xs
xsm
sm
md
lg

ประติมากรรมล้ำค่าใน “ถ้ำภูผาเพชร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประติมากรรมอันล้ำค่าในถ้ำภูผาเพชร เป็นความงดงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นมา เสมือนเพชรเม็ดงามที่เจียระไนแล้ว เชยชมความสวยงามด้วยจินตนาการ เป็นมหาวิทยาลัยธรรมชาติที่ศึกษาได้ไม่จบสิ้น เป็นมรดกแผ่นดินที่เลื่องลือไปทั่วโลก

 
ชื่อเดิมของถ้ำภูผาเพชร คือ “ถ้ำลอด ถ้ำยาว หรือถ้ำเพชร” เนื่องจากถ้ำมีความยาว ลักษณะคดเคี้ยว แบ่งเป็นหลายตอน ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย เมื่อกระทบกับแสงไฟ ผนังถ้ำมีประกายแวววาวเหมือนเพชร จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำเพชรก่อน ภายหลังจึงเปลี่ยนชื่อเต็มอย่างเป็นทางการว่า “ถ้ำภูผาเพชร”

เมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว ถ้ำภูผาเพชรถือเป็นแหล่งพักพิงของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ มีการค้นพบหลักฐานกระดูกมนุษย์โบราณส่วนกะโหลกศีรษะ เศษภาชนะดินเผาเคลือบลายเชือกทาบ และกระดูกสัตว์ เปลือกหอย บรรจุในภาชนะดินเผา สันนิษฐานว่า มนุษย์สมัยก่อนน่าจะใช้ประกอบพิธีทางศาสนา ก่อนที่ถ้ำแห่งนี้จะถูกกาลเวลากลืนหายไป กระทั่งปี พ.ศ.2534 ประวัติศาสตร์ของถ้ำภูผาเพชรได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง โดยการค้นพบของพระธุดงค์นามว่า “หลวงตาแผลง” ก่อนที่สำนักงานโบราณคดีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 10 ร่วมกับราษฎรในพื้นที่จะทำการสำรวจถ้ำ และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
จุดพักเหนื่อยหน้าปากถ้ำ
 
ถ้ำภูผาเพชร ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ม.9 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ ก่อนจะเข้าถ้ำก็ต้องฟิตร่างกายกันหน่อย เพราะระยะทางกว่าจะถึงปากถ้ำเราต้องเดินขึ้นบันไดไต่เขาจำนวน 342 ขั้น ก็ไม่เบาเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องห่วงสำหรับผู้สูงอายุ หรือใครที่หมดแรง ก็จะมีจุดที่พักให้ระหว่างทาง และเมื่อขึ้นไปถึงบริเวณปากถ้าก็จะมีไกด์นำทางเพื่อจะพาเราเข้าไปในถ้ำ โดยครั้งนี้ “เที่ยวท่องล่องใต้” มีนายจำเนียร หนูชุม ไกด์รุ่นเก๋า เป็นคนนำทาง กระซิบมาว่า เป็นมัคคุเทศก์มาตั้งแต่ถ้ำเริ่มเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าสำรวจถ้ำครั้งแรกด้วย
ปากทางเข้าถ้ำ
 
ก่อนเข้าไปในถ้ำ ลุงจำเนียรก็เล่าประวัติที่มาของถ้ำให้เราได้ฟังคร่าวๆ ว่า ถ้ำแห่งนี้มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 50 ไร่ คือ ในส่วนที่เราจะเข้าไปชมได้ ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย และเป็นอันดับ 4 ของโลก ถ้ำภูผาเพชรถูกค้นพบโดยพระธุดงค์ ซึ่งท่านนั่งสมาธิเห็นในนิมิต เมื่อปี พ.ศ.2534 แต่ช่องทางแรกที่ค้นพบนั้นเข้าไปค่อนข้างลำบาก เมื่อปี 2540 จึงมีการเปิดเจาะช่องทางใหม่ คือ ช่องทางปัจจุบันซึ่งเป็นทางแคบๆ ที่ต้องลอดเข้าไป

ก่อนเข้าถ้ำ ลุงจำเนียร และไกด์ทุกคนต้องขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยว 4 ข้อคือ
1ไม่ส่งเสียงดัง 2.ไม่สูบบุหรี่ 3.ไม่ทิ้งขยะ และ 4.ห้ามจับหินงอกหินย้อย เพราะจำทำให้หินตาย และจะไม่งอกใหม่อีกเลย
ลุงจำเนียร ซึ่งเป็นไกด์กำลังชี้แจงขอความร่วมมือก่อนเข้าถ้ำ
 
