พัทลุง - สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยยังคงมีไฟคุกรุ่นเป็นบางจุด เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่แรมซ่าไซร์หวั่นมีคนแอบเผาเพิ่ม ด้านชาวบ้านกลุ่มผลิตภัณฑ์เสื่อกระจูดเดือดร้อนหนัก หลังแปลงนากระจูดถูกไฟไหม้ พ่อค้าหัวใสฉวยโอกาสขึ้นราคา ไม่มีวัตถุดิบส่งผลให้ยอดขายตก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองยวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ในช่วงเช้าวันนี้ ยังมีกลุ่มไฟใต้ดินที่ลุกไหม้ตามโคนต้นเสม็ดขาว ยังคงคุกรุ่นเป็นบางจุด และโหมหนักเป็นช่วงๆ แม้เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติงานกันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมไฟให้อยู่ในพื้นที่จำกัดได้ เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ฝนยังไม่ตกลงมา เหมือนกับพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แม้ในช่วงเย็นที่ผ่านมา ท้องฟ้า และกลุ่มฝนจะมืดครึ้มก็ตาม แต่กระแสลมได้พัดพากลุ่มเมฆหายไปทำให้อากาศยังคงร้อนเหมือนทุกวัน
ส่วนกำลังชุดเฉพาะกิจอีกส่วนหนึ่งได้กระจายกำลังเฝ้าดูสถานการณ์รอบเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อีก 8 จุด โดยเฉพาะพื้นที่แรมซาไซร์ หรือพื้นที่ชุ่มน้ำโลกเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มชาวบ้าน และนายทุนแอบเผาป่าเสม็ด เพื่อทำให้ป่าเสื่อมโทรมก่อนที่จะทำแปลงเกษตรต่อไป
ในขณะที่กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรปลายตรอกร่วมใจ (โรงฟาง) หรือที่รู้จักกันในนามกลุ่มผลิตภัณฑ์เสื่อกระจูด ซึ่งเป็นสินค้าโอทอป 5 ดาว ของจังหวัดพัทลุง ส่งจำหน่ายทั้งใน และต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่นซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนต่อเดือนกว่า 150,000 บาท มีสมาชิก 65 ราย มีรายได้ต่อคนต่อเดือนเฉลี่ย 5,000-6,000 บาท ล่าสุด ทางกลุ่มได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักหลังไฟป่าไหม้แปลงนากระจูดทั้งฝั่งจังหวัดนครศรีธรรมราช และฝั่งจังหวัดพัทลุง พ่อค้าหัวใสฉวยโอกาสปรับราคาขึ้นกว่าเท่าตัว
นางแก้ว รักษ์แก้ว อายุ 68 ปี สมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรปลายตรอกร่วมใจ (โรงฟาง) อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.9 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง กล่าวว่า ทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม หรือภัยแล้ง โดยเฉพาะไฟไหม้ป่าพรุทางกลุ่มได้รับผลกระทบมากสุด เนื่องจากพื้นที่ไฟไหม้ส่วนหนึ่งเป็นแปลงนากระจูดที่ชาวบ้านปลูกไว้ ล่าสุด กระจูดที่นำมาทำเสื่อ กระเป๋า หมวก ตลอดถึงของชำร่วยต่างๆ เริ่มขาดแคลน บรรดาเหล่าพ่อค้ากระจูดต่างพร้อมใจกันขึ้นราคา จากเดิมกำละ 20 บาท เป็น 30 บาท และขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และกระทบทั้งระบบ เพราะราคาผลิตภัณฑ์ก็ต้องบวกเพิ่ม แต่ลูกค้ากลับต้องการราคาเดิม ทำให้ยอดขายตกวูบ จากเดิมมีรายได้ต่อเดือน 150,000 บาท เหลือเพียง 70,000 บาทเท่านั้น ในขณะเดียวกัน รายได้ต่อเดือนของสมาชิกก็ต้องลดลงตามไปด้วย