เป็นที่ฮือฮาไม่น้อยทีเดียว เมื่ออยู่ๆ 'นิพนธ์ ถาวรเศรษฐ' พี่ชายของ 'ธิดา ถาวรเศรษฐ' ประธาน นปช.(แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ) ประกาศกร้าวบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า “ตระกูลถาวรเศรษฐไม่ใช่เสื้อแดง” พร้อมมอบเงินสนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และร่วมเวทีเสวนาเดินหน้ารวมพลัง ปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี อีกทั้งยังยืนยันด้วยว่า พี่น้องส่วนใหญ่ในตระกูลถาวรเศรษฐนั้นเป็น “พันธมิตรฯ”
หลายคนจึงอดสงสัยไม่ได้ว่า อะไรที่ทำให้ “ธิดาแดง” มีแนวคิดที่แตกต่างจากพี่ๆ น้องๆ อย่างสุดขั้ว ชนิดฟ้ากับเหว ขณะที่พี่น้องร่วมเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องประเทศชาติ ธิดากลับภูมิอกภูมิใจกับตำแหน่งแกนนำคนเสื้อแดงที่ก่อโศกนาฏกรรมเผาบ้านเผาเมือง และจาบจ้วงบ่อนทำลายสถาบัน !!
'ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์' ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พูดคุยกับ 'นิพนธ์ ถาวรเศรษฐ' ถึงตัวตนของธิดาแดงว่า อะไรที่ทำให้เธอมีความคิดเช่นนั้น และญาติพี่น้องมองอย่างไรกับการเคลื่อนไหวในบทบาทแกนนำ นปช.ของเธอ
คุณนิพนธ์กับคุณธิดาเกี่ยวข้องทางเครือญาติกันอย่างไร
ผมน่ะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับธิดา คือพ่อเขาเป็นน้องของพ่อผม คือ ตระกูลเราเป็นคนสุราษฎร์ธานี ผมอยู่อำเภอท่าชนะ แต่รกรากเดิมของธิดาเขาอยู่อีกอำเภอหนึ่ง
พอเห็นคุณนิพนธ์ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ญาติๆ ว่ายังไงบ้าง
ตั้งแต่ผมขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ที่สยามธานีนะ เครือญาติเนี่ยโทร.มาหาผม แสดงความยินดีกับผมทั้งนั้นเลย แม้แต่น้องแท้ๆ ของธิดา ทุกคนก็บอกว่าพี่นิพนธ์ทำถูกต้องแล้ว คือที่ผ่านมา พอเห็นนามสกุลถาวรเศรษฐ คนทั่วไปที่ไม่รู้จักเราเขาก็มองเราอย่างเหยียดหยามว่าเราเป็นเสื้อแดง ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่เลย ไม่มีใครเห็นด้วยกับธิดาแม้แต่คนเดียว อย่างผมไปงานแต่งงานที่โรงแรมทวินโลตัส ที่นครศรีธรรมราช เพราะผมเป็นญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว ส่วนฝ่ายเจ้าสาวเป็นคนหาดใหญ่ ทีนี้พอเขาเชิญผมขึ้นไปรับน้ำชานะ ฝ่ายเจ้าสาวเขานินทาเลย พวกเสื้อแดง..พวกเสื้อแดง.. ซึ่งเหตุการณ์อย่างนี้เนี่ย ญาติพี่น้องที่นามสกุลถาวรเศรษฐเจอกันเกือบทุกคนเลย เราก็มาคุยกันว่า...ธิดาเอ๊ย มึงไม่น่ากลับมาใช้นามสกุลเดิมเลย ใช้นามสกุลของหมอเหวง (นพ.เหวง โตจิราการ สามีของธิดา) ก็หมดเรื่อง เราก็ไม่ต้องเดือดร้อน คือญาติๆ ส่วนใหญ่ก็อยู่กันอย่างสมถะ ไม่ได้มักใหญ่ใฝ่สูงอะไร
