กระบี่ - การไฟฟ้าฝ่ายผลิตกระบี่ เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการขยายโรงไฟฟ้าถ่านหิน ผู้ว่าฯ ติงอย่าเพิ่งคุยสร้างโรงไฟฟ้า ให้รอผลการศึกษาเสร็จก่อน ส่วนจะได้สร้างหรือไม่ อยู่ที่ ปชช.เป็นใหญ่ ขณะที่ชาวบ้านวอนหามาตรการป้องกันอย่างเข้มข้นในเรื่องของผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
เวลา 09.00 น.วันนี้ (25 ส.ค.) นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) หรือเรียกว่า ค.1 ของโครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ ขนาด 870 เมกะวัตต์ โดยใช้ถ่านหินคุณภาพดี นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกในการศึกษาวิเคราะห์ โดยใช้ระยะเวลา 2 ปี จัดขึ้นที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 2 อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมประมาณ 400 คน
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับโครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ และทะเลชายฝั่งอันดามัน ถึงแม้ว่าจะมีความจำเป็นเพียงใด แต่ต้องคำนึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ และอย่าเพิ่งบอกประชาชนว่าจะสร้างโรงไฟฟ้า เพราะขณะนี้ ยังอยู่ในขั้นของการศึกษาผลกระทบเท่านั้น ส่วนจะได้สร้างหรือไม่นั้น ต้องรอให้ผลการศึกษาผ่านไปเสียก่อน และหากว่าผลการศึกษาผ่านก็จริง แต่ยังไม่ที่พอใจของประชาชนก็ต้องมีการศึกษาเพิ่มต่อไป
สำหรับการศึกษาผลกระทบมีระยะเวลา 2 ปี โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดขอบเขต และแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และขั้นตอนต่อไป เป็นการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในขั้นตอนการประเมินและจะทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ ส่วนขั้นตอนสุดท้ายเป็นการับฟังความคิดเห็นเพื่อทบทวนร่างรายงาน ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2556 และฝากไปยังบริษัทที่ปรึกษาขอให้นำข้อมูลที่เป็นจริง อย่าเอาความคิดเห็นความรู้สึกของตัวเองมาเสนอ เพราะจะทำให้ความขัดแย้งตามมาในอนาคต
นายวิชาญ ชูศรี ส.อบต.หมู่ 4 ต.ปกาไสย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ กล่าวว่า การก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาอยู่ในขณะนี้ เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างแน่นอน อยากจะขอให้ทางโรงไฟฟ้าช่วยหามาตรการในการป้อง และลงมาแก้ไขปัญหาอย่างจริง และเข้มข้น เพราะที่ผ่านมา ผลกระทบจากโรงไฟฟ้าเก่าก็มีให้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านสุขภาพอนามัยของประชาชน พบว่าต้องไปหาหมอกันเพิ่มมากขึ้น โดยส่วนใหญ่เชื่อว่ามาจากผลกระทบจากโรงไฟฟ้า