นครศรีธรรมราช - วิกฤตป่าพรุควนเคร็งอีกระลอก ไฟป่าโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่ายืนยันวิกฤตหนักกว่ารอบแรกหลายเท่า เผยมีความพยายามลักลอบเผาแปลงศึกษาป่าเสม็ดขาวครบวงจรในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.
วันนี้ (9 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ในการลักลอบเผาป่าพรุควนเคร็งในพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบไปด้วย อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอหัวไทร อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอชะอวด และอำเภอร่อนพิบูลย์ ยังคงวิกฤตอีกระลอก หลังจากช่วง 3 วันที่ผ่านมามีการลักลอบเผาป่าพรุนับสิบจุด บางจุดได้ลุกลามสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง กลุ่มควันพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้านับร้อยเมตร สร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่รวมแล้วหลายพันไร่
โดยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ากุมแป ซึ่งเป็นกลุ่มป่าที่อยู่ในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ท้องที่หมู่ 4 ตำบลบ้านตูล อำเภอชะอวด ไฟได้ถูกลักลอบเผาในกลางป่าพรุ และลุกลามโหมอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องกระจายกำลังเข้าควบคุมในหลายจุดด้วยกัน ซึ่งมีรายงานการเกิดไฟในลักษณะเช่นนี้เป็นวงกว้าง และหลายจุด ไฟได้ลุกลามเชื่อมต่อกัน เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างหนักแต่ยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าที่รุนแรงเช่นนี้ได้
นายธนากร รักธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่า ไฟป่าระลอกนี้ ถูกลักลอบเผามาอย่างต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ มีรายงานการพบการจุดไฟนับสิบจุดต่อวัน เจ้าหน้าที่พยายามเร่งดับไฟอย่างหนักทั้งวันทั้งคืน บางจุดต้องพบกับไฟมุดลงใต้ดินเผาไหม้ชั้นเศษซากพืชที่ทับถมหนาเป็นเมตร ลักษณะนี้ ป่าจะเสียหายอย่างสินเชิง ต้องสูบน้ำในคลองเข้าช่วย ขณะที่ฝนได้ทิ้งช่วงเป็นเวลานานนับเดือนแล้ว ทำให้พื้นล่างของป่าพรุมีความแห้งแล้ง ชาวบ้านจึงจุดไฟเผาป่าหมายครอบครองที่ดิน ส่วนความเสียหายในขณะนี้ ยังไม่สามารถประเมินอย่างเป็นทางการได้ เนื่องจากยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ทำการวัดพิกัดทางดาวเทียมข้อมูลจึงยังไม่แน่นอน แต่เท่าที่ประมาณการนั้น เมื่อรวมกับความเสียหายระลอกแรก พื้นที่เสียหายไปหลายพันไร่
“ขณะนี้ สถานการณ์กำลังหนักหน่วงอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ากุมแป ช่วงหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 4 บ้านตลาดปลา ตำบลบ้านตูล และป่าสงวนแห่งชาติป่าควนเคร็ง ในพื้นที่ตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด และอีกจุด จะอยู่ที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าช้างข้าม รวม 3 จุด โดยเฉพาะแปลงหลังใกล้กับแปลงป่าเสม็ดขาวครบวงจรของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ซึ่งยังไม่ได้รับผลกระทบ เจ้าหน้าที่กำลังวิตกมาก และกำลังเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.ที่สำคัญ พบร่องรอยของการพยายามเผาป่าแปลงนี้ด้วย” หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริกล่าว
นายธนากรยังกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความยากลำบากมาก เนื่องจากมีความพยายามลักลอบเผาหลายจุดด้วยกัน มีไฟเกิดขึ้น และต้องเข้าไปคุมให้ได้อย่างน้อย 2-3 จุดต่อวันนอกจากที่ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เสือไฟจากจังหวัดนครราชสีมา และใกล้เคียงหลายจังหวัดในภาคอีสานลงมาช่วยสนับสนุนในการดับไฟป่าที่เกิดขึ้นระลอกนี้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ได้ประสานยังกองทัพภาคที่ 4 เพื่อขอกำลังทหารเข้ามาปฏิบัติการสนับสนุนร่วมดับไฟป่า เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ปกติมีไม่เพียงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้