ผมเองก็ไม่ได้อยากดัง ไม่ได้ทะเยอทะยาน ที่ผมขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ก็เป็นเรื่องบังเอิญนะ ตอนแรกคุณสำราญ วิโรจน์ (นักวิชาการด้านการเกษตร) ซึ่งเป็นคนจัดงาน เขาบอกว่าคุณนิพนธ์ขึ้นเวทีหน่อยได้ไหม ไปเป็นตัวแทนมอบเงินให้ พล.ต.จำลอง (พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ) ผมก็บอกว่า อย่าเลย แต่คุณช่วยประกาศบนเวทีให้หน่อยว่าเงินบริจาคจำนวน 8,000 บาทที่แนวร่วมพันธมิตรฯ ในตลาดท่าชนะเขาฝากมาเนี่ย ผมมอบให้พันธมิตรฯ แล้วนะ เดี๋ยวเขาหาว่าผมอม คุณสำราญก็บอกว่าขึ้นไปหน่อยเถอะ ซึ่งเขาก็รู้มานานแล้วว่า ผมเป็นลูกพี่ลูกน้องกับคุณธิดา
ผมเลยบอก ถ้างั้นขอโอกาสชี้แจงว่านามสกุลถาวรเศรษฐซึ่งคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นเสื้อแดงเนี่ยจริงๆ แล้วไม่ใช่เสื้อแดง คนที่เฉยๆ ก็มี แต่คนที่เป็นเสื้อแดงเนี่ยมีแต่ธิดาเท่านั้น แม้แต่น้องชายแท้ๆ ของธิดาซึ่งเป็นทหาร คือ พล.อ.บุญชัย ถาวรเศรษฐ เขาก็เป็นพวกเสื้อเหลืองนะ เห็นเขาออกทีวีช่อง 13 สยามไท แล้วเขาก็เป็นเพื่อนกับ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานบริษัทเสียงประชาชน ซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการประจำสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม 13 สยามไทด้วย
ทราบว่าคุณนิพนธ์ก็เป็นพันธมิตรฯ
ผมเป็นแนวร่วมพันธมิตรฯ นะ แต่ผมมีแนวคิดที่ค่อนข้างจะเสรีอิสระ ถ้าเสื้อเหลืองเดินในทางที่ถูก รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราก็เดินตามเสื้อเหลือง แต่ถ้าเสื้อเหลืองเดินทางที่ผิด ผมก็ไม่เดินตามนะ ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับพันธมิตรฯ นะ แต่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ในเรื่องใหญ่ๆ เนี่ยเขาทำถูก ผมก็ขอเดินตามเสื้อเหลือง คนเราจะต่อสู้อะไรได้ก็ต้องมีผู้นำ เราต่อสู้คนเดียวก็ไม่สำเร็จ ในส่วนของญาติเนี่ยๆ ก็มีจิตใจที่เป็นเสื้อเหลือง แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้อออกมาเคลื่อนไหว ตอนชุมนุม 193 วัน แฟนผมไปอยู่ในทำเนียบฯ 100 กว่าวัน แต่ผมเองทำเนียบฯ ผมไม่เคยไป แต่ผมไปมัฆวานฯ หลายครั้ง แล้วก็บริจาคให้ตลอด ผมถือว่าเป็นคนแรกๆ ที่บริจาคในอำเภอท่าชนะ เวลาชุมนุมพันธมิตรฯ ก็มักจะมารวมกันที่บ้านผม เพราะบ้านผมค่อนข้างสะดวก และค่อนข้างกว้างขวาง คือเขาก็รู้กันทั้งท่าชนะว่า ผม และคนนามสกุลถาวรเศรษฐสนับสนุนเสื้อเหลือง แต่ก่อนก็มีคนสงสัยนะว่า ถาวรเศรษฐเป็นพวกเสื้อแดงหรือเปล่า แต่เดี๋ยวนี้คนท่าชนะไม่มีใครสงสัยเลย
แล้วญาติพี่น้องมองการเคลื่อนไหวของคุณธิดาซึ่งเข้าไปมีบทบาทเป็นแกนนำ นปช.อย่างไร
