ยะลา - เกิดเหตุคนร้ายยิงชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ พื้นที่ ต.จะกว๊ะ อ.รามัน เป็นเป้าล่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ระหว่างทางกดชนวนระเบิดซ้ำ ส่งผลให้สารวัตรกำนัน-ลูกชาย เสียชีวิต และ ชรบ.ได้รับบาดเจ็บอีก 3 นาย
เวลา 19.55 น ช่วงค่ำที่ผ่านมา (7 ส.ค.) ศูนย์วิทยุ สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายมะตอเฮ มะสีละ อายุ 46 ปี ได้รับบาดเจ็บ ที่หมู่ 4 บ้านลีเซ็งใน ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา จึงได้แจ้ง พ.ต.ท.ภูไชยวัฒน์ นทีรัตน์ สารวัตรหัวหน้า สภ.จะกว๊ะ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบ
หลังรับแจ้ง นายอับดุลรอนิง มะสีละ อายุ 53 ปี สารวัตรกำนัน ต.จะกว๊ะ ได้นำอาสาสมัครชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เดินทางด้วยรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ หมายเลขทะเบียน บฉ 7199 ยะลา เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุชาวบ้านถูกยิงทันที เมื่อขับมาถึงที่ถนนภายในหมู่บ้านบ้านลีเซ็งใน ตรงบริเวณหัวสะพาน คนร้ายซึ่งได้ซุกระเบิดเอาไว้ใต้ผิวถนน ก็ได้จุดชนวนระเบิดขึ้นทันที ทำให้รถยนต์กระบะถูกแรงอัดของอานุภาพระเบิดลอยกระเด็นไปไกลกว่า 5 เมตร ตกลงกลางทุ่งนา สภาพพังยับเยิน ทำให้นายอับดุลรอนิง มะสีละ สารวัตรกำนัน ต.จะกว๊ะ เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย ชาวบ้านได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลรามัน ทราบชื่อ คือ นายมะยูโซะ มะสีละ อายุ 30 ปี ถูกสะเก็ดระเบิด ได้รับบาดเจ็บสาหัส นำส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์ยะลา นายจุมพล มะสีละ อายุ 23 ปี ถูกสะเก็ดระเบิด ได้รับบาดเจ็บ นายอารียะ แจ๊ะสะนิ อายุ 15 ปี ถูกสะเก็ดระเบิด ได้รับบาดเจ็บ และ นายธีรชิต วทา อายุ 17 ปี ถูกสะเก็ดระเบิด ได้รับบาดเจ็บ โดยล่าสุด นายมะยูโซะ มะสีละ บุตรชายนายอับดุลรอนิง มะสีละ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุ ในเวลา 21.00 น. พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา นำเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบว่า ที่ถนนทางเข้าบ้านลีเซ็งใน บริเวณหัวสะพาน เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดขนาดใหญ่ ที่เกิดจากอานุภาพของแรงระเบิด ซึ่งหลุมระเบิดดังกล่าวมีขนาดความกว้างประมาณ 5 เมตร ลึก 2 เมตร 30 ซม. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและ จนท.ชุดพิสูจน์หลักฐานที่เข้าตรวจสอบต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นหลุมระเบิดที่ใหญ่มาก ซึ่งไม่เคยเห็นอานุภาพการทำลายล้างของแรงระเบิดที่มีอานุภาพขนาดนี้ นอกจากนั้น ยังพบเศษถังแก๊สหุงต้ม และสายไฟ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้น เชื่อเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 50 กก. ที่คนร้ายบรรจุในถังแก๊ส แล้วนำมาซุกใต้ผิวถนน จุดชนวนด้วยระบบแบตเตอรี่ ส่วนสาเหตุคาดเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
