กระบี่ - การไฟฟ้าฝ่ายผลิต จัดเสวนา สร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ที่จังหวัดกระบี่ ประชาชนที่เข้าร่วมไม่แน่ใจในความปลอดภัย ขอให้การไฟฟ้าทำ MOU กับท้องถิ่น-จังหวัด รับผิดชอบผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ ( 28 ก.ค.) ที่โรงเรียนเหนือคลองประชาบำรุง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัทแอร์เซฟ จำกัด บริษัทที่ปรึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดเวทีเสวนา เรื่องความต้องการพลังงานไฟฟ้าภาคใต้กับโครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ โดยมีนายสุรพล วงศ์ธัญญกรณ์ ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าภาคใต้ ผู้นำชุม ต.คลองขนาน ต.ปกาสัย เข้าร่วม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจัดกระบวนการรับฝังความคิดเห็นของประชาชน
สำหรับการเสวนาในครั้งนี้มีประชาชน เข้าร่วม จำนวน กว่า 600 คน ซึ่งเดินทางมาจาก ต.คลองขนาน ต.คลองเขม้า ต.เหนือคลอง ต.เกาะศรีบอยา ต.ปกาสัย ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง ต.ลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา ต.ห้วยน้ำขาว ต.คลองท่อมใต้ และเครือข่ายประมงพื้นบ้าน เข้าร่วม ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการจัดหามาจากแต่ละหมู่บ้านประมาณ 10 คน โดยร่วมแสดงความคิดเห็น ข้อห่วงกังวล ของโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ที่กำลังจะเกิดขึ้น มีกำลังการผลิต 800 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้าของไทย ปี 2553-2573
ซึ่งทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ชี้แจงถึงการดำเนินโครงการ ว่า เป็นโรงงานไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินคุณภาพสูง ซับบิทูบินัส นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้โครงการอยู่ระหว่าง การศึกษา ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA สร้างความรู้ ความเข้าใจ และให้ข้อมูล เกี่ยวกับความจำเป็นของโครงการกับชุมชน ในพื้นที่ และคาดว่าจะสามารถใช้ไฟฟ้าจากโรงงานแห่งใหม่ได้ในปี 2562
ขณะที่นายรวี บ่อหนา สมาชิกสภาองค์กรชุมชน จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ประชาชนได้รับผลกระทบจากมลภาวะจากโรงไฟฟ้าเดิมที่ใช้ถ่านหินลิกไนท์และน้ำมัน มีประชาชนป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ หอบหืด และพืชผลทางการเกษตร ต้นปาล์มน้ำมัน ยางพารา เสียหายเป็นจำนวนมาก ขอให้ทางการไฟฟ้าชี้แจงข้อมูลรายละเอียดที่เป็นความจริง ถึงผลกระทบ ทั้งหมด ให้ประชาชนได้รับทราบ และขอให้ ทำสัญญาประชาคม หรือ เอ็มโอยู กับ ชุมชน ท้องถิ่น และจังหวัด เพื่อรับผิดชอบ ต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อมีโรงไฟฟ้ามีปัญหาขึ้นมาในอนาคต
ด้านนายชัยยศ หาญอมร หัวหน้าศูนย์ข้อมูลการพัฒนาพลังงานไฟฟ้า จังหวัดกระบี่ กล่าว โครงการดังกล่าว สร้างเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว จังหวัดกระบี่ และชายฝั่งอันดามัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA โดยใช้ระยะเวลา 1 ปี ระหว่างปี 2555-2556 เพื่อรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน 3 ครั้ง
โดยครั้งแรกกำหนดขอบเขต และแนวทางการศึกษา ครั้งที่สองเพื่อประเมินผลการศึกษาและครั้งที่สาม เพื่อทบทวนร่างมาตรการป้องกันแก้ไขผลกระทบ คาดว่าจะสามารถก่อสร้างได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีโรงไฟฟ้าเดิมอยู่แล้ว และชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นด้วย ให้สร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ได้ แต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ ( 28 ก.ค.) ที่โรงเรียนเหนือคลองประชาบำรุง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัทแอร์เซฟ จำกัด บริษัทที่ปรึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดเวทีเสวนา เรื่องความต้องการพลังงานไฟฟ้าภาคใต้กับโครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ โดยมีนายสุรพล วงศ์ธัญญกรณ์ ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าภาคใต้ ผู้นำชุม ต.คลองขนาน ต.ปกาสัย เข้าร่วม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจัดกระบวนการรับฝังความคิดเห็นของประชาชน
สำหรับการเสวนาในครั้งนี้มีประชาชน เข้าร่วม จำนวน กว่า 600 คน ซึ่งเดินทางมาจาก ต.คลองขนาน ต.คลองเขม้า ต.เหนือคลอง ต.เกาะศรีบอยา ต.ปกาสัย ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง ต.ลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา ต.ห้วยน้ำขาว ต.คลองท่อมใต้ และเครือข่ายประมงพื้นบ้าน เข้าร่วม ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการจัดหามาจากแต่ละหมู่บ้านประมาณ 10 คน โดยร่วมแสดงความคิดเห็น ข้อห่วงกังวล ของโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ที่กำลังจะเกิดขึ้น มีกำลังการผลิต 800 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้าของไทย ปี 2553-2573
ซึ่งทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ชี้แจงถึงการดำเนินโครงการ ว่า เป็นโรงงานไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินคุณภาพสูง ซับบิทูบินัส นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้โครงการอยู่ระหว่าง การศึกษา ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA สร้างความรู้ ความเข้าใจ และให้ข้อมูล เกี่ยวกับความจำเป็นของโครงการกับชุมชน ในพื้นที่ และคาดว่าจะสามารถใช้ไฟฟ้าจากโรงงานแห่งใหม่ได้ในปี 2562
ขณะที่นายรวี บ่อหนา สมาชิกสภาองค์กรชุมชน จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ประชาชนได้รับผลกระทบจากมลภาวะจากโรงไฟฟ้าเดิมที่ใช้ถ่านหินลิกไนท์และน้ำมัน มีประชาชนป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ หอบหืด และพืชผลทางการเกษตร ต้นปาล์มน้ำมัน ยางพารา เสียหายเป็นจำนวนมาก ขอให้ทางการไฟฟ้าชี้แจงข้อมูลรายละเอียดที่เป็นความจริง ถึงผลกระทบ ทั้งหมด ให้ประชาชนได้รับทราบ และขอให้ ทำสัญญาประชาคม หรือ เอ็มโอยู กับ ชุมชน ท้องถิ่น และจังหวัด เพื่อรับผิดชอบ ต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อมีโรงไฟฟ้ามีปัญหาขึ้นมาในอนาคต
ด้านนายชัยยศ หาญอมร หัวหน้าศูนย์ข้อมูลการพัฒนาพลังงานไฟฟ้า จังหวัดกระบี่ กล่าว โครงการดังกล่าว สร้างเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว จังหวัดกระบี่ และชายฝั่งอันดามัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA โดยใช้ระยะเวลา 1 ปี ระหว่างปี 2555-2556 เพื่อรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน 3 ครั้ง
โดยครั้งแรกกำหนดขอบเขต และแนวทางการศึกษา ครั้งที่สองเพื่อประเมินผลการศึกษาและครั้งที่สาม เพื่อทบทวนร่างมาตรการป้องกันแก้ไขผลกระทบ คาดว่าจะสามารถก่อสร้างได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีโรงไฟฟ้าเดิมอยู่แล้ว และชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นด้วย ให้สร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ได้ แต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