ก็มองด้วยความเป็นห่วงว่าเขาเดินในทางที่ไม่ถูก เพราะสิ่งที่เขาทำนั้น มันทำร้ายประเทศชาตินะ คือ ถึงความคิดทางการเมืองต่างกัน แต่เราก็หวังดีกับเขานะ แต่เราไปห้ามเขาก็ไม่ฟังหรอก ธิดาเขาไม่ฟังใครง่ายๆ ผมพูดเขาก็คงไม่ฟัง ผมเคยโทร.ไปเตือนเหมือนกัน แต่เขาไม่เคยฟังผมเลย เขาไม่ฟังใครเลย นิสัยเขาเป็นอย่างนั้น เขาถือดีน่ะ เครือญาติก็คิดว่าเขาเดินในทางไม่ถูกต้องหรอก ทางนั้นไม่มีทางจะทำให้ประเทศชาติและสังคมดีขึ้นหรอก อยู่กับคนชั่ว คิดง่ายๆ ว่ามีมิตรชั่วจะนำไปสู่ความเจริญได้หรือ
มีอยู่คนเดียวที่เตือนธิดาได้ คือ พี่สาวคนโตของผม ซึ่งตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว เขาเสียชีวิตเมื่อ ต.ค.2549 ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีคนเสื้อแดง ยังไม่มี นปช. คือคนเนี้ยเขาเตือนธิดาได้ เพราะเขาเลี้ยงธิดามาตั้งแต่เด็กๆ แต่ทุกวันนี้ไม่มีใครเตือนเขาได้
ทำไมคุณธิดาจึงมีแนวคิดสนับสนุนเสื้อแดง และระบอบทักษิณ ทั้งๆ ที่ญาติพี่น้องส่วนใหญ่ต่อต้านระบอบทักษิณ
คือเขาเคยเข้าป่าตอนช่วง 14 ตุลาฯ อยู่ 5 ปี ถ้าจะวิเคราะห์ว่าทำไมธิดาแตกต่างจากคนอื่นๆ ก็คิดว่า ธิดาคงตกหลุมอะไรสักอย่างหนึ่งในสมัย 14 ตุลาฯ ทีนี้เขาไม่สามารถขึ้นจากหลุมอันนี้ได้ หลุมอุดมการณ์ทางเมืองของเขาน่ะ ผมคิดอย่างนั้นนะ ถึงปัจจุบันความคิดเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย คือ เขามีแนวคิดไม่เอาสถาบัน เป็นปฏิปักษ์กับสถาบัน ซึ่งมันตรงกับแนวคิดของ นปช. บางกลุ่ม แต่แนวคิด และการกระทำของ นปช.มันสร้างความวุ่นวาย และความแตกแยกในประเทศทั้งนั้น ใครๆ ก็เห็นอยู่ ใครไม่รู้ก็เป็นควายแล้ว ธิดาก็ไปคบกับ นปช.รอบตัวเขาก็มีแต่คนเลว เขาคบมิตรเลว เขาก็ดีไปไม่ได้หรอก
แนวคิดของคุณธิดาช่วงก่อนเข้าป่าและหลังจากเข้าป่าช่วง 14 ตุลาฯ แตกต่างกันไหม
รายละเอียดเนี่ยผมก็ไม่รู้นะ แต่ธิดาเขามีลักษณะเป็นผู้นำทางการเมืองมาตลอด ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนนักศึกษา เขาอยู่ในกลุ่มผู้นำนักศึกษามาตั้งแต่สมัยอยู่ มศว อยู่จุฬาฯ คือไม่ว่าอยู่ที่ไหน เขาก็มักยืนอยู่แถวหน้า หัวรุนแรงหรือเปล่าเนี่ยไม่รู้ แต่เขาสนใจในการเมือง และแสดงตัวเป็นผู้นำมาตลอด
ที่ผ่านมาเราเห็นหมอเหวงเคลื่อนไหวทางการเมืองมาตลอด ก่อนที่ทักษิณจะเข้ามาเล่นการเมืองด้วยซ้ำ แล้วคุณธิดาเข้าร่วมเคลื่อนไหวด้วยหรือเปล่า
ก็คงเคลื่อนไหวเงียบๆ มั้ง อาจจะเป็นฝ่ายสนับสนุน แต่เขาไม่ได้ออกหน้านะช่วงนั้น มีหมอเหวง กับหมอสันต์ (นพ.สันต์ โตจิราการ) ที่ออกหน้า
มีคนสงสัยว่า ทำไมอยู่ๆ คุณธิดามาเป็นแกนนำ นปช.ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่มีใครเห็นบทบาทของคุณธิดาเลย แล้วคุณธิดาก็ไม่ได้เป็นแกนนำมวลชนเหมือนจตุพร พรหมพันธุ์ หรือณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่านิสัยของธิดาชอบเป็นผู้นำมาแต่ไหนแต่ไร เขาสนใจกิจกรรมทางการเมือง ชอบเป็นผู้นำมวลชน
