พัทลุง - ไฟที่ลุกไหม้ในป่าพรุสวนพฤกษศาสตร์พัทลุงมานานเกือบ 1 เดือนทำลายระบบนิเวศย่อยยับ คาดต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปีจึงจะสมบูรณ์เหมือนเดิม ขณะเดียวกัน จนท.ยังเฝ้าระวังพื้นที่ใจกลางป่าพรุซึ่งมีไฟคุกรุ่นและขุดน้ำใต้ดินมาดับอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองยวน และสวนพฤกษศาสตร์พัทลุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ หลังชุดเสือไฟจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ระดมกำลัง 300 นาย เข้ามาช่วยดับไฟนานเกือบ 1 สัปดาห์ แต่ยังพบอีกว่าพื้นที่กลางใจป่าพรุในสวนพฤกษศาสตร์ยังคงมีไฟครุกรุ่น เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าขุดน้ำใต้ดินมาดับไฟอย่างต่อเนื่อง แม้ฝนที่ตกลงมาจะสร้างความชุ่มชื้นแก่ป่าได้บ้างในช่วงนี้ แต่ก็ถือว่ายังน้อยมาก เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังต่อไป
นายธราทร แก้วพลับ หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์พัทลุง เปิดเผยว่า ไฟที่ลุกไหม้ในป่าพรุสวนพฤกษศาสตร์พัทลุงมานานเกือบ 1 เดือนนั้นได้ทำลายระบบนิเวศของพื้นที่ป่าพรุแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ต้นเสม็ดขาวอายุนับร้อยปีก็ถูกไฟเผาทำลาย สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำและสัตว์ผิวดินอื่นได้ตายลงเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังทำลายแหล่งทำรังวางไข่ของนกน้ำประจำถิ่นและนกอพยพอีกหลายจุด ทำให้สัตว์ป่าที่เหลือต้องย้ายถิ่นออกไป และคาดว่าผืนป่าแห่งนี้จะต้องใช้เวลาฟื้นตัวไม่ต่ำกว่าสิบปีกว่าจะได้ป่าเสม็ดที่สมบูรณ์กลับมาอีกครั้ง
