแม้จะอาศัยน้ำจากชลประทาน แต่ก็ยังมีปริมาณไม่พอเพียง ได้แค่บรรเทาไประดับหนึ่งเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ชาวนาในพื้นที่ ต.พญาขันต์ อ.เมืองพัทลุง ยังคงต้องปล่อยให้ต้นข้าวยืนต้นแห้งตายบนแปลงนานับพันไร่ หลังจากปริมาณน้ำฝนทิ้งช่วง ทำให้แหล่งน้ำตามธรรมชาติแห้งขอดลง จนไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว และไม่สามารถหาน้ำจากแหล่งอื่นได้ ดังนั้น ชาวนาจึงจำต้องปล่อยให้ต้นข้าวในแปลงนาต้องทนอยู่สภาพความแห้งแล้ง
ส่วนในพื้นที่ ต.ชัยบุรี อ.เมือง, ต.มะกอกเหนือ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่ม และอยู่ในเขตพื้นที่ชลประทาน ทางจังหวัดได้นำเครื่องสูบน้ำมาทำการสูบน้ำจากทะเลสาบ และผันน้ำไปยังคลองชลประทานส่งน้ำเพื่อเข้าสู่แปลงนา แต่ปริมาณน้ำก็ยังมีไม่พียงพอ
ในขณะที่ทางจังหวัดพัทลุงได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินภัยแล้งเพิ่ม 5 อำเภอ รวม 8 อำเภอ 52 ตำบล 529 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง, ควนขนุน, บางแก้ว, ป่าพะยอม, เขาชัยสน, กงหรา, ศรีบรรพต และปากพะยูน