เมื่อรับทราบข้อตกลงขอความร่วมมือกันแล้ว เราก็มุดปากถ้ำเข้าไปศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมชาติกันเลย ซึ่งต่อไปนี้ จะพบกับประติมากรรมที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา และเราต้องมีจินตนาการเป็นของตัวเอง เราก็จะสามารถมองเห็นทุกอย่างที่อยู่ในถ้ำได้อย่างเพลิดเพลิน และสนุก พร้อมกับต้องตะลึงกับสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา

ภายในถ้ำเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ หรือ 20,000 ตารางวานั้น จะแบ่งเป็นห้องเล็กห้องน้อยประมาณ 20 ห้อง ชื่อเรียกต่างกันออกไป เช่น ห้องปะการัง มีหินงอกหินย้อยคล้ายปะการังในทะเล ห้องเห็ด เต็มไปด้วยรูปดอกเห็ดขนาดต่างๆ ห้องม่านเพชร ลักษณะคล้ายผ้าม่านแขวนเป็นหลืบซ้อนกัน
มีสะพานไม้ให้เดินชมภายในถ้ำได้อย่างสะดวก
 
ห้องโถงใหญ่ซึ่งอยู่ประมาณกลางถ้ำ รูปทรงหินที่มองเห็นตามจินตนาการจะประกอบด้วย หัวพญานาคซึ่งต้องส่องไฟไปแล้วเราจะเห็นที่เงามีลักษณะคล้ายกับหัวพญานาค ถัดมาทางขวามือ คือ พระพุทธรูป ฝั่งซ้าย คือ พระฤาษี โดมศิลาเพชร และเจ้าแม่กวนอิม รวมถึงอ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่มีน้ำหยดลงมาตลอดทั้งปีจากเพดานถ้ำ

นอกจากนี้ ก็จะมีห้องพญานาคเห็นหินงอกต่อตัวกันคล้ายงูใหญ่ หรือพญานาค ส่วนห้องลานแสงมรกตจะมีสีเขียว ส่องแสงระยิบระยับคล้ายสีของมรกต ล้วนเป็นการรังสรรค์ของธรรมชาติโดยแท้
ก่อนจะลงสู่ห้องโถงใหญ่ มีหัวพญานาคปะการัง ซึ่งต้องใช้ไฟส่องจึงจะเห็นเงาเป็นหัวพญานาค
พระพุทธรูป
เจ้าแม่กวนอิม
อ่างน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะมีน้ำหยดลงมาจากเพดานถ้ำตลอดทั้งปี
โดมศิลาเพชร
 
**ขอไว้สำหรับนักท่องเที่ยว และผู้ที่กำลังจะเข้าไปชมประติมากรรมที่งดงามในถ้าภูผาเพชร ว่า “ดูแต่ตา มืออย่าต้อง ของจะเสีย” เพราะมีคนไปจับหินงอกหินย้อยกันเยอะมาก จนปัจจุบัน หินที่เคยสวยงามตายไปเยอะแล้ว เพราะน้ำมือมนุษย์**




ห้องเพชร จะมีแสงเพชรระยิบระยับแวววาว
สะพานไม้สร้างเมื่อปี พ.ศ.2548

ห้องสายน้ำเพชร
ลานคอนเสิร์ต มีลักษณะเป็นชั้นๆ คล้ายเวทีคอนเสิร์ต

ลานแสงมรกต

 
สำหรับการเดินทางจากตัวเมืองสตูล ไปตามถนนสายสตูล-หาดใหญ่ ถึงสามแยกนิคมควนกาหลง เลี้ยวซ้ายผ่านที่ว่าการอำเภอควนกาหลง ถึงสามแยกผัง 1 ต.อุใดเจริญ เลี้ยวขวาเข้าสู่อำเภอมะนัง ถึงสี่แยกบ้านผังปาล์ม 1 เลี้ยวซ้ายตรงไป 1 กม. ถึงสี่แยกบ้านไทรทองแล้วเลี้ยวขวา เข้าไปยังถ้ำภูผาเพชร พอถึงแยกบ้านปากคอกตรงไปถึงโรงเรียนบ้านป่าพน จากนั้น เลี้ยวซ้ายตรงไปอีก 8 กม.ก็จะถึงถ้ำภูผาเพชร เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 30 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น