เหมือนกับจับพลัดจับผลูเอาคุณธิดามาเป็นประธาน นปช.เพราะหาใครไม่ได้เลยดันคุณธิดาขึ้นมาหรือเปล่า
เขาอยากเองด้วยนะผมว่า ไม่ใช่เพราะถูกผลักดันอย่าเดียว เขาก็คงอยากด้วยแหละ เราก็ไม่เคยถามว่าเขามาเป็นแกนนำ นปช.ได้ยังไง
ญาติๆ มองว่าคุณธิดาถูกหลอกไหม
เขาคิดของเขาเอง ธิดาเป็นคนไม่ฟังใคร พี่น้องคิดว่าเขาไม่ได้ถูกหลอก แต่เขาคิดจะหลอกทักษิณ ขณะเดียวกัน ทักษิณก็คิดจะหลอกเขา คือ ธิดาเขาคิดว่าเส้นทางของเขามันไม่มีเพาเวอร์พอ จึงจะต้องอาศัยเส้นทางของทักษิณเพื่อไปสู่อุดมการณ์ของเขา ซึ่งทักษิณก็คิดแบบเดียวกับธิดา ต่างคนต่างก็คิดจะหลอกกัน แต่การเคลื่อนไหวของทักษิณและธิดาเนี่ยมันสร้างความเสียหายยับเยินแก่ประเทศชาติ ซึ่งแนวคิดทางการเมืองแบบไม่ยอมลดราวาศอกกันเนี่ย ส่งผลร้ายต่อประเทศชาติบ้านเมืองมากนะ
หลายคนสงสัยว่า คุณธิดากับหมอเหวงได้รับค่าตอบแทนในการเคลื่อนไหวจากคุณทักษิณหรือเปล่า
พวกญาติไม่คิดอย่างนั้นนะ เท่าที่รู้เนี่ย หลังออกจากป่า ธิดาเป็นนายหน้าค้าที่ดินอยู่พักหนึ่ง ทำให้มีฐานะดีขึ้น แล้วก็ไปเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดลอยู่ระยะหนึ่ง แล้วก็ลาออก เมื่อ 4-5 ปีก่อนธิดาไม่ค่อยมีเงินนะ เวลาจะทำอะไรธิดาก็ต้องให้น้องสาวเป็นสปอนเซอร์ ส่วนหมอเหวงเนี่ยเป็นคนขี้เหนียว ขี้เหนียวมากๆ ด้วย กระเหม็ดกระแหม่เก็บเงิน ธิดาจะแต่งเนื้อแต่งตัวจะไปไหนจะทำอะไร น้องสาวก็จะเป็นสปอนเซอร์ให้ ธิดาไม่ได้ร่ำรวย เขามีบ้านอาณาเขตใหญ่โตจริง อยู่แถวดอนเมือง แต่ธิดาไม่ค่อยมีเงินหรอก แต่เดี๋ยวนี้ ผมไม่รู้นะ ตอนนี้ฐานะเขาเป็นยังไงผมก็ไม่รู้ ส่วนหมอเหวงนี่หลังออกจากป่าเขาก็เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าอยู่ไม่นาน น่าจะสัก 2-3 ปี แล้วเขามีคลินิกอยู่แถวรัชดาฯ มั้ง แต่เขาไม่ได้รักษาคนไข้เอง จ้างหมอคนอื่นมาทำ ช่วงหลังเขายุ่งแต่เรื่องการเมือง เขากับหมอสันต์ (นพ.สันต์ หัตถีรัตน์) ก็ยุ่งแต่การเมือง แต่ผมไม่รู้ว่าหมอสันต์เขาลาออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อไรนะ
แล้วญาติพี่น้องมีปฏิกิริยายังไงกับคุณธิดา
ถ้าเจอกันเราก็คงไม่คุยเรื่องการเมือง แต่ความเป็นญาติยังเหมือนเดิม
ได้เจอคุณธิดาบ้างไหม
ผมไม่เจอคุณธิดามาประมาณ 4-5 ปีได้แล้วมั้ง ก็มีโทร.คุยกันทางโทรศัพท์บ้าง เจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2549 ตอนที่พี่สาวผมเสีย ธิดาเขามางานศพพี่สาวผม ก็ประมาณ 5-6 ปีมาแล้ว เขาก็มานอนที่บ้านผม คือ ทุกครั้งที่เขากลับมาสุราษฎร์ฯ ธิดาก็จะมาพักอยู่บ้านผม ตอนนั้นเขาก็ยังไม่ได้เข้าร่วมกับระบอบทักษิณนะ ตอนนั้น นปช.ยังไม่เกิด ส่วนหมอเหวงเองก็ยังขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ด่าทักษิณอยู่เลย หลังจากนั้น ผมก็ได้เจอกับธิดาอีกทีหนึ่งที่สำนักงานที่ดินธัญบุรี เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว
