ยะลา - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมสนองนโยบายดับไฟใต้ของรัฐบาล เผยความคืบหน้าด้านคดีในพื้นที่ พบหลักฐานจาก 3 เหตุการณ์ล่าสุดที่ อ.รามัน จ.ยะลา และ อ.มายอ จ.ปัตตานี เชื่อมโยงกัน คนร้ายน่าจะเป็นของ “อุสตาชรอฮิง อาซ่อง” แกนนำระดับสั่งการ
เวลา 09.00 น.วันนี้ (9 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าด้านคดีทั้ง 3 เหตุการณ์นี้ แนวทางการสืบสวนสอบสวน แผนการประกอบระเบิด จยย.บอมบ์ หน้าธนาคารอิสลาม สาขารามัน กับเหตุระเบิดตำรวจตระเวนชายแดน ในเขตเทศบาลนครยะลา พบว่า เป็นระเบิดที่มีการประกอบแบบเดียวกัน
ส่วนผลตรวจปลอกกระสุนปืนที่พบที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่ ต.ท่าธง อ.รามัน ก็ไปตรงกับผลของปลอกกระสุนปืนคนร้ายที่ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี และอีกหลายเหตุการณ์ที่พบความเชื่อมโยงของปลอกกระสุนปืน ซึ่งหลักฐานที่พบนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อได้ว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มของนายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ หรือ อุสตาชรอฮิง อาซ่อง ซึ่งเป็นแกนนำระดับสั่งการที่รับผิดชอบพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา กับ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กล่าวว่า ส่วนกรณีระเบิดหน้าธนาคารอิสลาม สาขารามันนั้น ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และเชื่อว่าก็น่าจะเป็นกลุ่มแนวร่วมของนายอับดุลชรอฮิงเช่นกัน ส่วนจะเป็นผู้ใดที่ลงมือปฏิบัติการนั้น ขณะนี้พอที่จะรู้ตัวแล้ว แต่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง สำหรับเหตุระเบิดที่บ้านลีเซ็งใน ต.จะกว๊ะ อ.รามัน ที่ทำให้สารวัตรกำนัน และบุตรชายเสียชีวิตนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ออกติดตามหาข่าวสารของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว
พล.ต.ต.พีระ ยังได้กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมของนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานต่างๆ ที่ได้มีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการจัดทำเซฟตี้โซน ใน 7 หัวเมืองหลัก ซึ่งในส่วนของจังหวัดยะลา ก็จะเป็นเขต อ.เมือง อ.ธารโต และ อ.เบตง นั้นนโยบายดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาล หรือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีคำสั่งให้ปฏิบัติ ทางพื้นที่ก็มีความพร้อมที่จะปฏิบัติตาม ในกรณีที่จะสร้างความปลอดภัยให้ทั้ง 3 พื้นที่ดังกล่าว พื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา ขณะนี้ ก็มีความพร้อมและเข้มงวดในการปฏิบัติการร่วมกับทุกฝ่าย
ส่วนพื้นที่ อ.เบตง นั้น ตนเองไม่ค่อยจะเป็นห่วงเท่าไหร่ เนื่องจากในพื้นที่มีความเข้มแข็ง พี่น้องประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างดี ไม่มีปัญหา รวมทั้งการตรวจสอบ และป้องกันในพื้นที่ อ.เบตง นั้น จะสามารถดำเนินการได้ง่ายกว่าพื้นที่อื่น สำหรับพื้นที่ อ.ธารโต ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ป่าเขา ก็จะต้องมาดูว่านโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะให้ดำเนินการเช่นไร แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีความพร้อมในการสนองนโยบายในครั้งนี้