ยิงหนุ่มปัตตานีสายข่าวทหารดับก่อนถึงบ้านแค่อึดใจ

ปัตตานี - คนร้ายซุ่มยิงสายข่าวทหาร นย.บ้านจลาโก และเป็นพยานเจ้าหน้าที่คดีพบคลังแสงเสียชีวิต ผู้ตายรู้ตัวมีคนซุ่มข้างทาง จึงดับเครื่องเข็นรถ จยย.เข้าบ้าน อีกเพียง 70 เมตร แต่คนร้ายไม่รามือ กราดอาวุธปืนสงครามใส่กว่า 10 นัด เสียชีวิตคาที่ทันที

วันนี้ (10 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.อาซิส อุมายี ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี พ.ท.ท.พัฒนพงศ์ ทองด้วน รอง ผกก.สายบุรี พ.ต.ท.นิวัฒน์ ฐิติพันธุ์กุลเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปัตตานี ร.ต.ท.สยบมาร ไมตรีจร เจ้าหน้าที่เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ตชด. 444 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สีเหลือง-ดำ หมายเลขทะเบียน กทจ 151 ปัตตานี ซึ่งเป็นของผู้ตาย สภาพรถบริเวณกระจกไฟหน้าถูกยิงเป็นรูพรุน มีรอยเลือดหยดเป็นกองบริเวณพื้นถนนทางเข้า-ออกของบ้านผู้ตาย ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 50 เมตร

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงครามเอชเค และเอ็ม 16 ตกอยู่ 2 จุด จำนวน 12 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ไหนบ้าง ส่วนศพผู้ตาย ญาติได้นำไว้ที่บ้านก่อนแล้ว สภาพศพถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ แผ่นหลัง หัวไหล่ และแขน

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวกลับมาจากร้านน้ำชาภายในหมู่บ้านเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน ระหว่างทางก่อนถึงบ้านประมาณ 70 เมตร พบเห็นเหมือนมีคนซุ่มอยู่ ผู้ตายจึงได้จอดแล้วดับเครื่องเพื่อเข็นรถกลับบ้าน แต่คนร้ายไม่ยอมรามือ ได้ลั่นไกทันทีเป็นเหตุผู้ตายล้มลงพร้อมรถจักรยานยนต์กลางถนน

จากนั้น คนร้ายที่ดักรออีกจุดหนึ่งเข้ามายิงซ้ำ ก่อนที่จะหยิบอาวุธพกสั้นขนาด 9 มม. และกระเป๋าพร้อมเงินสดจำนวน 30,000 บาทหลบหนีไปด้วย ส่วนประเด็นสาเหตุ เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นการก่อเหตุไม่สงบในพื้นที่ เนื่องจากผู้ตายประกอบอาชีพเพาะชำต้นกล้ายาง รับส่งเสื้อชุดแต่งกายมุสลิม และยังทำหน้าที่การข่าวให้แก่ทหาร นย.พัน ร.8 กรม ร.3 ฉก.ปัตตานี
 
นอกจากนี้ ยังเป็นพยานเจ้าหน้าที่คดีพบคลังแสงในพื้นที่บ้านจลาโก เมื่อปี พ.ศ.2548 ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปัตตานี ส่วนศพนั้น ญาติได้นำไปประกอบพิธีทางหลักศาสนาอิสลามเมื่อเวลา 11.00 น. ของเช้าวันนี้ โดยมีผู้นำศาสนา ประชาชนในพื้นที่ และพื้นที่ตำบลข้างเคียงเข้าร่วมพิธีละหมาดญานาซะห์ หรือละหมาดเนื่องในพิธีศพเป็นจำนวนมาก