ปัตตานี - โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี เร่งซ่อมแซมความเสียหาย คาด 1-2 เดือนจึงจะเปิดให้บริการได้ตามปกติ เจ้าของโรงแรมระบุ รัฐบาลควรเร่งหาบริษัทประกันช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่
จากเหตุคนร้ายนำรถยนต์คาร์บอมบ์มาจอดบริเวณหลังโรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี แล้วจุดชนวนระเบิดจนโรงแรมได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (2 ส.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธร จ.ปัตตานี พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ประชุมชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อสรุปสถานการณ์ความคืบหน้าในการขยายผลถึงตัวคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้
พร้อมเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุว่า จากที่ได้ไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจำนวนหลายตัว ทั้งของหน่วยงานรัฐ และเอกชน จนรู้เส้นทางการเข้าออก และความเคลื่อนไหวของคนร้ายเกือบ 100% แล้ว โดยเฉพาะรูปพรรณของคนร้ายที่ขับรถยนต์คาร์บอมบ์ ขณะนี้ เริ่มชัดเจน และรู้ตัวแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยคนขับรถยนต์คันดังกล่าว ตรวจสอบแล้วเป็นแนวร่วมกลุ่มของนายมะซอเร ดือรามะ และนายอามีน คาเม็ง โดยทั้งสองคนเป็นผู้วางแผน และร่วมประกอบระเบิดซุกไว้ในรถยนต์
สำหรับการระวังป้องกันเกรงว่าจะเกิดเหตุต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 3 เป้าหมายหลักที่คนร้ายจะก่อเหตุ ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นจุดที่มีประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะสถานบันเทิง และโรงแรมต่างๆ ก็ได้ประสานไปยังผู้ประกอบการให้ช่วยดูแลตนเองด้วย ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกส่วนมีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่
ส่วนบรรยากาศที่โรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี ล่าสุด ยังคงมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ทั้งใน และนอกเครื่องแบบเข้าดูแลความสงบเรียบร้อยของการซ่อมแซม โดยห้ามไม่ให้รถ หรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายใน และจากการเข้าตรวจสอบห้องพักทั้ง 8 ชั้น พบว่า มีการแยกความเสียหายเป็นที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งห้อง จำนวน 5 ห้อง และในส่วนที่ได้รับความเสียหายจากแรงอัดระเบิดจนกระจกแตก รวมทั้งจากน้ำระบบป้องกันไฟไหม้ซึ่งได้สร้างความเสียหายหมดทั้งตึกรวมกว่า 300 ห้อง ทำให้การซ่อมแซมอาจกินเวลาออกไปนานถึง 2 เดือน จึงจะสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ
ด้าน นายอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล ส.ว.ปัตตานี และเจ้าของโรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี เปิดเผยความเสียหายล่าสุดว่า ทางโรงแรมยังคงไม่สามารถประมาณการได้ในช่วงนี้ และจะต้องรอผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบตึก และความเสียหายอีกครั้ง นอกจากนี้ โรงแรมก็ไม่มีการทำประกันใดๆ อีกด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา มีเพียงการพูดคุยในส่วนของบริษัทที่จะเข้ามาดูแลช่วยเหลือผู้ประกอบการ แต่ก็ยังไม่มีข้อยุติจากทั้งรัฐบาลชุดก่อน หรือรัฐบาลชุดปัจจุบันในการหามาตรการช่วยเหลือ รวมทั้งในส่วนของบริษัทประกันที่จะกล้าเข้ามาดูแล และรับผิดชอบ เพราะเป็นพื้นที่พิเศษมีเหตุการณ์ความไม่สงบ จึงไม่มีบริษัทที่จะกล้าเข้ามา หรือหากกล้าค่าประกันก็แพงมาก