แต่ปกติเจอกันผมจะไม่คุยเรื่องการเมืองกับหมอเหวง และธิดานะ เพราะแนวความคิดทางการเมืองของเขากับของผมก็จะต่างกัน อยู่คนละขั้ว ไปคนละทาง หมอเหวงมาที่นี่ (จ.สุราษฎร์ธานี) เราก็ไม่คุยเรื่องการเมือง กับธิดาก็คุยกันเรื่องญาติพี่น้อง เรื่องทำมาหากิน ธิดามาอยู่ที่บ้านผม 3-4 เดือนเราก็ไม่เคยคุยเรื่องการเมืองกันเลย ยิ่งเดี๋ยวนี้คุยเรื่องการเมืองไปเขาก็คงคิดว่าเราโง่ เขารู้เรื่องในส่วนลึกมากกว่าเรา เท่าที่ผมรู้นะไม่ว่าใครจะพูดใครจะเตือนเขาก็ไม่ฟังทั้งนั้นแหละ
ห่วงคุณธิดาไหมว่าการเคลื่อนไหวในลักษณะปลุกระดมบิดเบือนอาจทำให้คุณธิดาถูกดำเนินคดี หรือติดคุกเหมือนแกนนำคนอื่นๆ
ก็แล้วแต่เวรแต่กรรม เราก็ทำใจ เขาสร้างเหตุ ชีวิตเขาก็คงจบในทางที่ดีลำบาก เพราะเขาคบคนชั่วเป็นมิตร ซึ่งในความเป็นญาติซึ่งมีความผูกพันกันอยู่เราก็ไม่อยากให้เกิดแบบนั้น
ในส่วนของลูกๆ ของคุณธิดา เขาเห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของคุณธิดา และหมอเหวงหรือเปล่า
คิดว่าไม่นะ ลูกๆ เขาไม่ได้มีแนวคิดแบบเสื้อแดงเหมือนพ่อแม่ คือ ครอบครัวนี้มีลูก 2 คน ลูกสาวคนโตเป็นเด็กเรียนเก่งมาก ถ้าจะเรียนหมอก็น่าจะสอบเข้าได้ แต่เขาไม่ชอบ คือ หมอเหวงอยากให้ลูกเป็นหมอ แต่ลูกไม่ยอม ไปเข้าอักษรศาสตร์ จุฬาฯ พ่อ-ลูกก็เลยขัดแย้งกัน ลูกคนโตพอจบจากอักษรศาสตร์ จุฬาฯ แล้วได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโท และปริญญาเอกที่ญี่ปุ่น ปัจจุบัน ก็ยังอยู่ที่ญี่ปุ่น ลูกคนโตเขาไม่ยุ่งกับการเมือง ส่วนคนเล็กเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลสระบุรี ชื่อหมอหวา เขาก็ไม่ได้เป็นเสื้อแดง เขาเป็นคนมีเหตุผล
คิดว่าการเมืองนับจากนี้จะเป็นอย่างไร
ผมว่าต้องเกิดความวุ่นวายแน่ เพราะถ้ารัฐบาลดึงดันจะแก้รัฐธรรมนูญ หรือออก พ.ร.บ.ปรองดอง เสื้อเหลืองก็ไม่ยอม เสื้อแดงที่สนับสนุนรัฐบาลก็ก้าวร้าวรุนแรงหนักข้อขึ้นทุกวัน มันก็ต้องเกิดสงครามกลางเมือง ผมก็ไม่อยากให้ข้อสันนิษฐานนี้เป็นจริงหรอก แต่ถ้ามันออกรูปนี้นะ มันหนีไม่พ้นหรอก เสื้อแดงก็รังควาน ก้าวร้าว ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ทำลายศาล ทำลายสถาบัน ฝ่ายเสื้อเหลืองก็คงไม่ยอม มันก็จำเป็นน่ะ เรื่องอะไรจะยอมอยู่ใต้รองเท้าทักษิณล่ะ
ถ้าคุณธิดาได้มีโอกาสอ่านบทสัมภาษณ์นี้ อยากฝากอะไรถึงคุณธิดาบ้าง
ก็อยากบอกเขาว่า หยุดทำร้ายสังคม หยุดทำร้ายประเทศชาติได้แล้ว ทักษิณมันไม่มีโอกาสชนะหรอก เราอยู่อีกไม่กี่ปีก็ตายแล้ว แต่ผมคิดว่าธิดาเขาก็คงไม่ฟังผมหรอก